วันอังคารที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2563


นิยายรักไม่จำกัดบท

Cheapter 6
ทำตัวไม่ถูกและเรื่องที่ดูผิดปกติ
ตื้ด..ตื้ด..ตื้ด..ตื้ด..
เสียงสั่นของโทรศัพท์ในกระเป๋าของพะแพงดังขึ้นซ้ำๆกันหลายครั้ง จนเจ้าของเครื่องเริ่มได้สติและลืมตางัวเงียขึ้นมามองหาที่มาของเสียง ภาพแรกและความรู้สึกแรกที่เธอรับรู้ได้เมื่อมีสติคือมีส่วนหัวของใครบางคนกำลังนอนซบหน้ากับหน้าอกเปลือยเปล่าของเธออยู่...
เอิ้น..”สะดุ้งขึ้นมาสุดตัวและพยายามจะดันหัวหล่อนออกจากร่องกลางเนินหน้าอกตัวเอง แต่หล่อนกลับไม่ยอมออก แม้จะเห็นว่าหล่อนหลับตายังไงแต่ท่าทางที่หล่อนพยายามซุกไซ้ใบหน้าเข้าไปดุนดันร่องใจกลางนั้นอีกก็ทำให้รู้ว่าหล่อนน่าจะตื่นแล้วล่ะ
นี่แหนะ! รู้นะว่าตื่นแล้วน่ะ!” เขกหัวเรียกสติหล่อนไปหนึ่งทีจนหล่อนร้องโอดโอยก่อนจะผลักร่างหล่อนออกแล้วควานหาผ้าห่มบนเตียงหล่อนขึ้นมาคลุมม้วนต้วนตัวเองเอาไว้ลวกๆเพื่อกระโดดโหยงเหยงไปหากระเป๋าค้นเอาโทรศัพท์ออกมาดูว่าใครโทรหาตัวเองกันแน่
แม่!” อุทานด้วยความตกใจ เมื่อเห็นหน้าจอโชว์ชื่อคนโทรเข้าก่อนจะพยายามกระแอมเสียงแล้วกดรับสาย “ค่ะแม่ ว่าไงคะ”
พะแพงทำอะไรอยู่แม่โทรหาตั้งนานแล้ว ทำไมหนูไม่รับสาย แล้วนี่ค่ำแล้วทำไมหนูยังไม่กลับบ้านอีก เดี๋ยวพ่อก็จะกลับเข้าบ้านแล้วนะ ถ้าพ่อกลับถึงบ้านแล้วไม่เจอเราเดี๋ยวก็เป็นเรื่องอีก” น้ำเสียงดุๆจากปลายสายต่อว่าเธอมาเป็นชุด และพะแพงก็เลิ่กลั่กทันทีที่หันไปมองดูนาฬิกาในห้องเอิ้นแล้วเห็นว่าตอนนี้เวลาก็ปาไปหกโมงเย็นแล้ว
คุณพระ!! นี่ฉันเผลอหลับไปนานขนาดนั้นเลยหรือนี่
ขอโทษค่ะแม่คือ..เอ่อ พอดี พอดี พอดีหนูอยู่เป็นเพื่อนเอิ้นก่อนน่ะค่ะ คือรอพ่อเอิ้นกลับมาอยู่เป็นเพื่อนเอิ้นก่อนก็เลยยังไม่ทันกลับน่ะค่ะ คืออาการของเอิ้นยังไม่ดีขึ้นเลย หนูเลยไม่กล้าปล่อยเอิ้นทิ้งไว้ให้อยู่คนเดียวน่ะค่ะ” รีบไขว้นิ้วทันทีที่จำใจต้องโกหกแม่ตัวเองผ่านเข้าไปในสายอย่างนั้น
อ้าว แล้วอีกนานแค่ไหนพ่อเขาถึงจะกลับมาล่ะนั่น เดี๋ยวพ่อเราก็กลับมาแล้วนะ เดี๋ยวพ่อก็บ่นอีกว่าชอบไปขลุกอยู่กับลูกสาวบ้านนั้น”
ยิ้มแหยๆทันทีที่ได้ยินแม่ยกเหตุผลที่พ่อชอบบ่นขึ้นมาอ้าง “เอ่อ ก็อีกหน่อยคงมาแล้วค่ะ”
เหรอ งั้นเดี๋ยวพ่อก็คงใกล้จะกลับบ้านเหมือนกัน เอาอย่างนี้เดี๋ยวแม่โทรบอกพ่อให้แวะไปรับเราที่บ้านเอิ้นด้วยดีกว่าจะได้กลับพร้อมกันกับพ่อเลย เดี๋ยวไงแม่จะให้พ่อโทรหาเราอีกทีแล้วกันนะถ้าพ่อไปถึงบ้านเอิ้นแล้วน่ะ”
ค่ะได้ค่ะแม่” ตอบรับปลายสายที่วางสายไปหลังจากนั้นก่อนจะรู้สึกว่ามีอะไรสักอย่างกำลังแอบอยู่ด้านหลังตัวเอง และเมื่อหันไปมองก็เห็นหล่อนพุ่งตัวเข้ามาสวมกอดด้านหลังแล้วทำท่าซุกไซ้ดุนดันผ้าห่มจนกระทั่งเลยเถิดมาถึงเนื้อแก้มเธอข้างบนอีก
แม่บ่นอีกแล้วใช่มั้ย” เป็นคำถามที่หล่อนถามในขณะที่หยุดใบหน้าอ้อนๆต่อหน้าเธอแล้ว
ได้ยินแล้วนี่..ถามทำไมอีก” ตอบหล่อนไปด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะพยายามดันหล่อนออกจากตัวเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่หล่อนก็ไม่ปล่อยเอาแต่สวมกอดพะแพงไว้แน่นแถมยังลากร่างเธอไปนอนแผละอยู่ที่เตียงอีก
ปล๊อยยย จะทำอะไรอีกเนี่ย เค้าจะกลับบ้านแล้ว จะเปลี่ยนเสื้อผ้า”
ยังไม่ได้กลับตอนนี้ซะหน่อย เมื่อกี้ได้ยินว่าจะให้รอพ่อพะแพงมารับที่นี่นี่ แสดงว่าก็ต้องรอจนกว่าพ่อพะแพงเลิกงาน ซึ่งก็คงจะนานพอที่จะทำอะไรได้อีกอยู่”
อะไร! ทำอะไรอี๊กกก” หน้าตื่นถามหล่อนเสียงหลงทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น
ถามอีกแล้ว จะถามทั้งๆที่รู้อยู่แล้วทำไมก็ไม่รู้เนอะพะแพงนี่” ยิ้มน้อยตอบในตอนที่พยายามดึงผ้าห่มออกจากร่างพะแพง ซึ่งนั่นก็ทำให้หล่อนรีบม้วนต้วนผ้าห่มกันไว้ไม่ให้อีกคนดึงได้ถนัด แน่นอนว่าเอิ้นไม่ยอมง่ายๆแน่ เธอจึงรีบโน้มตัวไปสวมกอดพะแพงไว้แล้วใช้มือข้างที่ไม่ได้เข้าเฝือกพยามชอนไชเข้าไปใต้ผ้าห่มเพราะรู้ว่าภายในมีร่างกายที่ยังเปลือยเปล่าของพะแพงซ่อนไว้อยู่เหมือนเคย และเธอก็ค่อนข้างมั่นใจว่าตำแหน่งไหนที่มือเคลื่อนผ่านไปโดนแล้วหล่อนจะไม่ร้องโยเยเลย
ได้ผล เพราะเมื่อมือเคลื่อนผ่านจากด้านล่างผ้าห่มมาถึงแถวๆต้นขาแล้วหยุดอยู่ใจกลางบริเวณนั้นหล่อนก็ชะงักทันที แต่จะผิดตรงที่หล่อนอาจจะร้องโยเยขึ้นมาบ้างเมื่อเธอเริ่มขยับปลายนิ้วซอกซอนร่องเนื้อนั้นอีกครั้ง
อืออ..เค้ายังเจ็บอยู่..”
เจ็บ??”
ใช่..เจ็บ..ตอนนี้ก็ยังเจ็บอยู่เลย..”หน้าละห้อยตอนที่บอกเอิ้นไป
งั้นทำเบาๆ ไม่เอาเข้าข้างในก็ได้..”
