วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

นิยายรักไม่จำกัดบท

Cheapter 7
ปรับความเข้าใจและความอบอุ่นที่กลับมาอีกครั้ง
พะแพงเป็นยังไงบ้างลูก”
เสียงของคุณนายพรพรรณคุณแม่ยังสาวและสวยของพะแพงดังขึ้นหน้าห้องฉุกเฉินเมื่อเธอเห็นลูกสาวยืนลุกลี้ลุกลนอยู่ด้านหน้าด้วยท่าทางตื่นกลัวของหล่อน และเสื้อผ้านักเรียนของหล่อนก็เต็มไปด้วยเลือด
ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมงกว่าหลังจากที่เอิ้นประสบอุบัติเหตุทางโรงเรียนก็รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันทีซึ่งก็รวมถึงพะแพงที่ขวัญหนีดีฝ่อร้องไห้ในตอนนั้นตลอด จนคุณครูต้องพาขึ้นรถพยาบาลเพื่อมาเช็คความปลอดภัยของร่างกายเธอด้วย
หนูโอเคค่ะแม่ แต่..แต่ เอิ้นเขา..เขา”
เป็นอะไร เอิ้นเป็นอะไรเหรอลูก” ทั้งพูดทั้งดึงตัวลูกสาวสุดที่รักเข้ามาโอบกอดและหอมผมปลอบใจหล่อนเมื่อคิดได้ว่าหล่อนคงกำลังตื่นกลัวจากสิ่งที่หล่อนโทรมาบอกเธอก่อนหน้านั้นเกี่ยวกับอุบัติเหตุ แต่นั่นก็ยังไม่ได้หมายรวมถึงรายละเอียดที่ว่าคนที่เป็นหนักกว่าหล่อนคือเพื่อนคนสนิทที่อยู่ในห้องฉุกเฉิน ณ ตอนนี้
เอ่อ พอดีเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยนะคะ” เสียงครูประจำชั้นที่ยืนอยู่ระแวกนั้นและกำลังเดินเข้ามาหาแม่ของพะแพงตอบตัดบทขึ้นก่อน ทั้งสองยกมือขึ้นไหว้กันพอเป็นมารยาทก่อนจะที่ครูจะทำหน้าที่รายงานถึงสิ่งที่เกิดขึ้นตามหน้าที่เพื่อให้ผู้ปกครองของนักเรียนได้ทราบในเบื้องต้นก่อน “คือพะแพงกับเอิ้นจะเดินเข้าอาคารเรียนกันแต่เด็กนักเรียนแถวนั้นเตะลูกฟุตบอลไปโดนกระถางต้นไม้ตกลงมาโดนเอิ้นเข้า ก็ดีที่พะแพงไม่ได้เป็นอะไรด้วยแต่แกก็คงตกใจมากเพราะอีกนิดเดียวก็โดนแกแล้วค่ะ”
เอิ้นเขาเอาตัวรับกระถางแทนหนูเองแหละค่ะ! จริงๆหนูนี่แหละที่จะโดน!” พะแพงรีบพูดแทรกคุณครูทั้งร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียงดังขึ้น
อ้าว ทำไมหนูถึงคิดว่าเอิ้นเข้าเอาตัวมารับแทนล่ะลูก”
ก็ตอนนั้น เอิ้นเขาเรียกหนูแล้วเขาก็รีบดึงตัวหนูออกจากจุดนั้นและเขาคงพลาดไปโดนเอง”
แม่พะแพงหน้าเสียทันที เธอหันไปมองคุณครูที่ยิ้มแหยๆก่อนจะกล่าวกับแม่พะแพงด้วยน้ำเสียงสุขุมเพื่อยืนยันในสิ่งที่ลูกสาวของเธอบอกว่าจริง
พะแพงเขาพูดอย่างนี้มาตลอดทางเลยค่ะ คงจะขวัญเสียที่เห็นเพื่อนตัวเองเป็นอย่างนั้นไป คือตอนที่ครูเห็นเขาตอนแรกนี่คือเลือดเต็มหน้าเอิ้นไปหมดเลยนะคะ”
ตายแล้ว!!”คุณนายพรพรรณหน้าเสียอุทานออกมาด้วยความตกใจทันที “แล้วตอนนี้เอิ้นเป็นยังไงบ้างคะ” ถามครูกลับด้วยความรู้สึกเป็นห่วงเอิ้นขึ้นมาจริงๆซะแล้ว
ก็ตอนนี้ เอิ้นก็อยู่ในห้องฉุกเฉินอยู่ค่ะ หมอกำลังทำแผลให้อยู่ ดีที่แกได้สติตื่นขึ้นมาก่อนที่จะมาถึงโรงพยาบาลก็เลยไม่น่าห่วงเรื่องการกระทบกระเทือนของสมองแต่ถึงยังไงคุณหมอก็คงต้องเช็คทั้งหมดอีกทีเพื่อความปลอดภัยของเอิ้นเค้าน่ะค่ะ”
แม่พะแพงถอนหายใจโล่งอก “เฮ้อ ค่อยยังชั่วหน่อย นี่ถ้าหนูเอิ้นเป็นอะไรไปล่ะก็แม่คงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตแน่ๆ” คุณครูยิ้มให้แม่ก่อนจะหันมามองพะแพงที่ยังคงร้องไห้และโทษตัวเองไม่หาย
แต่..ถึงยังไงเอิ้นเขาก็เจ็บตัวเพราะหนูอยู่ดี แล้วถ้าไม่มีเอิ้นมาช่วยไว้ตอนนี้จริงๆหนูคงนอนอยู่ในห้องนั้นแทนแล้ว และดีไม่ดีมันอาจจะหนักกว่าที่เอิ้นเป็นตอนนี้เสียอีก” พะแพงทั้งพูดทั้งร้องไห้
พะแพง..”
