วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

 ซ้อนเล่ห์รัก 


[ PART 1 : ฝ้าย ]

Chapter 5

ตื้อเท่านั้นถึงจะครองโลก

ว้าว ลูกสาวตระกูลเอกอัครทรัพย์เลยเหรอแก เลิศสุดๆเลยอ่ะ อย่างนี้ก็รวยโคตรๆสิ

เสียงตื่นเต้นของยัยนัทดังขึ้นท่ามกลางเสียงดนตรีเพลงเด๊นซ์ที่ดีเจกำลังเปิดอยู่ในขณะนี้ เมื่อกลางดึกก่อนหน้านั้นหลังจากที่ฉันและยัยนัทพากันเดินทางเข้ามาถึงในผับและเราสองคนก็ดื่มกันเมาพอประมาณและยัยนัทกับฉันก็เริ่มพูดคุยเรื่องสัพเพเหระทั่วๆไป รวมถึงเรื่องของพี่นาราที่เธออยากรู้ว่าหล่อนเป็นใครโปรไฟล์ดีแค่ไหนทำไมคนที่ไม่ยอมใครเลยอย่างฉันถึงทนยอมหงุดหงิดอยู่ได้

อืม ลูกสาวคนเล็กแหละ ฉันเคยเห็นแต่ข่าวบรรดาพี่ชายทั้งสามคนของเขาเห็นว่าเป็นตระกูลนักธุรกิจตัวยงของประเทศหยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด

แล้วไงวะ คนรวยขนาดนั้นมาทำอะไรอยู่ที่นี่ หรือว่าเค้ามาทำงาน อ้อหรือว่าจะทำหมู่บ้านจัดสรรหรือคอนโดในจังหวัดเราอีก

ก็คงงั้นมั้ง ฉันยังไม่รู้รายละเอียดเรื่องนั้น รู้แค่ว่าพี่นาราก็ทำงานกับที่บ้านเธอนั่นแหละ งานที่เธอได้รับมอบหมายมาก็จากกงสีอะไรเทือกนี้แหละ

เชื้อสายจีนสินะ มิน่าดูหมวยๆสวยๆผิวพรรณดี โห ถ้าเจ๊แกจะจีบยากก็ไม่แปลกหรอก ผู้หญิงรวยๆระมัดระวังตัวเองสูงเว้ย เขากลัวจะมีคนชั่วๆมาสูบเขา

หลับตาปี๋ทันทีที่ยัยนัทพ่นน้ำลายจากความชั่วมากระแทกโดนหน้าฉันเต็มๆ

ไม่ต้องชมเพื่อนแกขนาดนั้นก็ได้ เรามันก็คนประเภทเดียวกันนั่นแหละไม่งั้นจะเพื่อนกันได้เหรอ

หืม กระแนะกระแหนเก่งสมกับเป็นเพื่อนฉันนะแก อ๊ะไหนชนแก้วสิพูดเสร็จยัยนัทก็ยกแก้วเหล้าชนกับฉันดังแกร้ง ก่อนจะพากันลุกขึ้นเต้นตามจังหวะเพลงบ้างเบาๆด้วยท่าเต้นเซ็กซี่ประจำของเราทั้งสองเป็นการแก้เครียด และที่สำคัญพวกเราก็แค่อยากวัดเรตติ้งในทุกๆครั้งที่มาเที่ยว อยากรู้ว่าเสน่ห์ของพวกเรามันจะยังคงร้อนแรงเหมือนเดิมมั้ย

มองเห็นรอบๆโต๊ะฉันมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่รายล้อม พวกเขาพากันจ้องตาพวกเราเป็นมัน นั่นเลยทำให้ฉันสังเกตุว่าโต๊ะผู้หญิงแถวๆนั้นก็เหล่ตามองพวกฉันด้วยความหมั่นไส้เช่นเดียวกันด้วย..ช่วยไม่ได้อ่ะนะก็คนมันสวย