หน้าแดงกร่ำทันทีที่ได้ยินเอิ้นบอกอย่างนั้น โอ๊ย..ให้ตายเถอะฉันกำลังพูดอะไรอยู่กับเธออยู่เนี่ยเอิ้น..
จริงๆแล้วพะแพงอายมากจนหน้าแทบจะแทรกแผ่นดินตั้งแต่ตื่นรอบแรกแล้วด้วยซ้ำ แต่เมื่อเห็นอีกคนทำหน้าปั้นจิ้มปั้นเจ๋อออดอ้อนเหมือนไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรแล้วเธอเลยต้องจำใจฝืนเก็บความอายเหล่านั้นไว้แม้จะลำบากใจขนาดไหนก็ตาม
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันจะคุยเรื่องเซ็กส์กับเธอนะเอิ้น..ไม่สิ..จริงๆต้องบอกว่านี่คือเซ็กส์ครั้งแรกในชีวิตของเธอและคนต่อหน้าก็เป็นคนหยิบยื่นบทเรียนเหล่านั้นให้ ยิ่งคิดยิ่งมองคนสวยที่ยิ้มหวานออดอ้อนขอทำอะไรก็ไม่รู้ข้างนอกของหล่อนแล้วพะแพงก็ได้แต่อายจนต้องพยายามเบือนหน้าหนีเมื่อหล่อนพุ่งตัวเข้ามาหอมแล้วใช้มือข้างนั้นพยามเคลื่อนที่ไปๆมาๆตามแนวร่องใจกลางของเธอจนเธอเริ่มทนไม่ไหวอีกครั้งจนได้ และหลังจากนั้นผ้าห่มที่ทำหน้าที่พันธการก็ถูกปลดปล่อยออก และร่างกายเปลือยเปล่าของพะแพงก็ถูกปลดปล่อยให้เป็นไปตามท้วงท่าที่อีกคนพยายามจัดท่าทางให้ เมื่อหล่อนหว่านล้อมว่ามันจะทำให้พะแพงมีความสุขยิ่งกว่าที่หล่อนทำให้พะแพงทำตอนแรกเสียอีก..
ซึ่งมันก็จริงดังนั้นเพราะแค่เวลาที่รอให้พ่อมารับแม้ไม่นานเท่าไหร่ แต่หล่อนก็พาพะแพงขึ้นสวรรค์ครั้งแล้วครั้งเล่า จนพะแพงแทบจะไม่อยากเชื่อเลยว่านี่คือเซ็กส์ครั้งแรกของตัวเองจริงๆ...
--<><><><>--
พี่แพงไปทำอะไรมา ดูหน้าล้าๆนะ ไหนบอกไปดูแลพี่เอิ้นที่ป่วย นี่แสดงว่าป่วยมากใช่มั้ยถึงได้ดูแลกันหนักขนาดนี้น่ะ”
ข้าวในปากพะแพงแทบจะพุ่งออกมาทันทีที่ได้ยินพะเพื่อนน้องชายตัวแสบถามคำถามด้วยหน้าตาใสซื่อแต่ก็แอบมีความประชดประชันประหลาดเจือมากับน้ำเสียงของเขาด้วย ทำเอาพะแพงสำลักไอแค่กๆก่อนจะตั้งสติพยายามตอบน้องไปด้วยท่าทางที่คิดว่าเป็นธรรมชาติที่สุดเมื่อคิดได้ว่าพ่อกับแม่ก็กำลังนั่งทานอาหารเย็นร่วมโต๊ะอยู่ด้วยหลังจากที่พ่อรับเธอกลับมาจากบ้านเอิ้นแล้ว..
ก็..ก็ใช่ไง พี่ก็ออกไปหาซื้อโจ๊กให้เขากินด้วย เขาไม่มีข้าวกิน ก็ทำนั้นทำนี่ให้เขาก่อนจะกลับมาจะไม่ให้เหนื่อยได้ไง”
อ่อเหรอ ดูเสื้อยับๆนะ” สะดุ้งทันทีที่เจ้าน้องชายตัวแสบยังกัดไม่ปล่อย และก็ลามปามมาจนถึงชุดนักเรียนที่เธอยังไม่ทันได้เปลี่ยนออกเนื่องจากพอมาถึงบ้านแล้วพ่อก็เรียกให้ทานข้าวพร้อมกันเดี๋ยวนั้นเลย นี่ไม่รู้ว่าจะช่างสังเกตุสังกาอะไรนักหนา ไม่รู้ว่าเพราะเขาชอบดูโคนันด้วยหรือเปล่า แค่จุดเล็กจุดน้อยก็ทักซะเป็นเรื่องใหญ่เล่นเอาทั้งพ่อทั้งแม่ที่กำลังทานข้าวอยู่หันมามองตามที่เขาทักทันที
เลิ่กลั่กมองหน้าพ่อแม่ก่อนจะมาคิ้วขมวดดุน้องชายขี้แกล้ง เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตอนนั้นก็ถอดเสื้อออกแล้ว จะเอาอะไรมายับอีกฟะ!
ยับตรงไหน! ไม่เห็นจะยับเลย บ้าป่ะ!”
อ้าวเหรอ สงสัยตาลาย” พะเพื่อนอมยิ้มนิดๆตอนที่แถต่อ เขามองหน้าพี่สาวที่นั่งอยู่ด้านข้างออกอาการเลิ่กลั่กอยู่ครู่หนึ่งก็ทำจมูกฟุดฟิดๆแล้วโน้มหน้ามาดมตัวพี่สาวเหมือนได้กลิ่นอะไรบางอย่าง
กลิ่นพี่แพงแปลกๆไปง่าาา.. ทำไมกลิ่นน้ำหอมเป็นกลิ่นนี้ ปกติไม่เคยใช้น้ำหอมกลิ่นนี้นี่ หอมเว่อร์เลย”
เป็นการทักที่ทำเอาพะแพงสะดุ้งเป็นรอบที่สอง แถมครั้งนี้ยังสะดุ้งแรงกว่าครั้งแรกที่โดนทักเรื่องหน้าเสียอีก เพราะพะแพงก็นึกขึ้นได้ถึงเรื่องที่เธออยู่บ้านเอิ้นในตอนที่เสร็จจากเรื่องอย่างว่ารอบสุดท้ายแล้ว และพ่อก็โทรหาว่าจะมารับ ด้วยความรีบร้อนจึงรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่ดันลืมไปว่าตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวของเธอมีกลิ่นน้ำลายของเอิ้นที่แทบจะเลียเธอทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าในตอนที่มีอะไรกันในทุกรอบที่ผ่านมา เมื่อทำอะไรไม่ทันแล้วก็ได้แต่ขอน้ำหอมของเจ้าของห้องมาประพรมร่างกายตัวเองเพื่อกลบกลิ่นนั้นลงไปกันไม่ให้พ่อสงสัย แต่เธอคงจะลงน้ำหอมหนักไปหน่อยเจ้าน้องชายตัวแสบก็เลยได้กลิ่นแปลกๆที่เขาไม่เคยได้จากพี่สาวเสียทีแถมตอนนี้เจ้าโคนันน้อยยังคิ้วขมวดสงสัยก่อนจะดีดนิ้วดังเป๊าะเมื่อเขาคิดอะไรออกแล้วอีก..
อ้อ นึกออกแล้ว กลิ่นเหมือนพี่เอิ้นนี่เอง ใช่แล้วน้ำหอมกลิ่นนี้กลิ่นของพี่เอิ้นผมจำได้ เพราะผมชอบกลิ่นพี่เอิ้น” ยังไม่วายเผยความปลื้มปริ่มถึงพี่เอิ้นที่เขาปลื้มนักปลื้มหนาออกมาในตอนที่ทัก เล่นเอาซะคนโดนทักหน้าซีดเผือกลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเห็นเค้าลางว่าน้องชายตัวร้ายทำไมมันทักอะไรได้แม่นอย่างนี้ นี่ดีไม่ดีอีกหน่อยเขาคงจะรู้ทั้งหมดแน่ๆใช่มั้ย เลิ่กลั่กมองหน้าพ่อกับแม่ที่หันมามองตัวเองตามที่น้องชายทักอยู่ครู่หนึ่งก็ตอบกลับเขาด้วยความฉุนเฉียวที่เห็นว่าทักอะไรนักหนาก็ไม่รู้
เออใช่! น้ำหอมเอิ้นนั่นแหละ ก็เห็นว่ามันหอมก็เลยขอเอ้ยเทสดูก็เท่านั้น จะอะไรนักหนาใช้น้ำหอมกับเพื่อนไม่ได้หรือไง!”