จริงๆนะคะแม่ ตอนที่หนูลุกขึ้นมาดูกระถางมันตกลงตำแหน่งที่หนูอยู่พอดีด้วยซ้ำ นี่หนูยังคิดเลยว่าถ้าหนูโชคร้ายมากๆบางทีหนูอาจจะตายไปแล้วก็ได้”
พะแพง ไม่เอาน่าอย่าพูดอย่างนั้นสิลูก” คุณนายพรพรรณพยายามปลอบโยนอาการตื่นกลัวของลูกสาว เมื่อเห็นว่าหล่อนทั้งพูดทั้งร้องไห้และร่างกายของหล่อนก็ยังสั่นตลอด ทำให้เธอพอจะรับรู้ได้ว่าเหตุการณ์ที่หล่อนเจอนั้นคงจะน่ากลัวมากอยู่และหล่อนก็คงจะขวัญเสียเอาเรื่องอยู่ และนั่นก็ทำให้คุณนายพรพรรณอดคิดตามพะแพงไม่ได้ว่าหากไม่ได้เอิ้นแล้ว ไม่แน่ว่าลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเธออาจจะไม่อยู่รอดปลอดภัยมายืนกอดเธอได้อย่างนี้แน่ๆ
นั่นเลยทำให้คุณนายพรพรรณถึงกับเดินไปกำชับคุณหมอเจ้าของไข้ให้ดูแลเอิ้นให้ดี และค่าใช้จ่ายต่างๆเธอจะดูแลให้เองเพราะเธอก็เริ่มเป็นห่วงและมีความรู้สึกที่ดีกับเพื่อนลูกสาวคนนี้เพิ่มมากขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านั้นพากันตั้งแง่กับสามีของตัวเองว่าเด็กคนนี้คงเป็นเด็กมีปัญหา และนำพาเอาปัญหาเหล่านั้นมาสู่ลูกสาวตัวเองอย่างที่ทั้งสองเป็นข่าวคู่จิ้นบ้าๆบอๆอย่างนั้นแน่ๆ
เอาเถอะ อย่างน้อยเด็กคนนี้ก็กล้าเสี่ยงตายช่วยลูกสาวเธอนะ คงไม่มีเด็กบ้าที่ไหนกล้าเอาตัวเข้าเสี่ยงช่วยเพื่อนตัวเองขนาดนี้หรอก ถ้าเด็กคนนั้นเขาไม่หวังดีกับเพื่อนคนนั้นจริงๆน่ะ..
--<><><><>--
พลโทพนัสพ่อของพะแพงเดินตรงเข้ามาในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลด้วยท่าทางรีบร้อนกระวนกระวาย เขายกมือรับไหว้ครูประจำชั้นของพะแพงและหมอเจ้าของไข้ของเอิ้นที่ยืนอยู่ด้านข้างเตียงก่อนจะหันไปมองเด็กสาวคนที่นั่งยิ้มแหยๆยกมือไหว้เขาอยู่บนเตียงพยาบาล โดยที่ด้านข้างเตียงนั้นก็คือลูกสาวสุดที่รักของเขารวมทั้งภรรยาคนสวยที่ยืนประกบข้างๆด้วย..
เกิดอะไรขึ้นนี่” ถามทั้งสองด้วยความงุนงง “พ่อฟังในโทรศัพท์ได้ยินไม่ค่อยถนัด รู้แต่ว่าพะแพงเข้าโรงพยาบาล แล้วนี่ทำไม เอ่อ พะแพงไม่ได้เป็นอะไรใช่มั้ยหรือยังไง”
ก็ไม่ได้เป็นแต่ก็เกือบจะเป็นแล้วล่ะค่ะ ถ้าไม่ได้หนูเอิ้นเขาช่วยไว้ก่อนน่ะ..” เป็นแม่พะแพงที่ตอบเรื่องราวทั้งหมดแทน ท่านทั้งพูดทั้งยื่นมือไปจับไหล่เอิ้นที่ยิ้มแหยๆอยู่บนเตียงพยาบาลด้วยใบหน้าซีดๆเซียวๆของหล่อน “มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับทั้งสองคนน่ะค่ะ คือกระถางมันตกลงมาจากระเบียง แล้วก็เกือบโดนพะแพงแต่เอิ้นมาช่วยไว้ก่อนแล้วก็เลยเจ็บแทนพะแพงไปด้วย..”
เอ่อ ก็ไม่ใช่ว่าเจ็บแทนหรอกค่ะ” คนที่นั่งอยู่บนเตียงรีบออกตัวแทนพะแพง “มันเป็นอุบัติเหตุ หนูแค่พยายามช่วยพะแพงไว้แต่ตัวเองหลบไม่พ้นแค่นั้น คุณแม่อย่าพูดอย่างนั้นเลยนะคะ พะแพงจะรู้สึกไม่ดีเปล่าๆค่ะ”ทั้งพูดทั้งหันไปมองเพื่อนสาวของตัวเองที่จนถึงตอนนี้หล่อนก็ยังคงหน้าหมองน้ำตาซึมด้วยความรู้สึกผิดของตัวเองอยู่ตลอด ดีที่หล่อนเข้ามาเห็นว่าตัวเองปลอดภัยและไม่เป็นอะไรมากแล้วใบหน้าน้ำตานองก่อนหน้านั้นเลยคงเหลือไว้แค่รอยซึมๆของหยดน้ำเท่านั้น
เรื่องมันเป็นยังไงเนี่ย” พ่อถามต่อด้วยความเป็นห่วง
เอ่อ..เดี๋ยวยังไงจะเล่ารายละเอียดให้ฟังอีกทีนะคะ เรื่องมันยาวค่ะคุณ รู้แค่ว่าลูกสาวเราปลอดภัยเพราะหนูเอิ้นช่วยไว้ก็พอแล้ว”
พ่อพะแพงพยักหน้ารับ ใบหน้าคิ้วขมวดก่อนหน้านั้นก็ค่อยๆคลายออกเป็นรอยยิ้มอ่อนโยนตอนที่หันมาถามเพื่อนของลูกสาวต่อ
แล้วหนูเอิ้นเป็นยังไงบ้างลูก”
เด็กสาวยิ้มแหยๆก่อนจะตอบ “เอ่อ ก็เย็บไปสามเข็มค่ะ ดีที่มันไม่ตกลงมาโดนตรงๆ แค่แฉลบไปโดนหัวฝั่งนี้หนูก็เลยไม่เป็นไรมาก แต่ตอนที่มันตกลงมาโดนก็ตกลงมาแรงอยู่เล่นเอาซะหนูน็อคไปเลยค่ะ” ทั้งพูดทั้งชี้แผลที่หัวด้านหน้าฝั่งซ้ายที่ตอนนี้มีผ้าก๊อตคล้ายโบผูกผมติดหนึบอยู่ตามรอยเย็บ
แล้วอาการอย่างอื่นละลูก หมอได้เช็ดเอ่อ..” พ่อยกมือขึ้นจับหัวตัวเองเพื่อสื่อความหมายถึงสมอง
อ่อ หมอเช็คเบื้องต้นแล้วค่ะ หนูโอเคค่ะพ่อ ไม่เป็นอะไรค่ะ พ่อไม่ต้องห่วงนะคะ”
จริงเหรอ..” แม้ได้ยินอย่างนั้นแต่พ่อพะแพงก็ยังไม่วายเป็นห่วงอยู่ดี ด้วยคิดว่าหากเป็นลูกสาวตัวเองเขาก็คงต้องกังวลห่วงนั้นห่วงนี่อยู่ดีตามวิสัยของคนเป็นพ่อ เออ..จริงสินะ แล้วพ่อของเอิ้นล่ะ
แล้วพ่อของของเอิ้นล่ะลูก” ถามเด็กสาวไปทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ว่าจริงๆแล้วควรจะเห็นเขาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ตอนแรกๆเสียด้วยซ้ำ เพราะนี่มันก็เย็นมากแล้วและเอิ้นก็ควรจะกลับไปบ้านพักผ่อนได้แล้วเพราะหมอก็ทำแผลเสร็จเรียบร้อยแล้ว
เอ่อ พ่อเขาติดกองถ่ายแฟชั่นอยู่ที่ญี่ปุ่นน่ะค่ะ วันอาทิตย์ถึงจะได้กลับ เขาโทรมาถามเห็นว่าหนูปลอดภัยแล้วก็เลยขอตัวไปทำงานต่อก่อน”
อ้าว ทำไมทำอย่างนั้นล่ะ ทำไมถึงกล้า..”