เต้นยั่วด้วยท่าเต้นเซ็กซี่อยู่ไม่นานบรรดาผู้ชายทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ก็พากันสลับสับเปลี่ยนกันเข้ามาชนแก้วและขอเบอร์ แต่ฉันเลือกที่จะคุยและสานสัมพันธ์ปลอมๆเพื่อทดสอบเสน่ห์ตัวเองก็ชายวัยกลางคนรูปร่างท่าทางสมาร์ท ที่ฉันเห็นเขาเข้ามานั่งที่โต๊ะใกล้ๆฉันพร้อมๆกับบอดิการ์ดสองคนที่ยืนดูแลอยู่ใกล้ๆโต๊ะเขา มองดูก็รู้ว่าต้องเป็นพวกมีเงินมีอำนาจ และตอนนี้ฉันก็อยากจะทดสอบเสน่ห์กับพวกมีเงินมีอำนาจเพื่อลบปมในใจที่ยัยพี่นาราเทฉันครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนหน้านั้นลงไปให้ได้ด้วย

อย่างน้อยๆถ้าเป็นผู้ชายยังไงๆเขาก็หลงฉันล่ะวะ นั่นคือสิ่งที่ฉันคิดในขณะที่กำลังซบหัวลงไปแกล้งหนุนไหล่เขา เมื่อฉันแกล้งบอกกับเขาไปว่าฉันรู้สึกเมาเหลือเกินเหมือนจะยืนไม่ไหวแล้วยังไงไม่รู้ ซึ่งเขาก็รีบโอบไหล่ฉันไว้พร้อมๆกับการกระยิ่มยิ้มย่องเมื่อเห็นบรรดาโต๊ะรอบๆพากันมองด้วยความอิจฉาอยู่

เสี่ยทำงานอยู่ที่ไหนนะคะ พรุ่งนี้เสี่ย.. โอ๊ยเป็นฉันที่ถามเขาด้วยเสียงอ้อนๆก่อนจะร้องโอ๊ยขึ้นเมื่อรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างลอยมากระทบหัวด้านหลังเข้าอย่างแรง และเมื่อหันไปมองหาก็เห็นว่ามันเป็นก้อนน้ำแข็งก้อนใหญ่ๆก้อนหนึ่ง

ใครขว้างน้ำแข็งใส่หัวหนูเนี่ยฉันหยิบมันขึ้นมามองอย่างงุนงง พอๆกับเสี่ยคนนั้นที่ก็งุนงงไม่แพ้กันแต่เขาก็ยังพอมีสติกว่ารีบเรียกบอดิการ์ดมาดูแลฉันและตามหาที่มาของก้อนน้ำแข็งปริศนาก้อนนั้นด้วย

แต่มันคงเป็นไปได้ยากเพราะรอบๆโต๊ะก็มีแต่ภาพความวุ่นวายของบรรดานักท่องเที่ยวที่บ้างก็ยกมือขึ้นโบกเต้นไปมา บ้างก็ยกมือขึ้นเรียกบรรดาบริกร บ้างก็ยกมือเรียกกัน เมื่อมีภาพคนจำนวนมากกำลังยกแขนพร้อมๆกันอย่างนั้นมันก็เลยกลายเป็นพลางตัวคนร้ายที่ขว้างน้ำแข็งมาใส่ฉันโดยปริยาย

แต่ถ้าให้ฉันทายก็คงเป็นบรรดาคนที่ไม่พอใจฉัน อาจจะเป็นผู้หญิงที่อิจฉาฉัน หรือไม่ก็บรรดากิ๊กเก่าของฉันมาเห็นภาพบาดตาบาดใจก่อนหน้านั้นแล้วทนไม่ไหวเลยจัดมาดอกใหญ่ๆก็ได้

ซึ่งนั่นก็ทำให้ฉันหมดอารมณ์เฮฮาร่าเริงไปโดยปริยาย ได้แต่บอกลาเสี่ยคนนั้นและบ่ายเบี่ยงไม่ให้เขาสานสัมพันธ์ต่อเพื่อที่จะกลับไปคอนโดของตัวเองให้เร็วที่สุด