เอ้าก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็แค่บอกว่าหอมเหมือนพี่เอิ้นแค่นี้ทำไมต้องโมโหด้วย”
เออนั่นสิจะโมโหน้องทำไมน้องมันก็แค่ทักเฉยๆ มันคงผิดกลิ่นพี่สาวมันมั้ง” เป็นพลโทพนัสที่พูดแทรกช่วยลูกชายเมื่อเห็นลูกสาวอยู่ๆก็ทำทีเป็นโมโหในเรื่องที่พ่อคิดว่าไร้สาระอย่างนั้น “เพื่อนก็เลิกถามนั้นถามนี่พี่แพงได้แล้วล่ะเดี๋ยวก็ทะเลาะกันอีก รีบๆกินข้าวซะจะได้ไปพักผ่อน”
ครับพ่อ..”
แล้วเป็นไงบ้างพะแพงเพื่อนหนูไอ้เจ้าเอิ้นเป็นยังไงบ้าง เห็นว่าไม่สบายหนักเหรอ”
ค่ะ ก็หนักอยู่ค่ะพ่อ อาจจะแพ้อากาศน่ะค่ะ คือเอิ้นเขาปวดหัวหนักมากจนเลือดกำเดาออกมาด้วยในตอนที่เขาปวดหัวเลยค่ะ หนูก็เลยต้องดูแลเขา คือเป็นห่วงเขาเพราะไม่มีใครดูแลเขาน่ะค่ะ” พยายามอธิบายอาการของหล่อนให้พ่อที่ทั้งตั้งใจฟังลูกสาวทั้งทานอาหารไปด้วย
อืม..แล้วตอนที่พะแพงกลับมานี่พ่อเค้าก็ยังไม่กลับอีกเหรอ”
เอ่อ ยังค่ะ”
หึ..ตลกดีเนอะ มีลูกสาวคนเดียวแท้ๆก็น่าจะเป็นห่วงบ้าง แถมลูกสาวยังหน้าตาดีอีกไม่ห่วงบ้างหรือไงนะปล่อยให้อยู่บ้านคนเดียวตลอด หรือว่าเพราะเลี้ยงปล่อยๆยังนี้ ลูกสาวก็เลยเรียกร้องความสนใจด้วยการมามีข่าวบ้าๆบอๆกับเรา”
ลูกสาวสะดุ้งเฮือกเลิ่กลั่กเมื่อได้ยินพ่อเริ่มบ่นให้เอิ้นอีกแล้ว
ไม่มีข่าวกับพี่แพงแล้วพ่อ พี่เอิ้นเขามีข่าวกับคนใหม่แล้ว ตอนนี้เขามีคนจิ้นใหม่แล้วพ่อ”
หมายความว่าไง มีข่าวจิ้นกับคนใหม่ มีแฟนใหม่แล้วอย่างงั้นเรอะ”
ก็..” พะเพื่อนอมยิ้มเล็กๆเมื่อเหล่ตามามองเห็นพี่สาวตัวเองกำลังสำลักน้ำไอแค่กๆเนื่องจากได้ยินว่าแฟนใหม่จากพ่อ “..ประมาณนั้นแหละครับพ่อ พี่เอิ้นเขามีเด็กใหม่แล้ว ส่วนพี่แพงก็นกครับ โดนพี่เอิ้นเท”
ใครโดนเท เดี๋ยวเถอะ” หันไปยิงฟันให้น้องชายจอมกวนทันที
อ้าว ก็พี่เอิ้นมีแฟนใหม่กับพี่หลินม.4นั่นไง เพื่อนเขาก็พูดกันหมดแหละว่าพี่เอิ้นเลิกกับพี่แพงแล้ว”
ใคร!”
อะๆหยุดๆพอๆเลย เดี๋ยวก็ทะเลาะกันอีก” พ่อเห็นท่าจะไม่ดีจึงรีบห้ามศึกสายเลือดระหว่างพะแพงกับพะเพื่อนก่อนจะมีมวยคู่ใหม่เกิดขึ้นกลางวงข้าว ซึ่งนั่นก็ทำให้พะแพงได้แต่หน้านิ่วคิ้วขมวดมองน้องชายตัวแสบด้วยความงอน ทั้งโกรธให้เรื่องที่จี้ใจดำเรื่องเด็กหลิน ทั้งโกรธให้ที่เปิดประเด็นให้พ่อต้องมาบ่นเรื่องเอิ้นอีก กลายเป็นว่าอาหารค่ำเย็นนั้นพะแพงเลยต้องทานข้าวไปพร้อมๆกับการร่ายโอวาทยาวของพ่อเรื่องของเธอและเอิ้นและลามปามไปจนถึงการเลี้ยงดูสั่งสอนลูกของพ่อเอิ้นอีก..
เฮ้อน่าเบื่อจังเลย..บางทีการอยู่คนเดียวแบบเอิ้นมันก็คงจะสบายใจกว่าอยู่กันครบทั้งครอบครัวแบบนี้ล่ะมั้งเนอะ..
--<><><><>--
เสียงวีดีโอคอลจากโทรศัพท์พะแพงดังขึ้นเมื่อเธอกำลังเดินเช็ดผมเปียกของตัวเองออกจากห้องน้ำ และเมื่อเธอรีบเดินมารับก็พบว่ามันเป็นสายจากคนบางคนที่พ่อเธอพึ่งจะบ่นให้เมื่อตอนเย็นเรื่องที่ว่าเธอชอบไปขลุกอยู่กับหล่อนนัก เธอขยับชายเสื้อคลุมอาบน้ำสีขาวของตัวเองเข้าหากันให้เรียบร้อยก่อนจะรับสายหล่อนด้วยความดีใจ
นึกว่าจะไม่รับสายซะแล้ว” ปลายสายส่งยิ้มหวานผ่านทางหน้าจอมาเมื่อเห็นหน้าพะแพงในสายแล้ว “ทำอะไรอยู่พึ่งอาบน้ำเหรอ”
ใช่ พึ่งอาบน้ำ แล้วเอิ้นล่ะ..ทำอะไรอยู่”
เค้าเหรอ เค้าพึ่งตื่น พอพะแพงกลับแล้วเค้าก็เพลียหลับไปเลย พึ่งรู้สึกตัวเมื่อกี้ก็เลยโทรหานี่ล่ะ แล้ว..แล้วพะแพงล่ะเป็นยังไงบ้าง”
ก็..ก็ดี..” ยิ้มอายๆส่งผ่านสายไป
ยังเจ็บอยู่มั้ย..”
พะแพงไม่ตอบคำถามคนในสายแต่พยักหน้าแดงๆของตัวเองเป็นคำตอบแทน ซึ่งนั่นก็ทำให้หล่อนอมยิ้มทันที
ขอโทษนะ ขอโทษที่ทำให้พะแพงเจ็บ..” เสียงละห้อยขอโทษหล่อนไปด้วยทั้งความรู้สึกผิดทั้งสงสารจริงๆเพราะตอนนั้นทั้งที่ตั้งใจจะทำให้หล่อนด้วยความนุ่มนวลแล้วแท้ๆ แต่แค่ได้ยินเสียงร้องและใบหน้าสวยเวลาที่หล่อนออกอาการทนไม่ไหว หรือแม้แต่เวลาที่หล่อนส่งเสียงร้องครางเป็นชื่อเธอก็แทบจะทำให้เธอสติหลุดลอยและเผลอทำอย่างนั้นกับหล่อนแรงๆไปทุกครั้ง อย่างครั้งแรกที่สอดใส่นิ้วเข้าไปแล้วเอิ้นแอบเห็นว่าพะแพงเลือดออกและตั้งใจว่าจะหยุดทำ แต่ด้วยอารมณ์พลุกพล่านทั้งได้ยินเสียงร้อง ทั้งได้มองท่าทางก็กลายเป็นต้องปล่อยเลยตามเลยเผลอเล่นบทรักจนอีกคนบ่นว่าเจ็บในรอบต่อมาอีกจนได้ ดีที่ตอนที่หล่อนนอนหลับไปในรอบแรกเธอไปเอาผ้าชุบน้ำมาทำความสะอาดส่วนนั้นของหล่อนให้ หล่อนเลยไม่ได้รู้สึกตกใจอะไรเมื่อตื่นขึ้นมาไม่มีร่องรอยเลือดเหลือให้เห็นแล้ว...