พ่อ!!” พะแพงรีบขยิบตาห้ามพ่อทันทีที่เห็นว่าพ่อกำลังจะบ่นเรื่องพ่อของเอิ้นต่อหน้าลูกสาวเขาอีกแล้ว ซึ่งนั่นก็ทำให้พ่อเข้าใจความหมายก่อนจะรีบกระแอมเปลี่ยนท่าทีเชิงตำหนิคนเป็นพ่อก่อนหน้านั้นหันมาห่วงใยลูกสาวเขาที่มีบุญคุณต่อลูกตัวเองน่าจะดีกว่า
เอ่อ..แล้วนี่เอิ้นก็ต้องอยู่บ้านคนเดียวจนกว่าพ่อจะกลับใช่มั้ย”
ค่ะ ใช่ค่ะ..”
พลโทพนัสมองเพื่อนลูกสาวตัวเองตอบกลับด้วยสีหน้าซีดๆเซียวๆของหล่อนแล้วก็ยิ่งนึกสงสารเข้าไปใหญ่ ถึงแม้ว่าเด็กคนนี้จะมีข่าวคราวเสียๆหายๆกับลูกสาวตัวเองยังไง แต่ถ้าคิดในหลักมนุษยธรรมและหัวใจความเป็นพ่อคนที่ดีที่มีอยู่เต็มเปี่ยมในตัวเขาแล้ว เหตุใดเขาจะกล้าปล่อยเด็กสาวที่ก็เหมือนลูกสาวอีกคนทิ้งไว้คนเดียวอย่างนั้นกันเล่า..
เฮ้อ วันนี้วันศุกร์ อีกตั้งสองวันแหนะกว่าพ่อเราจะมา ไม่เอาหรอกพ่อไม่ปล่อยให้หนูอยู่คนเดียวในวันที่หนูไม่สบายอย่างนี้หรอก เอางี้ดีกว่าไปอยู่กับพ่อกับพะแพงที่บ้านดีกว่านะ เดี๋ยวพ่อจะให้พะแพงเค้าช่วยดูแลหนูเอง”
--<><><><>--
พี่เอิ้นเอาผัดผักมั้ยครับ”
เสียงกระตือรือร้นของพะเพื่อนน้องชายตัวแสบของพะแพงดังขึ้นบนโต๊ะอาหารในมื้อเย็นของวันหลังจากที่ทุกคนเดินทางกลับมาจากโรงพยาบาลแล้ว
ตอนนี้ด้านหน้าเขามีกับข้าวหลากหลายชนิดวางเรียงรายกระจายอยู่บนโต๊ะไม้สักขนาดใหญ่ โดยที่หัวโต๊ะมีพ่อนั่งกำกับส่วนแม่ก็นั่งในลำดับถัดมา และต่อหน้าเขาก็มีพี่สาวสุดสวยที่นั่งอยู่ข้างๆรุ่นพี่สาวแสนสวยที่เขาแอบปลื้มจนถึงกับเก็บอาการตื่นเต้นไม่ไหวในตอนที่พยามชวนหล่อนคุยด้วยอย่างนี้..
เอ่อ ผมหมายถึงผัดผักรวมมิตรนี่น่ะครับ”
เอิ้นยิ้มรับหนุ่มน้อยคิ้วเข้มหน้าเรียวยาวในชุดลำลองแสนเท่ คนที่นั่งอยู่ที่นั่งต่อหน้าอย่างมีมารยาท ก่อนจะพยักหน้ารับเขาด้วยความเกรงใจ “เอ่อก็ได้จ๊ะ”
และเมื่อเห็นว่ารุ่นพี่สาวแสนสวยที่เขาปลื้มแสนปลื้มไม่ปฏิเสธอะไรแล้วเขาก็รีบทำการเซอร์วิสหล่อนด้วยการตักผัดผักรวมมิตรต่อหน้าเสริฟให้หล่อนพร้อมๆรอยยิ้มหวานเยิ้มของเขาทันที
นี่นะครับ เป็นของขึ้นชื่อของแม่ผมเลยครับพี่ ใครมาที่บ้านแม่จะต้องทำเมนูนี้ไว้ให้ทานโดยเฉพาะเลยเพราะแม่ทำอร่อยมากและผมกับพี่พะแพงก็ชอบมากๆด้วย”
อ่อ จ๊ะ”
จริงๆนะครับ แล้วก็นี่ครับ ผมอยากให้พี่เอิ้นชิมแกงเลียงนี่ด้วย” ทั้งพูดทั้งตักแกงเลียงด้านข้างเสิร์ฟคนตรงหน้าต่อ “นี่ก็อร่อยมาก แม่ผมก็ชอบทำ แต่คนที่ทำอร่อยจริงๆคือพี่พะแพงครับ..”
ยักคิ้วเล็กๆในตอนที่หนุ่มน้อยตักแกงเลียงเสริฟให้เธอแล้ว “พะแพงนี่นะ?” หันไปเหล่มองหล่อนที่นั่งตัวตรงดิ่งอยู่ข้างๆโต๊ะตัวเอง
ใช่ครับ พี่พะแพงก็ทำกับข้าวอร่อยครับ”
อ้าว ไม่ยักกะรู้ว่าทำกับข้าวเป็นด้วย” หันไปยิ้มน้อยถามหล่อนทันที
ก็ไม่ได้บอก และก็ไม่รู้จะบอกทำไมด้วยในเมื่อไปโรงเรียนก็ซื้อข้าวกินทุกวันอยู่แล้วนี่” คนตอบตอบด้วยท่าทางเก๊กๆเกร็งๆของหล่อนต่อ ในเมื่อตอนนี้เป็นครั้งแรกในรอบหลายๆปีที่เธอและเพื่อนสาวได้กลับมานั่งทานข้าวร่วมกันในบ้านอีกครั้งหลังจากที่พักหลังมีข่าวเรื่องคู่จิ้นหลุดออกมาแล้วทางบ้านเธอไม่ค่อยปลื้มใจกับข่าวนั้นเท่าไหร่ทำให้ทั้งสองจำเป็นต้องเลี่ยงการมาหาอยู่ที่บ้านเพื่อความสบายใจของพ่อแม่เธอ
แล้วพี่เอิ้นทำกับข้าวเก่งหรือเปล่าครับ” เสียงหนุ่มน้อยเรียกความสนใจจากเอิ้นอีกครั้ง
เอ่อ..พี่ไม่เคยทำกับข้าวจ๊ะ อยู่บ้านก็ซื้อกินตลอดหรือไม่ก็พ่อพาไปทานข้างนอกน่ะ แต่ก็นานๆครั้งค่ะ เพราะพ่อก็ไม่ค่อยกลับบ้านด้วย”
อ้าวเหรอครับ งั้นมาทานที่นี่ก็ได้นะครับ ทั้งแม่ทั้งพี่พะแพงทำกับข้าวตลอดถึงจะมีแม่บ้านแต่แม่ก็ชอบที่จะทำเองแถมบางวันพี่พะแพงยัง..”