//////////////////

เฮ้ยได้ข่าวว่าเจ๊คนสวยแกเป็นลูกสาวตระกูลเอกอัครทรัพย์เลยเหรอวะ โห..โจทย์ของแกนี่ไม่ใช่เล่นเลยนะ ยากจริงๆซะด้วย

เสียงของยัยนุ่นดังทักฉันในคาบเรียนของเช้าวันถัดมา เล่นเอาฉันที่กำลังจะนั่งลงเก้าอี้เลคเชอร์ถึงกับรีบหันไปมองยัยนัทที่ยิ้มแหยๆรออยู่ก่อนแล้ว..

อีนัทรู้โลกรู้จะอะไรซะอีกล่ะเพื่อนอีกคนอมยิ้มหัวเราะคิกคักพูดดักทางให้

โทษที ฉันก็แค่อยากอวดเพื่อนว่าผู้หญิงของแกก็ไม่ได้กระจอกนะเว้ย นี่ลูกสาวเศรษฐีอันดับต้นๆของเมืองไทยเลยนะ ฉันน่ะตื่นเต้นแทนแกก็เลยรีบมาเรียนแต่เช้า..”

เพื่อที่จะมาเมาส์ฉันนี่นะจิกตามองยัยนัทอย่างหมั่นไส้เมื่อพูดดักทางหล่อนได้ อย่าหาทำนะเว้ยทีหลังฉันไม่ชอบ มิน่ารอไปเรียนตอนเช้าก็ไม่เห็น ที่แท้มาก่อนนี่เอง พอๆกันกับ..” เงียบเสียงลงไปเมื่อนึกถึงภาพลานจอดรถว่างเปล่าไม่มีรถหรูสีขาวที่มักจะมาจอดประจำ ไม่รู้ว่าเจ้าของขับไปไหนตั้งแต่เช้าทำให้วันนี้ฉันพลาดโอกาสที่จะทำคะแนนกับหล่อนไปเลย

พอๆกันกับ..อะไรวะ

เปล่า ไม่มีอะไรฉันรีบเปลี่ยนสีหน้าตอบรับเพื่อนทันที

เหรอ เออ..แต่ว่าฉันไม่ได้มาเช้าเพื่อเมาส์เรื่องแกเท่านั้นนะเว้ย ฉันเอาการ์ดงานแต่งพี่ชายฉันมาแจกเพื่อนที่เป็นอาจารย์อยู่มหาลัยเราด้วยน่ะ ฉันต้องขับรถไปหลายที่เกรงใจถ้าจะมากับแก คิดว่าเอารถมาเองน่าจะสะดวกกว่า..”

งานแต่งพี่ชายแก พี่นนท์เนี่ยนะ อ้าวพี่นนท์แกแต่งงานแล้วเหรอ แต่งกับใครอ่ะ ทำไมฉันเห็นพี่แกแบบว่า...”ฉันตาโตทันทีที่นึกถึงพี่ชายคาสโนว่าของยัยนัทที่หน้าตาและนิสัยถอดแบบกันทุกอย่าง ประมาณว่าน้องสาวเป็นเด็กเสี่ยยังไง พี่ชายก็เป็นอย่างนั้น..

ใช่แต่งแล้ว แต่งกับเจ๊คนหนึ่ง ก็กิ๊กของพี่นนท์ที่แกเลือกๆอยู่นั่นแหละ แกไม่รู้จักหรอกเพราะเจ๊แกไม่ใช่รุ่นเราอายุมากกว่าพี่นน์ตั้งเยอะแหนะ ตอนแรกก็ว่าจะไม่แต่งหรอกนะแต่มีปัญหานิดหน่อย คือผู้หญิงท้องน่ะ นี่ก็รอให้เขาคลอดลูกก่อนถึงมาแต่งกัน แม่อยากให้แต่งกับคนนี้แหละ เพราะเห็นเจ๊แกรักพี่นนท์ดีมีอะไรแกก็เปย์ตลอด พี่นนท์ก็เลยใจอ่อนยอมปล่อยให้ผู้หญิงท้อง แล้วก็เลือกแต่งงานกับเจ๊แกนี่ล่ะ