ครั้งหน้าจะระวังมากกว่านี้นะ”
บ้า..ใครจะยอมให้มีครั้งหน้ากัน” แอบทำหน้าอมลมให้หล่อนทันที
ก็ได้ไม่มีก็ไม่มี..แค่อยากจะบอกให้รู้ว่าเป็นห่วงนะ..”นี่ก็ยังพยายามอ้อนคนสวยที่งอนตุ๊บป่องอีก
รู้แล้วน่า เป็นห่วงตัวเองบ้างเถอะน่ะ เป็นยังไงบ้าง เลือดกำเดายังไหลออกอีกหรือเปล่า..” ถามหล่อนไปเมื่อนึกขึ้นได้ในเรื่องที่หล่อนเลือดกำเดาไหลในตอนที่มีอะไรกัน ในตอนแรกที่พะแพงสังเกตุเห็นก็คือตอนที่เอิ้ยเงยหน้าจากการละเลงลิ้นลงในเนินเนื้อส่วนล่างของเธอขึ้นมาหยุดมองเมื่อเห็นเธอร้องหนักมาก และเธอก็สะดุ้งทันทีที่เห็นใบหน้าแดงๆคิ้วขมวดของเอิ้นกลายเป็นค่อยๆมีเลือดกำเดาไหลออกมาจากจมูก
เฮ้ย! เอิ้น! เอิ้นเลือดกำเดาไหลอีกแล้วอ่ะ” รีบยกตัวขึ้นมาจับใบหน้าหล่อนดูใกล้ๆซึ่งนั่นก็ทำให้หล่อนรีบสะบัดหน้าหนีแล้วรีบลุกขึ้นหาทิชชู่มาซับเลือดกำเดาตัวเองออก
เอิ้นยังไม่โอเคอีกเหรอ นี่ ถ้าไม่ไหวก็นอนพักไปเถอะอย่ามา..”
ก็ไม่ได้ไม่ไหว แค่..แค่ อาจจะความดันขึ้นตอนที่กำลังทำอย่างนี้ก็ได้” หันมายิ้มหวานพูดแทรกพะแพงเมื่อหล่อนเช็ดเลือดออกหมดแล้ว
หมายความว่าไง..” ถามคนตรงหน้าอย่างแปลกใจเมื่อเห็นหล่อนยังคงยิ้มแล้วค่อยๆเดินย่างสามขุมมาหาเธอที่เตียงต่อ
ก็หมายความ เค้าอาจจะ แบบว่า..อาจจะมีอารมณ์มากเกินไป มันก็เลย..เลือดกำเดาออกมั้ง”
มีอารมณ์มากเกินไป หึ!” ยื่นมือไปหยิกแขนเอิ้นด้วยความหมั่นไส้ทันที “ก็บอกแล้วว่าอย่าทำๆ นี่ล่ะผลของการคิดแต่เรื่องเดียว ชิ!..คนลามก! ไม่สิต้องเรียกว่าหื่นถึงจะถูก”
ว่าใครหื่น”
เอิ้นไง!”
อมยิ้มกรุ้มกริ่มทันที..“ไม่หรอกมั้ง เค้าว่าพะแพงก็หื่นเหมือนกันนั้นล่ะ ไม่งั้นไม่ยอมให้เค้าทำอย่างนี้ง่ายๆหรอก..ใช่มั้ย..”
พูดเสร็จก็ก้มลงทำตัวอย่างคำว่า “อย่างนี้”ของหล่อนให้ดูด้วยการใช้ปลายลิ้นละเลงรักณจุดนั้นให้พะแพงต่อ นั่นเลยทำให้พะแพงได้แต่ร้องโวยวายต่อว่าคนหื่นของเธอว่าหล่อนช่างเจ้าเล่ห์และลามกสัปดนยิ่งนัก และเธอก็คิดว่าหล่อนค่อนข้างจะหื่นและลามกมากๆด้วย เพราะทุกๆครั้งที่ทำอะไรหลังจากนั้นเธอก็จะเห็นหล่อนเลือดกำเดาไหลออกมาตลอดไม่มากก็น้อยอยู่เรื่อยๆจนกระทั่งเสร็จกามกิจ แต่ถึงแม้เธอจะคิดว่าหล่อนเลือดกำเดาไหลเพราะความหื่นของหล่อนยังไง ในใจลึกๆก็ยังแอบห่วงหล่อนอยู่เหมือนเดิมจนกระทั่งต้องถามหล่อนอย่างตอนนี้นี่แหละ..
ดีขึ้นแล้วล่ะ..” เสียงเอิ้นดังเรียกสติพะแพงจากห้วงความคิดก่อนหน้านั้น
ทีหลังไม่ต้องทำอย่างนี้เลยนะ แล้วถ้าคิดแต่เรื่องอย่างนี้วันหลังก็หัดสงบจิตสงบใจตัวเองบ้าง ถ้าทนไม่ได้มันจะกลายเป็นทำร้ายตัวเองเปล่าๆ หัดนั่งสมาธิซะบ้าง”
คนฟังหลุดขำทันที “นี่จะให้เค้าไปบวชชีว่างั้น”
ก็แล้วแต่จะคิด ถ้าเลิกคิดฟุ้งซ่านไม่ได้ก็คงต้องพึ่งทางนั้นล่ะนะ”
นี่..เค้าก็ไม่ได้มีอารมณ์คิดแต่เรื่องอย่างว่าอะไรขนาดนั้นหรอกนะ แล้วที่ทำๆอยู่ก็มีแต่เค้าทำให้พะแพงคนเดียวด้วย ตัวเองมีแต่ได้กับได้อยู่ฝ่ายเดียวแท้ๆ เค้าไม่เห็นจะได้อะไรด้วยเลย ไม่มีประโยชน์อะไรเลยเห็นมั้ยที่เค้าจะเอาแต่คิดเรื่องอย่างว่าน่ะ”
งั้นทำทำไม! ไม่คิดแล้วทำทำมะ!” หน้าแดงเถียงหล่อนด้วยความฉุนเฉียวทั้งอายทั้งโมโห “ถ้าไม่ได้คิดเรื่อง...”
เค้าอยากให้พะแพงมีความสุขไง!” ตัดบทพะแพงทันทีจนอีกคนชะงัก “อะไรก็ตามที่ทำให้พะแพงรู้สึกดี เค้าจะทำให้พะแพงทุกอย่างเข้าใจมั้ย นี่!เรากำลังจะทะเลาะกันอีกแล้วนะพะแพง เค้าไม่อยากให้เราทะเลาะกันนะ แล้วตอนนี้เค้าก็ไม่ได้อยู่ใกล้ๆพะแพงพอที่จะง้อพะแพงได้ด้วย เค้าไม่อยากให้เราทะเลาะกันในสายแล้วพะแพงก็ปิดเครื่องหนีเค้าไป อยากให้เราคุยกันดีๆวางสายกันด้วยความรู้สึกดีๆสักวันจะได้มั้ย”
เงียบทันทีที่ได้ยินอีกคนขอร้องด้วยใบหน้าซีเรียสจริงจังอย่างนั้น
จะบอกอะไรให้รู้นะ ว่าถึงเค้าจะไม่ได้มีความสุขกายอย่างที่พะแพงมี แต่เค้าก็มีความสุขใจมากๆที่ได้เห็นพะแพงมีความสุขทุกๆครั้งอย่างนี้ เค้าอยากมองเห็นใบหน้าของพะแพงเวลามีความสุขอย่างนั้นทุกๆครั้งเลยได้ยินมั้ย”
คนฟังหน้าแดงระเรื่อขึ้นเมื่อเริ่มเข้าใจความหมาย ข้อความนี้ถ้าตัดเรื่องลามกออกไปแล้วฟังด้วยหัวใจจะพบว่ามันเป็นข้อความที่แสนจะโรแมนติกสำหรับเด็กสาวอย่างเธอเป็นที่สุด ความสุขที่ได้รับเพียงฝ่ายเดียวแต่อีกฝ่ายก็เต็มจะมอบให้ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างนั้นเหรอ แถมหล่อนยังสารภาพว่านั้นคือความสุขที่สุดของหล่อนแล้วด้วย ทำไมเธอจะไม่รู้สึกดีจนกระทั่งหัวใจพองโตเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ และไม่สามารถจะละตาออกจากใบหน้าสวยของอีกฝ่ายที่จ้องมองเธอด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนอย่างนี้กันเล่า
เธอปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอมีความสุขที่สุด และหลงรักหล่อนอย่างหัวปรักหัวปรำจนมันก้าวผ่านล้ำเส้นกั้นสถานะที่เธอใช้กั้นใจของเธอและหล่อนไว้ด้วยคำว่าเพื่อนไปแล้ว และเธอก็ข้ามมันไปไกลมากแล้วด้วย นี่เธอคงจะย้อนกลับไปยืน ณ จุดเดิมของความรู้สึกไม่ได้แล้วใช่มั้ย...