เพื่อน! นี่โม้เกินไปป่ะ ชวนพี่เขาคุยอยู่ตลอดพี่ยังไม่เห็นว่าเขาจะตักข้าวขึ้นมาเคี้ยวเลย จะตักตอนไหนแกก็ชวนเค้าคุยอยู่เนี่ย” เป็นพี่สาวที่พูดแทรกน้องชายเมื่อเห็นว่าเรื่องนี่น่าจะยาวและคนฟังก็คงจะไม่ได้ทานจริงๆจังๆสักทีหากขืนยังมาตอบรับงึกๆงักๆอยู่อย่างนี้
ปล่อยให้พี่เขากินไปเหอะ แล้วแกอ่ะก็กินแล้วไม่ใช่เหรอข้าวเย็น นี่ก็อาบน้ำแล้วแท้ๆแต่ยังลงมากินด้วยอีก หวังอะไรหรือเปล่านี่”
หวังอะไร? เปล๊าา” เสียงสูงหน้าตี่นทันทีที่เห็นพี่สาวจับไต๋ได้
เปล่า? แต่หน้านี่เนียนมาเชียว ผมก็เช็ตมา น้ำหอมนี่ก็หอมฟุ้ง หึ.. ทำตัวมีพิรุธอย่างนี้ทำไมคนอื่นจะดูไม่ออก”
ก็..” เลิ่กลั่กมองหน้าพ่อกับแม่ที่มองตามคำทักท้วงของพะแพงอยู่ครู่หนึ่งก็แกล้งกลบเกลื่อนอาการเขินด้วยการเถียงพี่สาวด้วยน้ำเสียงห้วนๆของเขา “อะไรกันพี่แพง! ก็นี่ชุดนอนปกติของผมไง ทำไมอ่ะก็ผมก็แต่งตัวอย่างนี้ทุกๆวันนี่นา แล้วก็ผมเห็นว่านานๆพี่เอิ้นจะมาทานข้าวเย็นด้วยก็เลยลงมาทานด้วยอีก ทำไมต้องแขวะผมด้วย อ่อ!นี่หวงพี่เอิ้นใช่มะ!”คนโดนพาดพิงได้ยินถึงกับแอบอมยิ้มทันที
เพื่อน!!”
หรือไม่จริง!!”
อาๆ หยุดๆๆพอได้แล้ว ทุกวี่ทุกวันเลยลูกบ้านนี่ ทะเลาะกันทุกวัน นี่ขนาดอยู่ต่อหน้าคนอื่นยังหาเรื่องมาเถียงกันได้อีกเหลือเชื่อจริงๆ”เป็นพ่อที่ใช้วิชาทหารเข้าห้ามศึกลูกทั้งสองอีกก่อนจะหันมามองเอิ้นที่นั่งอมยิ้มมองพะแพงที่กำลังตาเหลือกมองค้อนน้องชายอย่างขำๆ
เอิ้นก็ทานข้าวซะเถอะนะ สงสัยเจ้าเพื่อนตื่นเต้นน่ะปกติไม่ค่อยอาบน้ำเท่าไหร่นะแต่วันนี้อาบน้ำแต่หัววันเลยแสดงว่าอยากต้อนรับพี่เอิ้นจริงๆ” ยังมีแซวลูกชายอีก
พ่อ!!”
เออน่าแกก็รีบๆทานรีบๆไปพักผ่อนได้แล้วเพื่อน พ่อเห็นแกเอาแต่ชวนพี่เขาคุยจริงๆอย่างที่พี่แพงเขาทักนั่นล่ะ ปล่อยให้พี่เขาทานๆซะพี่เขาจะได้เข้าไปพักผ่อนกับพี่แพง เข้าใจมั้ย”
หันมายักคิ้วให้พะแพงที่หน้าแดงตัวแข็งทื่อทันทีที่ได้ยินพ่อบอกอย่างนั้น และนั่นเลยทำให้เธอได้แต่ก้มหน้าก้มตาทานข้าวเพราะกลัวพ่อกับแม่จะจับพิรุธอะไรได้
ซึ่งตรงกันข้ามกับอีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆที่ได้แต่ยิ้มหวานมองทั้งพ่อทั้งแม่และพะแพงกับน้องชายด้วยความดีใจที่ในวันนี้เธอสามารถเข้ามานั่งทานข้าวพร้อมกับครอบครัวของเพื่อนสนิทที่เธอโหยหาและคิดถึงตลอดเวลาได้อย่างตอนเด็กๆอีกครั้งแล้ว..
--<><><><>--
เอากระเป๋ามานี่เดี๋ยวเค้าเอาไปเก็บให้” เสียงอายๆของพะแพงดังขึ้นหลังจากที่เปิดประตูห้องนอนตัวเองแล้วเห็นเพื่อนสาวของตัวเองกำลังยืนเก้ๆกังๆกับกระเป๋าเป้ที่อยู่บนหลังของหล่อน
เธอยื่นมือไปดึงกระเป๋าออกจากไหล่ช่วยหล่อนแล้วรีบเดินเอากระเป๋าไปเก็บให้ ส่วนอีกคนได้แต่เดินมองซ้ายมองขวาในห้องด้วยความคิดถึงเนื่องจากเป็นเวลานานมากแล้วที่เธอไม่ได้เข้ามาอยู่ในห้องนอนหล่อนเลย แม้ในอดีตทั้งสองจะไปๆมาๆและเคยเข้ามาหากันถึงในห้องยังไง แต่พอมีข่าวคราวของพวกเธอที่ทำให้พ่อแม่ไม่สบายใจแล้ว เอิ้นก็เลือกที่จะไม่พยายามมาเข้าใกล้พะแพงอย่างสนิทชิดเชื้อเหมือนเมื่อก่อนอีกเลยแม้ทั้งสองจะอยากกลับมาเจอกันในห้องนี้อย่างในอดีตแค่ไหนก็ตาม
จะอาบน้ำตอนนี้เลยมั้ย เดี๋ยวไปเตรียมน้ำอุ่นให้” เสียงพะแพงดังเรียกสติของเอิ้นอีกครั้ง
เอ่อ..พึ่งกินข้าวอิ่มเมื่อกี้เอง จะให้อาบเลยเหรอ”
ก็..คิดว่าน่าจะไม่สบายตัวเห็นตอนนั้นเลือดเลอะตัวไปหมดเลยนี่” คนตอบยิ้มแหยๆแก้เขินในขณะที่ทักท้วงไปถึงช่วงที่เอิ้นยังใส่เสื้อตัวเก่าที่เลือดเปอะเสื้อและเปอะตัวไปหมด และถึงแม้ตอนนี้หล่อนจะเปลี่ยนเป็นชุดลำลองแล้วยังไงแต่พะแพงก็คิดว่าหล่อนน่าจะยังไม่สบายตัวเหมือนเดิมเพราะยังไม่ได้อาบน้ำเลย
เอ่อ..เอาไว้อีกซักพักดีกว่า ขอนั่งย่อยก่อนแล้วกัน”
อืม..งั้นก็ตามใจ”พยักหน้ารับหล่อนก่อนจะเดินไปเดินมาในห้อง ในขณะที่คนเจ็บเดินไปนั่งแผละอยู่กับเตียงนอนพะแพงแทน จนเจ้าของเตียงยังแอบสะดุ้งตกใจเมื่อดันไปนึกถึงภาพหล่อนบนเตียงเมื่อวันก่อนเข้า ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้คิดอะไรทำนองนั้นสักหน่อย ตอนนี้เมื่อสติสตังไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวพะแพงเลยได้แต่เดินไปหยิบนั่นหยิบนี่ขึ้นมาโชว์แขกผู้มาเยือนแก้เขินไป..