แล้วพี่นนท์แกรักเมียแกมั้ยล่ะ

รักสิ ไม่รักคงไม่แต่งด้วยหรอก คนนี้แหละที่แกรักที่สุดและเมียแกก็คงรักพี่นนท์ที่สุดด้วยยัยนัททั้งยิ้มทั้งพูด แววตาเมื่อนึกถึงพี่ชายของเธอทำให้ฉันรู้ว่าเธอทั้งรักและเป็นห่วงพี่ชายของเธอไม่ใช่น้อย คงเบาใจที่พี่ชายตัวเองเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที หลังจากที่สร้างปัญหาให้ครอบครัวมาพักใหญ่ๆ

เฮ้อ..นี่ฉันก็หวังว่าสักวันฉันก็จะมีคนที่ฉันรักที่สุดและรักฉันมากที่สุดมาแต่งงานบ้างเหมือนกันนะเนี่ย คงจะดีไม่น้อยถ้าเจอคนดีๆที่ต่างก็รักกันคนพูดยิ้มหวานท่าทางหน้าตาชวนฝันก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้เมื่อหล่อนลูบๆคลำๆผมตัวเองต่อหน้าฉัน..

เอ้อ แล้วหัวแกเป็นไงบ้าง โดนน้ำแข็งฟาดเมื่อคืน

ได้ยินเพื่อนถามดังนั้นฉันก็รีบยกมือขึ้นจับหลังหัวทันที ก็โนนิดๆแหละ ก็ปวดๆอยู่นะเมื่อคืน แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้วล่ะ

เออ แกต้องระวังตัวด้วยนะเว้ยโจทก์เก่าแกยิ่งเยอะๆอยู่ ฉันได้ยินที่ยัยนัทมันเล่าให้ฟังเรื่องนี้อยู่ นึกเป็นห่วงแกเหมือนกัน แกน่ะยิ่งมีคนหมั่นไส้เยอะทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชาย ยังไงช่วงนี้ก็ต้องระวังตัวให้มากนะเว้ยยัยสายรุ้งรีบพูดแทรกและทำทีแนะนำด้วยความเป็นห่วงไป

รวมทั้งพวกแกด้วยป่ะ

แหนะ..ก็ปากแกเป็นซะอย่างนี้ จะไม่ให้ใครหมั่นไส้แกได้ยังไง

แต่กับเจ๊นารายัยฝ้ายไม่เป็นอย่างนี้นะเว้ย ฉันเห็นฝ้ายมันเหวอแล้วเหวออีก หน้านี่หงอเชียวเวลาเจ๊แกสะบัดหน้าหนีมันแต่ล่ะครั้งน่ะยัยนัทรีบฟ้องเพื่อนๆถึงอาการวืดที่เธอเห็นฉันได้รับจากพี่นาราในแต่ละครั้ง เล่นเอาเพื่อนหัวเราะกันคิกๆคักๆ ซึ่งฉันเดาว่าคงจะมาจากการสมน้ำหน้า แต่ก็ไม่วายหวังดีแอบปลอบใจด้วยน้ำเสียงกระแนะกระแหนให้ฉันได้คิดตามพวกหล่อนหลังจากนั้นอีก

เออ..จีบผู้หญิงก็ต้องอย่างนี้แหละแก ท่องไว้นะโว้ย ตื้อเท่านั้นถึงจะครองโลก ตื้อเจ๊แกบ่อยๆเดี๋ยวแกก็ใจอ่อนเอง

ตื้อเท่านั้นถึงจะครองโลก...อย่างนั้นเหรอ ฉันจะลองพยายามดูแล้วกันนะ...