ดึกวันนั้น หลังจากที่เอิ้นเห็นว่าหากทั้งสองคุยกันนานกว่านี้อาจจะทะเลาะกันอีก เธอจึงขอวางสายจากพะแพงในแบบดีๆที่ช่วงนี้ไม่ค่อยจะได้ทำเสียทีด้วยเรื่องที่ว่า...
อ๊ะ จะวางสายแล้วล่ะ จะนอนแล้วเค้ารู้สึกเพลีย แต่ก่อนนอนขออะไรก่อนดิ”
อะไร..”
บอกคิดถึงให้ชื่นใจหน่อยสิ จะได้นอนหลับฝันดี”
คิดถึงอะไรอีกล่ะ” อมลมด้วยความเขินขึ้นมาทันที
แหนะ บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าฝืนความรู้สึก อยากพูดอะไรก็พูดออกมาอย่าเก๊ก อุตสาห์ถามนำทางให้แล้ว จะบอกหรือไม่บอกว่าคิดถึง อุตสาห์อ่อยล่ะนะ..”
ชะงักทันทีที่เห็นอีกคนทำหน้าจริงจังผ่านกล้อง ตอนนี้ดวงตาสวยของหล่อนก็กำลังจ้องมองมานิ่งๆทำให้รู้ว่านี่หล่อนไม่ได้มาเล่นๆนะ จะจริงจังก็จริงจัง จะบอกอะไรก็บอกมาซะที ขี้เกียจรอ..
เอ่อ..คะ..คิด..ถึง..” แหนะ..หลุดปากบอกออกมาแล้วจนได้..
ว่าไงนะไม่ค่อยได้ยินเลย” พะแพงเหล่ตามองหล่อนทันทีที่ได้ยินข้อความยอกย้อนโยเยเหมือนแกล้งกันยังไงก็ไม่รู้ “สงสัยคลื่นไม่มี..เร็วๆบอกใหม่ ไม้ได้ยินเลย ว่าอะ..”
โอ๊ย! คิดถึงค่าาา ได้ยินมั้ย ไปนอนได้แล้วไปนี่ก็ง่วงเหมือนกัน” กลั้นใจพูดตัดบทคนขี้แกล้งด้วยความอายแสนอายซึ่งนั้นก็ทำให้อีกคนอมยิ้มโชว์หน้าหวานระเรื่อของหล่อนผ่านมาตามสาย
อะเค~~ แค่นี้ก็ฝันดีแล้ว กู๊ดไนท์ค่ะ พรุ่งนี้เจอกันนะคะที่รัก มว๊วฟฟ”
หน้าแดงกร่ำตอนได้ยินเอิ้นบอกลาด้วยคำว่าที่รักและส่งจูบลาผ่านสาย และตอนนี้เมื่อหล่อนวางสายไปแล้วพะแพงก็ได้แต่นั่งหน้าแดงใจสั่นอยู่บนเตียงนอนจนไม่สามารถทำอะไรได้ต่อ ได้แต่ฝืนบอกตัวเองให้ทำตัวเป็นปกติเข้าไว้แม้ว่าจะฝืนลำบากแค่ไหนก็ตาม แต่ไม่ว่าจะทำอะไรภาพใบหน้าของเอิ้นและท้วงท่าอริยาบทที่หล่อนมีต่อเธอทุกๆอย่างก็ปรากฏสว่างไสวขึ้นมา ยิ่งตอนที่พะแพงพยายามเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนแล้วเห็นร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเองในกระจก ภาพรอยจุมพิตรักที่หล่อนฝากไว้ทั่วๆเนินอกและทั่วๆผิวเนื้อก็ทำให้ความรู้สึกวาบหวามในตอนนั้นเกิดขึ้นกับร่างกายตัวเองอีกครั้งจนได้
ให้ตายเถอะ..ทำไมใจเราถึงสั่นและเต้นแรงอย่างนี้ แถมยังรู้สึกร้อนวูบวาบๆไปทั่วกายในตอนที่คิดถึงภาพเอิ้นในตอนนั้นอีก ทำไมความทรมานที่มาพร้อมกับความสุขแปลกๆจึงเกิดขึ้นในทุกๆครั้งที่ภาพห้วงเวลานั้นปรากฏขึ้นในความทรงจำนะ ค่อยๆลูบไล้ร่างกายเปลือยเปล่าตัวเองไปมาก่อนจะหลับตาแล้วพ่นลมหายใจ ร่างกายที่ไม่เคยได้รับสัมผัสแปลกปลอมใดๆไม่ว่าจะตัวเองหรือใครตอนนี้มันกลายเป็นของหล่อนไปหมดทุกส่วนแล้ว ฉันเป็นของเธอไปแล้ว แล้วนี่เราสองคน..จะเป็นอะไรยังไงต่อไปกันนะ..เอิ้น..
--<><><><>--
ฮาย...พะแพงคนสวยวันนี้แต่งหน้ามาโรงเรียนด้วยเหรอ”
เสียงเพื่อนร่วมห้องดังทักพะแพงขึ้นในขณะที่พะแพงกำลังเดินยิ้มหวานเข้ามาในห้องเรียนด้วยความอารมณ์ดี เล่นเอาพะแพงหุบยิ้มทันทีที่ได้ยินข้อความทะแม่งๆจากเพื่อนคนนั้น
ปะๆเปล่า เค้าไม่ได้แต่งหน้า ไม่ได้ทำอะไรมาเลย แป้งพับก็ไม่ได้ทา” ยกมือขึ้นจับหน้าตัวเองท่าทางเหรอหราตอนที่เดินไปที่โต๊ะตัวเองโดยมีเพื่อนคนเก่าเดินตามเข้ามาดูใกล้ๆอีก
จริงอะ ทำไมหน้าพะแพงดูใสๆแก้มแดงๆไงไม่รู้ ดูแบบมีน้ำมีนวลมากๆเลย มองแว๊บแรกยังนึกว่าแต่งหน้า นี่แสดงว่ามีสูตรบำรุงผิวหน้าตัวเองดีใช่มั้ย ผิวหน้าถึงดูสวยสุขภาพดีอย่างนี้อ่ะ ไปทำอะไรมาบอกหน่อยดิ” ตั้งคำถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น นั่นเลยทำให้พะแพงได้แต่ยิ้มแหยๆแทนคำตอบในใจที่ว่า..ก็ไม่ได้ทำอะไรเลยจริงๆตื่นมาก็อาบน้ำล้างหน้าทาครีมบำรุงผิวธรรมด๊าธรรมดา บอกไปอย่างนั้น จะเชื่อมั้ยล่ะ..