เอ่อ..นี่รูปของพวกเราตอนไปทัศนศึกษาที่เมืองโบราณ ดูมั้ย”
หืม..ไม่อ่ะดูหมดแล้ว ของเค้าก็ล้างอัลบั้มนี้เก็บไว้อยู่เหมือนกันไงจำไม่ได้เหรอ”
อ๋อ ใช่สินะลืมๆ” ยิ้มแหยๆอีกครั้งก่อนจะหันไปหยิบหนังสือเรียนในกระเป๋าขึ้นมาอีก “งั้นทำการบ้านกันมั้ย ฟิสิกส์ของอาจารย์อรทัยอ่ะเอิ้นได้เอามาหรือเปล่า”
ไม่ได้เอามา แล้วก็ยังไม่อยากทำตอนนี้ด้วย ปวดหัว”ชี้มือไปที่แผลที่หัวตัวเอง
อุ้ย ลืม งั้น..ดูหนังมั้ย..”หยิบรีโมททีวีขึ้นมาเตรียมจะเปิดให้หล่อนดู
ไม่อ่ะ..ตอนนี้ยังไม่อยากดู..”
ไม่เหรอ เฮอะๆ..” ความเงียบกลับมาในห้องอีกครั้งจนพะแพงต้องแกล้งหัวเราะแห้งๆกลบเกลื่อนไป ให้ตายเถอะพออยู่กันตามลำพังทีไรความอึดอัดประหลาดๆและไม่เป็นตัวของตัวเองนี่จะโผล่เข้ามากวนใจตลอดเลยแฮะ
พะแพงเป็นอะไรหรือเปล่า เหมือนอยากจะพูดอะไรนะ..”
เอ่อ..”ยิ้มแหยๆแก้เขินทันทีที่เห็นว่าคนเจ็บจับอาการแปลกๆได้ นั่นเลยทำให้พะแพงเดินเก้ๆกังๆเข้าไปยืนใกล้ๆหล่อนที่เตียงนอน พยายามทำใจดีสู้เสือด้วยคิดว่าถึงยังไงๆคนตาหวานที่สองวันก่อนแอบปล้นสวาทเธอไป ในวันนี้หล่อนกลายเป็นเสือไร้เขี้ยวเล็บและบาดเจ็บขนาดนี้แล้วคงไม่มีแรงทำอะไรเธอแล้วล่ะ และที่สำคัญก็มีบางเรื่องที่เธออยากบอกหล่อนมากเหลือเกินตอนที่หล่อนหมดสติไป และคิดว่าหากหล่อนเป็นอะไรไปและเธอไม่มีโอกาสได้บอกหล่อนไปเพราะเหตุการณ์นี้เธอคงเสียใจและไม่ให้อภัยตัวเองไปตลอดชีวิตแน่ๆ..
เอ่อ..คือ..ขอบคุณนะที่ช่วยเค้า..”
คนที่นั่งอยู่บนเตียงอมยิ้มทันที “นึกว่าจะ ไม่พูดซะแล้ว..”
แอบเหล่ตามองค้อนคนแซว“เห็นเป็นคนใจดำขนาดนั้นเลยรึไง”
ก็ไม่อยากจะคิดว่าใจดำหรอกนะ ถ้าพะแพงไม่ทำนิสัยปิดเครื่องหนีเค้าบ่อยๆอย่างนั้นน่ะ นี่รู้มั้ยว่าพะแพงใจดำกับเค้าขนาดไหนเอะอะก็เดินหนีๆ มีอะไรก็หนีหน้าเค้า จนเค้า.. ”
เลิกพูดเถอะนะ” รีบตัดบทเอิ้นทันที “เค้าขอโทษ ขอโทษจริงๆ ขอโทษที่งี่เง่าจนเกิดเรื่องอย่างเมื่อตอนเที่ยงขึ้นมาจนได้ ครั้งนี้เค้ารู้สึกผิดจริงๆที่ทุกอย่างมันลงเอยอย่างนี้น่ะ..”
คนที่นั่งฟังอยู่ถึงกับหยุดชะงักเมื่อเห็นสีหน้ารู้สึกผิดของพะแพงในตอนที่หลุดพรั่งพรูความในใจออกมา จากที่กำลังจะต่อว่าก็เลยได้แต่พยักหน้ารับคำขอโทษซ้ำๆของหล่อนไปแทน
เจ็บมากมั้ย..เค้าขอโทษจริงๆนะขอโทษที่ทำให้เอิ้นต้องเจ็บตัวแทนเค้าอย่างนี้น่ะ ถ้าเอิ้นเกิดเป็นอะไรขึ้นมาที่มันแย่กว่านี้เค้าคงไม่ให้อภัยตัวเองแน่ๆ”
ช่างมันเถอะ เค้าก็ไม่เป็นไรแล้วไง”ทั้งพูดทั้งยื่นมือไปจับมือพะแพงปลอบใจไป “ก็แค่มีโบว์โง่ๆติดอยู่ที่หัวตลอด ก็ตลกดี..” พูดปลอบใจตัวเองบ้าง
ตลกที่ไหน น่ารักดีออก คนสวยทำอะไรก็สวยเหมือนเดิมนั่นแหละ..”
หื้มม..คนสวย??!! ” ถึงกลับต้องถามย้ำทันที
อืม..สวย” ขานรับด้วยสีหน้าจริงจัง แม้ใบหน้าสวยของพะแพงตอนนี้จะเริ่มแดงระเรื่อขึ้นเรื่อยๆก็ตาม
โฮะ! ตัวจริงป่ะนี่ ร้อยวันพันปีไม่เห็นชมกันเลย หรือนี่ก็โดนกระถางทุบหัวเหมือนกันใช่ป่ะเลยเพี้ยนๆอย่างนี้นี่”
บ้า..ตัวจริงเสียงจริงและก็ไม่ได้เพี้ยนมีสติครบถ้วนทุกอย่างย่ะ นี่ชมจริงๆนะ..ไม่ดิ ก็ไม่ได้ชมสักหน่อยก็พูดเรื่องจริงเรื่องที่เห็นปกติทุกวันอยู่แล้วนี่ ถ้าชมก็แสดงว่าทุกวันไม่สวย แต่นี่เอิ้นก็สวยทุกวันอยู่แล้ว..”