/////////////////////

บ่ายวันนั้นหลังจากที่ฉันได้ยินคำแนะนำแกมประชดประชันของเพื่อนๆในเรื่องที่ว่าตัวเองต้องพยายามตามตื้อให้หนักเข้าไว้แม้จะรู้สึกเหนื่อยหน่ายขนาดไหนก็ตามแล้วก็พลอยรู้สึกเครียดและปวดหัวขึ้นมาทันที เลยได้แต่พาตัวเองไปนั่งดื่มกาแฟในคาเฟ่ร้านประจำที่ตัวเองมักจะไปนั่งดื่มแก้เครียด ด้วยเพราะภายในร้านตกแต่งสวยงามบรรยากาศดี และเพื่อนๆในกลุ่มก็มักจะไปนั่งประจำเพราะที่นั้นเป็นที่ๆมักจะมีคนที่มีรสนิยมดีรวมทั้งการเงินดีชอบผ่านแวะเข้ามาดื่มและถ่ายรูปเช็คอิน ทำให้โอกาสจะได้เจอคนดีๆมีฐานะของพวกหล่อนเพิ่มมากขึ้น

สำหรับฉันไม่ได้ชอบเพราะเรื่องอย่างว่า แต่เป็นเพราะว่าร้านอยู่ระแวกเดียวกันกับคอนโด และฉันก็ชอบที่จะมานั่งที่นั่งติดกระจกหน้าร้านเพื่อมองวิวถนนหนทางด้านหน้าที่ทำให้ฉันได้หายเบื่อหายเซ็งลงไปได้ และบ่อยครั้งมันก็กลายเป็นการเช็คเรตติ้งตัวเองอย่างไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากบางทีก็มีผู้ชายมองเห็นฉันจากตรงนี้แล้วเดินตรงเข้ามาในร้านเพื่อพยายามสานสัมพันธ์กับฉัน ทำให้ฉันรู้สึกดีว่าตัวเองนั่นเป็นคนมีค่าที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็มักจะมีคนเข้าหาเสมอๆ

นั่งดื่มกาแฟรสโปรดอยู่ที่นั่งประจำเพื่อมองวิวถนนของเมืองด้านหน้าได้สักพัก ภาพรถเข็นคุณป้าขายลูกชิ้นปิ้งที่กำลังจอดขายอยู่ริมฟุตบาธเยื้องๆคาเฟ่ก็ทำให้ฉันหันไปจ้องมองด้วยความแปลกใจทันที เมื่อเห็นว่ามีรถหรูสีขาวคันคุ้นตากำลังจอดเทียบท่าอยู่ติดบริเวณนั้น และหญิงสาวเจ้ารถก็เดินลงมาจากรถด้วยท่าทางสง่างามเพื่อที่จะมาซื้อลูกชิ้นร้านป้าร้านนั้นด้วย

เดี๋ยวนะ..นี่พี่นาราซื้อลูกชิ้นปิ้งข้างทางอย่างนั้นเหรอ

จ้องมองดูเธอกำลังรอป้าคนขายปิ้งลูกชิ้นที่เธอเลือกส่งไปให้ ทั้งแปลกใจว่าทำไมผู้หญิงสวยท่าทางถือตัวที่ฉันเห็นก่อนนั้นถึงได้ทำตัวติดดินอย่างนี้ ทั้งๆที่ตอนนี้เธอก็แต่งตัวดูดีด้วยชุดสูททำงานสีขาวแสนแพง ดูท่าทางการยืนรอก็ยังกับเจ้าแม่แฟชั่นเพราะความสูงชะลูดแถมยังใส่ส้นสูงแหลมปี๊ดอีก รูปร่างท่าทางใครมองก็คงจะรู้ว่าเป็นผู้ดีมีเงินแน่ๆ แม้จะใส่แว่นตาดำปิดบังใบหน้าไว้ยังไงแต่โหงวเฮ้งคนรวยก็ยังคงเปล่งประกายอยู่ดีนั่นแหละ