ก็..เอ่อ” ยังไม่ทันที่พะแพงจะพยายามอธิบายเพื่อนคนนั้นเสียงบุคคลที่สามก็ดังแทรกขึ้นมาก่อน
ก็ไม่ได้ทำอะไรมาก คนมีความรักก็เงี้ยแหละ ที่หน้ามีน้ำมีนวลตลอดก็เพราะกำลังอินเลิฟไง ใช่มั้ยคะที่รัก” สะดุ้งเฮือกทันทีที่หันไปมองเจ้าของเสียงที่เธอรู้แล้วล่ะว่าเป็นใคร และแน่นอนว่าตอนนี้หล่อนก็เดินเข้ามาประชิดตัวเธอข้างๆโต๊ะก่อนจะทำเป็นก้มลงหอมแก้มเธอโชว์เพื่อนคนนั้นด้วยความอารมณ์ดี..
เอ..ไม่หอมดีกว่า..” คนหอมเปลี่ยนใจทันทีเมื่อเห็นพะแพงนั่งหน้าแดงตัวแข็งทื่อไม่ต่อต้านใดๆทั้งๆที่ปกติจะต้องโดนหล่อนด่าไปแล้ว แต่เมื่อคิดขึ้นได้ว่าหล่อนคงอายค้างจากเรื่องเมื่อวานและคงทำตัวไม่ถูกไม่รู้ว่าควรจะทำตัวอย่างไรเมื่อเจอกันอีกครั้งดี เอิ้นเลยพยายามทำตัวปกติให้เป็นตัวอย่างด้วยการหันไปทักทายและคุยเล่นเรื่องอื่นกับเพื่อนคนนั้นสักพักจนเพื่อนคนนั้นบอกลาเธอทั้งสองคนไปแล้ว
ทำตัวปกติสิ..”
เป็นเสียงของเอิ้นที่กระซิบกระซาบพะแพงขึ้นเมื่อเธอเดินเข้ามานั่งที่นั่งตัวเองแล้วแต่พะแพงยังนั่งหน้าแดงตัวแข็งทื่ออยู่เหมือนเดิม ไม่แม้จะทักทายหรือยิ้มแย้มอะไรให้เธอเลยทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็ยังเห็นหล่อนยิ้มแย้มอยู่กับเพื่อนคนนั้นอยู่เลย
ยิ่งมีพิรุธเพื่อนยิ่งสงสัยนะ..” ค่อยๆโน้มหน้าลงไปตะแคงแนบหัวกับพื้นโต๊ะตอนที่พยายามยิ้มหวานออดอ้อนพะแพงคนขี้อายที่ยังแข็งทื่อเป็นท่อนไม้อยู่เหมือนเดิม ดีที่หล่อนหันมามองหน่อยๆในตอนที่เธอค่อยๆเลื่อนมือไปใต้โต๊ะแล้วไปวางที่กระโปรงเธอแผละ
ทำอะไร..เดี๋ยวเถอะ” ขมึงตามองเอิ้นตอนที่กระซิบกระซาบด้วยเสียงที่เบาแสนเบาถามหล่อน
ล้อเล่นน่า หยอกๆ” อมยิ้มกรุ้มกริ่มตอนที่ทำเสียงกะล่อนบอก “เค้าแค่อยากให้พะแพงทำตัวตามสบายกว่าตอนนี้แค่นั้น ไม่ได้คิดอะไรมากหรอกน่า ใครเค้าจะกล้า..”
ใช่สิ..ไม่มีใครกล้าหรอก ยกเว้น..” ชายหางตามองมาที่หล่อนที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่หยุด
อ๊ะ ต่อล้อต่อเถียงได้แล้ว แสดงว่าสถานการณ์เป็นปกติแล้วสินะ เย้ ดีใจจังเยยย” แกล้งปรบมือแป๊ะๆให้พะแพงที่ขมึงตามองเธอด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะก้มลงหยิบเอาถุงพลาสติกสีขาวที่วางไว้ข้างๆกระเป๋าตัวเองยื่นส่งไปให้พะแพงที่หน้าโต๊ะต่อ
อ๊ะนี่..ซื้อมาฝาก”
อะไร..” เหล่ตามองนิดหนึ่งเมื่อเห็นเอิ้นค่อยๆหยิบบรรดาของในถุงออกมาวางไว้ที่หน้าโต๊ะไม่ว่าจะเป็นป๊อกกี้กล่องสีแดงสีชมพูสามสี่กล่อง ชอคโกแลคทอบบาโลนสีขาวและสีแดงอีกอย่างละสองสามแท่ง ทั้งชอคกาแลคคิทแคทอีกหลายห่อ และห่อลูกอมฮาร์ทบีทห่อใหญ่อีกสองห่อ
เดี๋ยว ซื้อมาทำไมตั้งเยอะแยะ”
ก็อยากซื้อมาให้ คิดว่าน่าจะต้องการน้ำตาลเยอะ”
บ้า ตัวเองบอกคนอื่นให้ทำตัวปกติแต่ตัวเองดันเวอร์ซะเอง ซื้อมากองให้ซะขนาดนี้คิดว่าคนอื่นจะไม่สงสัยรึไง”
ไม่สงสัยดิ ถ้าเพื่อนถามเค้าก็จะบอกว่าพะแพงฝากซื้อแค่นั้นจบ”
โฮ๊ะ ยังแถไปได้เนอะ” เหล่มองกองเครื่องบรรณาการต่อหน้าอยู่ครู่หนึ่งก็เห็นเอิ้นหยิบเอาซองฮาร์ทบีทมาเกะขยุกขยิกแล้วส่งมาให้เธอเม็ดหนึ่ง
อ้าปากเร็ว”
ฮ๊ะ!!” ตกใจก่อนจะมองซ้ายมองขวาด้วยกลัวเพื่อนเห็น “ทำอะไร๊ เดี๋ยวเพื่อนเห็น” กระซิบกระซาบบอกหล่อนด้วยเสียงที่เบาแสนเบา
ก็เร็วๆสิ ตอนนี้ไม่มีใครเห็นช้ากว่านี้เดี๋ยวก็มีเพื่อนมาแซวนะ” ทำเสียงดุขู่อีกคนที่หน้าแดงมองฮาร์ทบีทต่อหน้าอย่างกล้าๆกลัวๆ “เร็วๆจะกินหรือไม่กิน นี่ไม่ได้ป้อนใครง่ายๆนะถ้าคนนั้นไม่ได้สำคัญจริงๆน่ะ”กลับมายิ้มหวานให้หล่อนอีกครั้งในตอนที่หลอกล่อด้วยคำหวาน นั่นเลยทำให้พะแพงแอบอมยิ้มด้วยความดีใจเล็กๆก่อนจะยื่นใบหน้าไปอ้าปากรับฮาร์ทบีทเม็ดนั้นมากิน อารมณ์ทั้งเขินทั้งอายทั้งกลัวเพื่อนๆจะเห็น
โอ๊ยให้ตายเถอะ~~ ทำไมเวลาที่เอิ้นเอาอกเอาใจเธอมันถึงได้น่ารักมุ้งมิ๊งอย่างนี้นะ แค่ไม่ทำอะไรก็หลงหล่อนจะแย่อยู่แล้วยิ่งมาเจอลูกอ้อนอย่างนี้ทำเอาพะแพงถึงกลับเขินจนทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว ได้แต่แอบมองสายตาคู่หวาน ที่จนป่านนี้ก็ยังคงจ้องมองมาที่เธอด้วยความอ่อนโยนอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าฮาร์ทบีทเม็ดนั้นจะถูกส่งเข้าปากไปแล้วก็ตาม
นั่งจ้องมองคนสวยต่อหน้าด้วยอาการเคลิ้มๆเหม่อๆอยู่ครู่หนึ่งก็ได้สติ เมื่ออีกคนละสายตาจากพะแพงออกไปมองที่ด้านนอกระเบียง แล้วรีบหันมาหาพะแพงด้วยอาการรีบร้อน
เอ่อ พะแพงเดี๋ยวเค้ามานะ ขอไปคุยธุระแป๊บนึง” พูดเสร็จหล่อนก็รีบเดินออกไปด้านหน้าระเบียง และเมื่อพะแพงมองตามก็เห็นว่ามีใครบางคนกำลังยืนยิ้มมองดูหล่อนกำลังเดินออกไปหาด้วยใจจดจ่อ
หลิน..แอบรำพึงรำพันชื่อของใครคนนั้นในใจในตอนที่เห็นเอิ้นและหล่อนเดินออกจากหน้าห้องไปไหนสักที่ด้วยกัน และในคาบก่อนเข้าเรียนวันนั้นหล่อนก็ไม่กลับมาหาพะแพงที่นั่งรอหล่อนอยู่ในห้องอีกเลย มีเพียงข้อความสั้นๆที่หล่อนส่งมาบอกพะแพงก่อนหน้าที่เสียงออดจะดังขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น..