ชื่นชมอีกคนไปด้วยสีหน้าเรียบๆ แม้ในใจจะเขินและอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีไปตั้งแต่ที่ชมว่าหล่อนสวยในครั้งแรกแล้วก็ตาม ทำไงได้พะแพงแค่รู้สึกว่าเธออยากทำให้คนที่ช่วยเหลือเธอรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง เธอแค่อยากพูดให้กำลังใจในการทำดีของหล่อนบ้าง ไม่อยากให้หล่อนรู้สึกแย่ว่าหล่อนช่วยคนที่ไม่ได้สนใจและซึ้งในน้ำใจหล่อนเลย และที่สำคัญสิ่งที่พะแพงชื่นชมให้กำลังใจเอิ้นไปนั้นก็เป็นความจริงและเธอก็ไม่ได้โกหกอะไร เพราะนั่นคือสิ่งที่เธอคิดไว้ในใจตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมาแค่ไม่ได้บอกหล่อนออกมาตรงๆต่อหน้าเท่านั้นเอง..
และหน้าตายของพะแพงในตอนชื่นชมอย่างนี้ก็เล่นเอาเอิ้นหลุดยิ้มกว้างออกมาทันที ด้วยทั้งเขินทั้งดีใจไม่คิดว่าอยู่ๆจะได้ยินคำหวานจากคนขี้เก๊กอย่างพะแพงออกมาได้ เธออ้าอ้อมแขนออกโอบตัวคนที่ยืนเก้ๆกังๆข้างเตียงเข้ามาสวมกอดไว้ก่อนจะเอนหัวไปหนุนเอวคนสวยที่ยืนยิ้มหน้าแดงแล้วแดงอีกเมื่อเห็นอีกคนแสดงท่าทางดีใจเหมือนเด็กน้อยอย่างนั้น..
อย่าหนีเค้าไปไหนอีกนะ..” เสียงจากคนที่ซบหน้าหนุนเอวของพะแพงดังขึ้น นั่นเลยทำให้พะแพงขานรับหล่อนเบาๆว่า “อืม..”
สัญญาได้มั้ย..ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรกัน โกรธกันยังไงก็ต้องคุยกันก่อน อย่าเดินหนีเค้าไปอย่างนี้อีก บอกเค้าดีๆได้มั้ยว่าพะแพงโกรธเค้าเรื่องอะไร ถ้าเค้าอธิบายได้เค้าจะอธิบายให้ฟัง อย่าหนี อย่าหลบหน้าอย่าหายไปเพราะเค้าไม่รู้ว่าเค้าจะตามหาพะแพงได้จากที่ไหน และเค้าก็ไม่รู้ว่าเค้าจะง้อพะแพงให้หายโกรธเค้าได้ยังไงด้วย”
อืม..”
รู้มั้ยว่าเค้าไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลยนะถ้าพะแพงโกรธให้เค้า เค้าเหนื่อยมากๆเลยที่วันๆเอาแต่คิดถึงแต่เรื่องที่ว่าทำยังไงพะแพงถึงจะหายโกรธเค้าได้น่ะ”
งั้นก็ขอโทษแล้วกันที่ทำให้ไม่สบายใจและเหนื่อยขนาดนั้นน่ะ..” แอบมีน้ำเสียงตัดพ้อดังแทรกขึ้นก่อนที่เอิ้นจะพูดจบ
ไม่ใช่อย่างนั้นนะพะแพง เฮ้อ.. เราสองคนอยู่ด้วยกันมาขนาดนี้แล้วพะแพงยังดูไม่ออกอีกเหรอว่าทำไมเค้าถึงจะต้องตามง้อและคิดถึงแต่เรื่องของพะแพงขนาดนี้ นี่ยังไม่เข้าใจถึงคำพูดที่ว่าคิดถึงแต่เรื่องพะแพงอีกเหรอ ฟังนะเค้าไม่ใช่คนที่ชอบยอมใครง่ายๆขนาดนั้นพะแพงก็รู้ แต่เค้าก็ยอมให้พะแพงคนเดียวมาตลอดตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันมาจนกระทั่งวันนี้ คิดว่าเค้ายอมให้พะแพงทำไมถ้าเค้าไม่..”
ไม่อะไร..”
ไม่มีเสียงตอบจากอีกคน มีเพียงมือของหล่อนข้างที่ไม่ได้เข้าเฝือกที่ยื่นไปดึงใบหน้าของพะแพงให้ก้มลงมารับจูบดื่มด่ำของหล่อนต่อจากนั้น และเนิ่นนานสำหรับจูบแทนคำตอบจากเอิ้นที่มอบให้กับคนช่างสงสัยจะหยุดลงไปเมื่อเธอปล่อยให้หล่อนได้แต่นั่งอึ้งจ้องมองใบหน้าเศร้าๆแปลกๆของเธอหลังจากนั้นไปแทน..
เค้าว่าเค้ารู้ใจพะแพงนะว่าพะแพงคิดอะไร แต่พะแพงกลับไม่รู้ใจเค้าเลย..”
--<><><><>--
เตรียมน้ำอุ่นในอ่างให้แล้ว เอิ้นอาบได้เลยนะ”
เสียงของพะแพงในชุดคลุมอาบน้ำดังขึ้นในขณะที่กำลังเดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ คนโดนเรียกหันหน้าไปมองพะแพงในขณะที่หูยังแนบกับโทรศัพท์ เธอขานรับหล่อนเบาๆว่าอืมๆ ก่อนจะหันกลับไปคุยกับในสายที่ปลายทางเป็นตากล้องรูปหล่อที่ยังดูหนุ่มอยู่แม้อายุจะปาไปสี่สิบปีแล้วก็ตาม
ค่ะ พ่อ ค่ะ..เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูก็คงจะกลับเข้าบ้านแล้วล่ะค่ะ ค่ะ ก็เดี๋ยวไงพรุ่งนี้พ่อค่อยโทรหาหนูอีกทีก็ได้ ค่ะ แค่นี้นะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ” บอกลาคนในสายไปก่อนจะก้มดูเวลาที่หน้าจอ นี่เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่พ่อเธอใช้เวลาคุยโทรศัพท์กับเธอได้เป็นชั่วโมงๆหลังจากที่ผ่านมาเต็มที่แค่ห้านาทีก็ทะเลาะกันแล้ว
นี่ถ้าเธอไม่ประสบอุบัติเหตุก็คงไม่รู้ว่าพ่อจอมเย็นชาของเธอจะแอบห่วงเธออยู่เหมือนกัน เพราะตั้งแต่ที่เขาโทรเข้ามาหาเอิ้นในช่วงที่เอิ้นกับพะแพงกำลังนั่งมองหน้ากันหลังจากที่ละจูบดูดดื่มออกมาได้ เขาก็เอาแต่ถามนั่นถามนี่กับเอิ้นตลอด ทั้งเรื่องที่ว่าทำไมกระถางถึงตกลงมาโดนตัวเธอได้ และทำไมเธอต้องเอาตัวไปช่วยพะแพงแทนอย่างนั้นด้วย และเพื่อความสบายใจของตัวเองและพะแพง ด้วยกลัวว่าหากพะแพงจะมารู้เรื่องที่พ่อเธอเป็นห่วงทีหลังแล้วหล่อนอาจจะไม่สบายใจก็ได้ เธอเลยตอบเลี่ยงๆไปว่าก็ไม่มีอะไรมากแค่เดินไปพร้อมๆกันแล้วเธอแค่ซวยกว่าพะแพงเท่านั้นเอง กระถางมันเลยตกลงมันโดนเธอแค่คนเดียวและเธอก็ไม่ได้ช่วยอะไรพะแพงเลย เราต่างคนต่างหลบแค่พะแพงหลบพ้นแต่เธอหลบไม่พ้นแค่นั้น
และด้วยเหตุผลแค่นั้นก็ทำให้พ่อของเธอสบายใจขึ้นเลยได้โอกาสถามไถ่ถึงข่าวคราวของพะแพงที่ในขณะนั้นหล่อนขอตัวไปอาบน้ำพอดี หล่อนก็เลยไม่ได้รับสายของพ่อเอิ้นที่ขอสายคุยกับหล่อนเพื่อจะขอบใจแทนลูกสาวเขาในตอนนั้น จนกระทั่งหล่อนอาบน้ำแล้วเสร็จและพ่อก็วางสายจากเอิ้นไปในตอนนี้พอดี...