สงสัยจะซื้อไปให้น้องหมากินแน่ๆเลย นั่นคือสิ่งที่ฉันคิดเมื่อเห็นเธอหันไปเรียกสุนัขจรจัดที่อยู่แถวนั้นสี่ห้าตัวให้เดินมาหาตัวเองที่ได้ลูกชิ้นจากป้ามาแล้ว และเธอก็เอาให้หมาพวกนั้นกินอย่างที่ฉันคิดจริงๆแต่จะทำให้ฉันแปลกใจกว่าเดิมนิดหน่อยก็ตรงที่เธอก็กินลูกชิ้นถุงนั้นไปพร้อมๆกับการให้สุนัขจรจัดด้วย..

เดี๋ยวนะ..ตัวเองก็กินลูกชิ้นปิ้งข้างทาง แถมยังยืนกินพร้อมๆกับป้อนน้องหมาข้างทางอีก นี่ไม่อายสายตาคนเลยหรือไงนะ

จ้องมองเธอที่กำลังเคี้ยวลูกชิ้นปิ้งที่เธอถืออยู่ในมือพร้อมๆกับยื่นลูกชิ้นให้สุนัขแถวนั้นอย่างเหวอๆ และในขณะที่เธอกำลังยื่นให้น้องหมาพลันสายตาของฉันก็ดันไปมองเห็นรอยยิ้มจากปากจิ้มลิ้มเล็กๆของเธอเข้า เลยพลอยทำให้ฉันแอบยิ้มตามไปด้วยเมื่อคิดได้ว่ารอยยิ้มของเธอในตอนนี้ก็ดูน่ารักและเต็มไปด้วยความสุขดีนะ

เฮ้อ..แตกต่างจากที่ฉันเคยเห็นก่อนหน้านั้นเสียจริง อิจฉาหมาจังเลยแฮะ..

เย็นวันนั้นหลังจากที่แอบมองเธออยู่ในคาเฟ่เงียบๆและคิดได้ว่าจริงๆเธอก็ไม่ใช่คนใจร้ายอะไรสักเท่าไหร่ และฉันก็น่าจะอดทนพยายามตามตื้อพิชิตใจเธอให้ได้อย่างที่เพื่อนแนะนำน่าจะดีกว่า คิดได้ดังนั้นฉันเลยแวะซื้อช่อดอกกุหลาบช่อเล็กๆหวังไปมอบให้เธอที่ลานจอดรถในเวลาเลิกงานประจำของเธอ

แต่จนแล้วจนรอดจากก่อนเวลาห้าโมงเย็นที่เธอจะกลับมาประจำ กลายเป็นเวลาล่วงเลยผ่านไปเป็นเกือบๆจะห้าชั่วโมงแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่เห็นแม้เงาของรถเธออยู่ดี จนฉันต้องตัดสินใจขึ้นห้องไปก่อนเมื่อคิดว่าวันนี้เธออาจจะติดธุระทำให้ไม่สามารถกลับมาเวลานี้ได้ เอาเป็นว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าฉันจะไปดักเจอเธอแต่เช้าอีกทีแล้วกัน

ความคิดของฉันเกี่ยวกับการกลับคอนโดไม่ตรงเวลาของพี่นาราของฉันเริ่มสั่นคลอน เมื่อฉันพบว่าการมาดักรอเจอพี่นาราทั้งเช้าและเย็นในระยะสามวันหลังจากนั้นไม่เป็นผลเลย เมื่อฉันไม่มีโอกาสได้พบเธอเลยและแม้แต่รถของเธอฉันก็ยังไม่เห็นว่ามันจะย้ายไปจอดในส่วนอื่นของที่จอดรถของคอนโดฉันอีกด้วย

นี่เธอน่าจะไม่ได้ติดธุระธรรมดาเสียแล้ว และดีไม่ดีตอนนี้เธออาจจะกำลังจงใจหลบหน้าฉันอยู่ก็เป็นได้