พะแพงลงมาเข้าแถวเลยนะ เค้าไม่ได้ขึ้นไปหาแล้ว เดี๋ยวค่อยเจอกันในแถว”
ข้อความประโยคเดียวสั้นๆแต่ทำเอาความรู้สึกดีๆที่พะแพงมีต่อเจ้าของข้อความหายไปจนเกือบจะหมด เหลือเพียงความเสียใจและน้อยเนื้อต่ำใจ จนวันนั้นทั้งวันเธอเลือกที่จะไม่คุยอะไรกับเอิ้นอีกเลย
--<><><><>--
เฮ้อออ..เสียงถอดถอนใจของพะแพงดังขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลังจากที่เธอพยายามกดตัดสายคนที่โทรหาเธอซ้ำๆซึ่งก็เป็นคนเดียวกันกับที่ทำให้เธอรู้สึกเสียใจจนเธอตัดสินใจไม่คุยอะไรกับหล่อนเลยทั้งวันนั้นแหละ
ตอนนี้เป็นเวลาพักเที่ยงแล้ว และพะแพงก็เลือกที่จะหนีเพื่อนของเธอโดยไม่ปล่อยให้หล่อนได้ถามไถ่หรืออธิบายเรื่องที่หล่อนพยายามชวนพะแพงคุยในคาบตลอด แต่พะแพงก็แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินและไม่ยอมฟังใดๆตลอด จนกระทั่งพอออดพักเที่ยงดังขึ้นเธอก็รีบลุกขึ้นวิ่งหนีเอิ้นออกจากห้องไปทันที และกลายเป็นมานั่งเหงาคนเดียวอย่างนี้
ได้ยินเสียงตะโกนโวกเวกของนักเรียนชายม.ต้น7-8ที่กำลังเตะฟุตซอลที่สนามใกล้ๆกับโต๊ะม้าหินอ่อนที่เธอนั่งเล่นด้านหลังอาคารเรียนแล้วพะแพงก็ได้แต่ชำเรืองมอง เห็นบางคนวิ่งหลอกล่อเตะแข้งเตะขาในสนามเพื่อสกัดกันไม่ให้อีกฝ่ายได้ลูกบอลไป แล้วกลายเป็นฝ่ายที่โดนสกัดเตะสะดุดขาเขาล้มลงไปกองกับสนามจริงๆ พะแพงเห็นคนที่ล้มลงไปกลิ้งไปกลิ้งมากับพื้นอยู่ครู่หนึ่งเพื่อนคนที่แกล้งเตะก็ยื่นมือลงมาดึงมือเขาให้ลุกขึ้นยืนข้างๆก่อนจะกลายเป็นยื่นแขนไปกอดไหล่กันขอโทษขอโพยกันไป
น่ารักดีเนอะ..เพื่อนกันจะโกรธกันได้นานแค่ไหน ยังไงๆก็ให้อภัยกันล่ะเนอะ..หมายถึงถ้าเป็นเพื่อนกันจริงๆอ่ะนะ.. ทั้งคิดทั้งชำเรืองมองพวกเขากอดคอส่งยิ้มให้กันก่อนจะหันมามองที่โทรศัพท์ของตัวเองที่ตอนนี้มันสั่นเพราะเอิ้นกำลังโทรเข้าหาอีกครั้ง หึ..นี่ก็คงเห็นฉันเป็นแค่เพื่อนเหมือนกันใช่มั้ย ก้มลงตัดสายหล่อนทันทีที่ความรู้สึกน้อยใจปรากฏขึ้นมาในหัวก่อนจะพยายามกดบล๊อกเบอร์หล่อนไว้ ณ เดี๋ยวนั้น ด้วยความคิดที่ว่าเธอยังไม่พร้อมจะคุยกับหล่อนจริงๆในตอนนี้ เพราะยังไม่เข้าใจในสถานะที่หล่อนกำลังหยิบยื่นให้ตัวเอง ทั้งๆที่คิดว่าเธอทั้งสองคนน่าจะผ่านข้ามเส้นคำว่าเพื่อนไปแล้วแท้ๆแต่สิ่งที่หล่อนทำในวันนี้กำลังทำให้เธอสับสนอีกครั้ง
แค่เธอเห็นเด็กคนนั้นเธอก็ทิ้งฉันหนีหายไปทันทีทันใดเลย แค่นี้ก็รู้แล้วว่าใครสำคัญกว่าใคร นี่สินะ..นางเอกตัวจริงของเรื่อง
หัวเราะออกมาด้วยความสมเพชตัวเองเมื่อนึกขึ้นได้ถึงนิยายเรื่องนั้น ที่เมื่อวานเธอแอบดีใจว่าชีวิตเธอไม่ใช่นิยายเรื่องนั้นสักหน่อย ก็เมื่อเอิ้นกับเธอมีอะไรกันทำให้เธอพลอยนึกดีใจว่าสุดท้ายแล้วบทนางอิจฉาที่เธอกลัวนักกลัวหนาก็ไม่ใช่เธอนี่นา เพราะเพื่อนรักทั้งสองในนิยายไม่ได้ลงเอยได้กันแบบในชีวิตของเธอนี่ นั่นคือสิ่งที่เธอคิดไว้เมื่อวานก่อนจะมาเจอภาพบาดตาบาดใจที่เห็นเอิ้นตัดสินใจเลือกหลินแล้วหายไปกับหล่อนดื้อๆ
แต่..ยังไงๆซะในนิยายเพื่อนรักสองคนแพรี่กับเอรินก็ไม่ได้มีอะไรอย่างฉันกับเอิ้นสักหน่อย มันน่าจะไม่ใช่เรื่องเดียวกันและมันก็อาจจะไม่จบอย่างเดียวกันหรอกใช่มั้ย แอบคิดเข้าข้างตัวเองอย่างเศร้าๆก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นเปิดดูบล๊อกที่อัพโหลดนิยายเรื่องนั้นในหน้าเว็บของตอนที่เธอเปิดอ่านค้างไว้..
อ้าว..ทำไมกลายเป็นหน้าเว็บว่างเปล่าไปแล้วล่ะ พะแพงถึงกับประหลาดใจเมื่อพบว่าตอนที่เป็นอ่านค้างไว้กลายเป็นหน้าเว็บเพจเปล่าและเมื่อเธอลองกดย้อนกลับไปดูที่หน้าสารบัญก็พบว่าจากที่นิยายที่เคยอัพไว้40กว่าตอนจบก็ได้กลายเป็นเหลือแค่20ตอนเท่านั้น และเมื่อเธอคลิกเข้าไปดูที่ตอนที่20ก็พบว่ามีบางอย่างในเนื้อหาของนิยายที่เปลี่ยนไปจากเดิม นิยายที่เธอเคยอ่านซ้ำๆ3-4รอบตอนนี้ได้เปลี่ยนเนื้อหาไปแล้ว
คิ้วขมวดก้มลงอ่านเนื้อหาในนิยายเรื่องนั้นด้วยความงุนงง..