เป็นการแคล้วคลาดที่น่าจะทำให้พะแพงรู้สึกดีก็ได้หากไม่ได้คุยกับพ่อของเธอในตอนนี้ นั่นคือสิ่งที่เอิ้นคิดในขณะที่วางโทรศัพท์ของตัวเองไว้บนหัวเตียงแล้วหันมาเห็นอีกคนยืนยิ้มแหยๆมองมาที่ตัวเองด้วยท่าทางเขินๆอายๆเข้า...
อะไร” ถามหล่อนไปทันทีเมื่อเห็นท่าทางเลิ่กลั่กอย่างนั้น
เค้าเตรียมน้ำให้แล้ว ไปอาบเลยนะ”พยายามชี้ชวนให้คนเจ็บเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำเพื่อที่ตัวเองจะได้เปลี่ยนชุดนอนตอนที่รอดพ้นจากสายตาของหล่อนแล้วนั่นเอง
ใช่เซ้!!.. ใครจะกล้าเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าหล่อนในห้องสองต่อสองอย่างนี้กันเล่า ยังไงๆพะแพงก็ยังรู้สึกอายอยู่เหมือนเดิมแหละ แม้คนที่ยิ้มน้อยอยู่ต่อหน้าจะเห็นทุกอย่างในตัวเธอซะชัดเจนแจ๋มแจ้งทุกซอกทุกมุมขนาดไหนแล้วก็ตาม..
เตรียมแต่น้ำให้แค่นั้นเหรอ ทำไมไม่เตรียมคนด้วยล่ะ”
อะไร้!” หน้าตื่นทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น “อะไรคือเตรียมคน”
ก็..”คนตอบยิ้มน้อยน่าตามีพิรุธ ในขณะที่ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินย่างสามขุมมาหาพะแพงต่อ ส่วนมือไม้ก็ทำเป็นจับเนื้อจับตัวรวมทั้งหัวของตัวเองในตอนที่เดินเข้ามาหยุดต่อหน้าพะแพงแล้ว “..เห็นมั้ยว่าเค้าไม่สบายอยู่นี่ แทนที่พะแพงจะไล่เค้าไปอาบน้ำ พะแพงน่าจะเช็ดตัวให้เค้าหรือไม่ก็ช่วยเค้าอาบน้ำดีกว่านะ”
บ้าดิ ทำไมต้องช่วยอาบน้ำด้วยล่ะ”
ก็เห็นมั้ยล่ะว่าเค้าอาบไม่ถนัดน่ะ” ยกมือข้างที่ใส่เฝือกขึ้นมาโชว์หล่อน
อ้าว!แล้วแต่ก่อนอาบยังไงล่ะ”
อ่ะ! นี่จะไม่ดูแลใช่มั้ย ไหนสัญญาว่าจะเป็นเด็กดีจะดูแลเค้าแล้วไง” ขึ้นเสียงทันทีที่เห็นอีกคนโยกโย้
สัญญาตอนไหนวะ??..นั่นคือสิ่งที่เจ้าของห้องคิดในขณะที่มองใบหน้าสำอิดสำออยของเอิ้นด้วยความงงแสนงง ก็ไอ้ตอนที่ทำสัญญาก็สัญญาแค่ว่าจะไม่หนีเวลาที่ทะเลาะกันเท่านั้นนี่หว่า แล้วนี่มันมีสัญญาข้อนี้แนบท้ายมาด้วยตั้งแต่ตอนไหนว้าาา..
นี่ไง! นอกจากจะไม่เข้าใจความรู้สึกเค้าแล้วยังจะไม่อยากดูแลเค้าด้วยใช่มั้ย นี่แค่เค้าไม่สบายแค่นี้พะแพงก็ยังดูแลเค้าไม่ได้นับประสาอะไรกับ..”
เดี๋ยวๆหยุดๆ” รีบพูดตัดบทหล่อน “ไม่ต้องดราม่าได้มั้ย เค้าแค่..แค่..แค่ไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไงเท่านั้นเอง คือ..แบบว่าก็..เอิ้นก็เข้าไปอาบเองสิ จะให้เค้าเข้าไปด้วยงั้นเหรอ..”พยายามอธิบายไปด้วยความลำบากใจเมื่อนึกถึงบางเรื่องที่ตะขิดตะขวงใจเหลือเกิน
อืม..ใช่” คนต่อหน้าก็พยักหน้าสวยๆของหล่อนรับ แววตาใสซื่อไร้เดียงสาสุดๆ
เฮ้ย..ไปอาบด้วยแล้ว เดี๋ยวก็แบบ แบบนั้นอีกอะดิ”
ก็ใช่ไง”หลุดยิ้มออกมาจากใบหน้าที่แกล้งใสซื่อก่อนหน้านั้นทันที “นี่! มาอยู่ด้วยซะขนาดนี้แล้วคิดว่าจะไม่โดนเหรอ ถึงจะไม่โดนตอนเข้าไปอาบน้ำด้วยกันตอนนี้ เดี๋ยวออกมาก็โดนอยู่ดี ทำไมต้องอายด้วยอ่ะ นี่ยังไม่ชินอีกเหรอ”
หืออออ” คนโดนถามส่ายหน้าเป็นระวิงทันที “ไม่ชินอ่ะ”
งั้นก็รีบๆชินเพราะต่อไปนี้เราจะอยู่อย่างนี้ด้วยกันตลอด” คนบอกไม่พูดเปล่าเพราะเธอใช้มือข้างเดียวของเธอพยายามถอดเสื้อผ้าของตัวเองทั้งหมดออกด้วย นั่นเลยทำให้พะแพงกลายเป็นเลิ่กลั่กไปกันใหญ่ ได้แต่หันซ้ายหันขวาหนีคนต่อหน้าที่ตอนนี้กลายเป็นเปลื้องผ้าล่อนจ้อนไปเสียแล้ว
หันหนีทำไม! หันมามองสิ! ไหนบอกว่าเค้าสวยไง ไม่ชอบเหรอ” ชะงักเล็กๆเมื่อได้ยินเอิ้นบอกอย่างนั้น
เปล่า..” ตอบหล่อนไปทั้งๆที่ยังหันหน้าหนีเหมือนเดิมนั่นล่ะ
งั้นก็หันมาสิ! ไม่งั้นเค้าจะคิดว่าพะแพงรังเกียจเค้านะ พะแพงรังเกียจที่เค้าไม่สวยเท่าพะแพงใช่มั้ยถึงไม่อยากมอง เค้าไม่..”