แพรี่พยายามดึงมือหญิงสาวร่างบางที่สูงกว่าเธอเกือบๆจะสิบเซนติเมตรให้หยุดหันมามองเธอเมื่อหล่อนกำลังจับแขนของเอริณดึงรั้นไว้เหมือนจะบังคับอะไรสักอย่าง
คุณทำอะไรน่ะ”
หล่อนหันมองก่อนจะอมยิ้มนิดๆ “ก็กำลังจะคุยกับเอริณไง ทำไม คุยไม่ได้เหรอ”
ไม่ได้ เอริณจะกลับบ้านแล้ว ใช่มั้ยเอริณ” หันมาขมึงตามองเอริณให้ตอบรับตามที่เธอสั่ง
เอ่อ ยังไม่ได้กลับตอนนี้ คือเค้ากำลังจะคุยธุระกับครูพี่แนนอยู่”

ครูพี่แนนอย่างนั้นเหรอ?? พะแพงคิ้วขมวดด้วยความงุนงงเมื่อเห็นชื่อตัวละครใหม่ในนิยาย

แพรี่ไปพูดไม่มีหางเสียงอย่างนั้นทำไม นั่นครูนะ
ทำไมจะพูดไม่ได้กะอีกแค่ครูฝึกสอนยังไม่ทันได้เป็นครูจริงๆสักหน่อย แถมอายุแก่กว่าเราแค่กี่ปีเอง”

ครูฝึกสอนชื่อครูพี่แนนอย่างนั้นเหรอ?? คิ้วขมวดด้วยสงสัยในเนื้อหาใหม่ที่อ่านดูคุ้นอย่างทะแม่งๆ
เดี๋ยวนะแล้วทำไมอ่านๆดูแล้วเหมือนแพรี่กำลังหวงเอรินเลยอ่ะ แล้วรัณห์ล่ะไปอยู่ไหนทำไมเนื้อหาในตอนนี้ถึงมีแค่แพรี่ เอรินกับครูพี่แนน?เท่านั้น ค่อยๆเลื่อนอ่านนิยายจนจบบทก็ยังไม่เห็นย่อหน้าที่กล่าวถึงรัณห์เลย
เออ..จริงๆด้วยตอนนี้นิยายเรื่องนี้อัพถึงCheapterที่20แล้วก็ยังไม่ได้อัพCheapterใหม่ นี่ไรท์เตอร์ลบเนื้อหานิยายออกเพื่อที่จะรีไรท์ใหม่ทั้งหมดอย่างนั้นเหรอ..
ยังคงคิ้วขมวดสงสัยด้วยความงงก่อนจะพยายามกดอ่านCheapterก่อนหน้านั้นซึ่งก็พบว่าเนื้อหายังคงเหมือนเดิมอยู่คือแพรี่กำลังเริ่มมีใจให้กับรัณห์ในลุคใหม่ที่ถอดแว่นมาโรงเรียนและกำลังอยู่ในช่วงกะหนุงกะหนิงกันแต่พอมาเป็นเนื้อหาใหม่ในCheapter20กลายเป็นแพรี่เริ่มหันมาหวงเอริณที่มีมีครูฝึกสอนสาวแสนสวยมาสนใจและดูเหมือนว่ากำลังจะจีบแล้ว..
เอ๋..คุ้นๆน่ะ ทำไมเนื้อหามันเหมือนกับเราตอนที่นี้ที่เอิ้นกำลังหึงเราเลยล่ะ ยิ่งคิดก็ยิ่งงงยิ่งสงสัยในเนื่อเรื่องของนิยาย นี่ไรท์เตอร์นึกยังไงถึงได้มาเปลี่ยนเนื้อหาในนิยายใหม่เสียล่ะ แล้วนี่เปลี่ยนมาตั้งแต่วันไหนเนี่ย พยายามอ่านดูวันที่นิยายChepterนี้อัพลงบล๊อกก่อนจะเห็นว่ามันพึ่งอัพเมื่อสองวันก่อนหน้านั้นเอง
สองวันก่อนหน้านั้นเหรอ..เออจริงด้วยเราก็ไม่ได้มาเปิดอ่านนิยายเรื่องนี้ช่วงนั้นเลย ด้วยกำลังเครียดๆกับเรื่องเอิ้นอยู่ก็เลยปล่อยผ่านมาจนถึงวันนี้ และหนึ่งก็ด้วยเพราะว่าอ่านจบตั้งหลายรอบแล้ว และสองก็คิดว่าเนื้อเรื่องคงจะไม่ใช่เรื่องของตัวเองแล้วด้วยก็เลยไม่ได้สนใจอะไร กลายเป็นว่าพอมาเปิดอีกทีเนื้อเรื่องทั้งหมดดันเข้าเค้าเรื่องของตัวเองอีกแล้ว
ให้ตายเถอะ นี่นิยายมันเปลี่ยนตามเรื่องของฉัน หรือเรื่องของฉันเปลี่ยนตามนิยายเรื่องนี้กันแน่เนี่ย พะแพงเริ่มรับรู้ได้ถึงความผิดปกติที่น่ากลัวแบบแปลกๆจนถึงกับเผลอร้องกรี๊ดทันทีที่รู้สึกเหมือนมีใครบางคนเดินเข้ามาจับไหล่เธอเงียบๆหลังจากนั้น
เฮ้ยยย!! กรี๊ดทำไมพะแพง!!”เจ้าของมือที่จับไหล่ก็ตกใจที่เห็นพะแพงร้องกรี๊ดเสียงหลง “..นี่เค้าเอง”
คนกรี๊ดค่อยๆคลายอาการตกใจเมื่อเห็นว่าเป็นเอิ้น แต่พอนึกขึ้นได้ว่ากำลังโกรธให้หล่อนอยู่เธอก็รีบยกตัวขึ้นแล้วเดินหนีหล่อนออกจากที่นั่งตรงนั้นทันที
เฮ้ย พะแพงจะไปไหน นี่คุยกันก่อนได้มั้ยจะเดินหนีเค้าทำไมนี่เค้าอุตสาห์เดินหา” คนเดินตามพยายามร้องเรียกทั้งรีบวิ่งเข้าไปประชิดตัวพะแพงที่เดินลิ่วๆหวังจะเดินหนีเอิ้นเข้าไปในอาคารเรียนด้านหน้า
พะแพง” เอิ้นรีบดึงแขนพะแพงไว้ในตอนที่วิ่งมาทันหล่อนด้านหลังอาคารเรียนนั้นแล้ว แต่ยังไม่ทันได้คุยอะไรกับหล่อนดีเสียงดังตุ๊บแรงๆก็ดังเรียกความสนใจให้เอิ้นหันไปมองตามก่อนจะพบว่ามันเป็นเสียงจากลูกบอลที่โดนเตะอย่างแรงจนลอยโด่งขึ้นไปชนเข้ากับกระถางต้นไม้บนระเบียงอาคารข้างบนและมันก็กำลังหล่นลงมายังจุดที่พวกเธอทั้งสองกำลังดึงรั้งกันอยู่พอดีเป๊ะ..
เฮ้ย พะแพงระวัง!!” รีบดึงร่างพะแพงสุดแรงแขนตัวเองเมื่อเห็นว่ามันกำลังตรงลงมาจวนตัวพวกเธอทั้งสองแล้ว
เพล้งงง!!
เสียงกระถางแตกดังไปรอบๆบริเวณนั้น ซึ่งนั่นก็ทำให้พะแพงที่เซล้มลงไปนอนกับพื้นตามแรงดึงของเอิ้นได้แต่ตกใจเมื่อเห็นภาพที่ว่าตรงที่เธออยู่กับจุดที่กระถางต้นไม้ตกนั้นห่างกันไม่กี่คืบเอง นี่ถ้ามันตกลงมาโดนเธอจริงๆไม่แน่ว่าตอนนี้เธอคงเจ็บตัวไปแล้วก็ได้
โอ๊ย..โชคดีชะมัดเลย ตอนนี้หัวใจพะแพงเต้นระรัวทั้งตกใจและดีใจผสมปนเปกันไปหมดทั้งเริ่มนึกขึ้นได้ว่าถ้าไม่มีเอิ้นมาดึงเธอไว้ก่อนเธอจะเป็นยังไงบ้างในตอนนี้ เออ..จริงสินะ แล้วเอิ้นล่ะ..
ค่อยๆหันไปมองคนด้านข้างที่นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นด้วยความตกใจ และยิ่งเห็นว่าที่หัวของหล่อนมีเลือดไหลลงมาเป็นทางจนอาบไปทั่วๆแก้มของหล่อนแล้วพะแพงก็ทำตัวไม่ถูกได้แต่ร้องโวยวายเพราะคิดว่าเอิ้นคงเป็นอะไรไปแล้ว
เฮ้ย เอิ้น เอิ้น ไม่นะเอิ้น!!เอิ้นอย่าเป็นอะไรนะ”