ไม่ใช่!! ใครว่าเอิ้นไม่สวยกันเล่า!!” หันหน้าแดงๆมาหาหล่อนเพื่อที่จะเถียงจนได้
งั้นก็มองสิ! มองให้เต็มตา! เลิกฝืนใจตัวเองซักที ยิ่งพะแพงทำอย่างนี้เค้ายิ่งรู้สึกไม่ดีรู้มั้ย” น้ำเสียงน้อยใจหลุดออกมาจากปากของเอิ้น นั่นเลยทำให้พะแพงถึงกลับหน้าเสียทันทีที่ได้ยิน ได้แต่เลิ่กลั่กๆพยายามยามปลอบใจอีกคนด้วยความลำบากใจของตัวเองไป.
ขอโทษที่ทำให้รู้สึกไม่ดีนะ..เค้าแค่..แค่อาย..”
อายเหรอ”เอิ้นหัวเราะหึ“ไม่ใช่แค่พะแพงหรอกนะที่อาย เค้าก็อาย อายมากๆด้วย อายจนหน้าแทบจะแทรกแผ่นดินแล้วที่ต้องมายืนแก้ผ้าเสนอตัวต่อหน้าคนอื่นอย่างนี้ ยิ่งพะแพงปฏิเสธเค้าก็ยิ่งรู้สึกอาย นี่เค้าก็ไม่รู้จะหน้าด้านทนอายไปทำไมนะในเมื่อคนต่อหน้าเขาไม่ได้พิศวาสอะไรเค้าเลย”
อย่าพูดอย่างนั้นสิ..”ยื่นมือไปจับแก้มหล่อนด้วยความสงสารทันที
หรือไม่จริง!” จ้องมองไปที่พะแพงที่ตอนที่นี่ยังคงยืนนิ่งมองตัวเองด้วยสีหน้าหนักใจอยู่ หล่อนยืนครุ่นคิดอะไรอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะค่อยๆเลื่อนมือมาปลดเชือกผูกชุดคลุมอาบน้ำของตัวเองออกแล้วปล่อยให้มันร่วงลงไปกองกับพื้น...
แล้วหลังจากนั้นพะแพงก็พาร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเองเข้าไปสวมกอดแล้วมอบจุมพิตบดขยี้ริมฝีปากคนสวยต่อหน้าอย่างกับเธอโหยหามันมาตลอด เป็นจูบร้อนรุ่มที่สลับกับสัมผัสจากอ้อมกอดของวงแขนนุ่มนวลที่เคล้าคลึงไปทั่วร่างกายเมื่อทั้งสองพยายามนำพาตัวเองให้เดินทางเข้าไปสู่อ่างอาบน้ำด้วยความระมัดระวัง แต่ก็ระวังได้แค่การเดินเข้าไปเท่านั้นเพราะเมื่อถึงอ่างอาบน้ำแล้วตัวของพะแพงก็เซล้มลงไปกองอยู่ในอ่างอาบน้ำก่อน เลยกลายเป็นเอิ้นคนที่จะอาบได้ลงไปอาบถูเนื้อถูตัวให้เธอแทน จนพะแพงร้องครวญครางไม่เป็นอันทำอะไรเมื่อเจ้าหล่อนเล่นถูโดนแต่จุดสำคัญๆอย่างกับหล่อนช่ำช่องชำนาญการในการจับในการหาจุดซ่อนเร้น ที่ไม่ว่าฟองจากครีมอาบน้ำจะเต็มอ่างยังไงเธอก็หาเจออยู่ดี..โอ๊ยคนอะไรเก่งชะมัด..
อ๊ะ....อ๊าา..อย่า..อย่า อ๊า..”เสียงร้องไม่เป็นคำดังมาจากใบหน้าเหยเกของพะแพง ในขณะที่มือของตัวเองพยายามล้วงลงไปในน้ำแล้วจับเอามือเจ้าหล่อนที่กำลังชอนไชแถวใจกลางระหว่างขาเธออยู่
หยุดๆ หยุดก่อน อาบน้ำก่อนเถอะนะ เดี๋ยวเอิ้นจะไม่ได้อาบ” พยายามเรียกสติอีกคนเมื่อจับแขนแสนซุกซนของหล่อนออกมาจากการซอกซอนจุดนั้นได้
อีกนิดสิ พะแพงใกล้แล้วนี่”
บ้า! ใกล้อะไร ทะลึ่งที่สุดเลยเอิ้นนี่!” ยื่นมือไปตบไหล่หล่อนแป๊ะด้วยความอายแสนอายทันที “จะอาบหรือไม่อาบ! ไหนบอกให้เค้าดูแล นี่ไม่เห็นจะได้ดูแลตรงไหนเลยมีแต่..” หยุดพูดด้วยความกระดากปากกระดากใจเหลือทน
มีแต่เค้าดูแลพะแพงแทนใช่มั้ย” อมยิ้มกรุ่มกริ่มในตอนที่พยายามยื่นมือลงไปตรงนั้นอีกครั้ง “ก็ดีออกเค้าชอบนะพะแพงไม่ชอบเหรอ”
โอ๊ยเดี๋ยวหยุด! อาบน้ำก่อน นะคะ อาบก่อนน๊าา..” เมื่อห้ามไม่ได้พะแพงเลยลองใช้ลูกอ้อนแทน นั่นเลยทำให้เอิ้นถึงกลับชะงักเล็กๆเมื่อไม่เคยได้ยินเสียงอ่อนเสียงหวานของคนต่อหน้าอย่างนี้เสียที แหมพอได้ยินอย่างนี้หัวใจเธอเลยกระชุ่มกระชวยขึ้นทันตาเห็น ได้แต่ยิ้มหวานหน้าแดงมองหล่อนส่งรอยยิ้มออดอ้อนที่มองดูเข้ากั้นเข้ากันกับใบหน้าหวานๆของหล่อนเป็นที่สุด แต่หล่อนดันไม่ชอบยิ้มให้เธอสักทีเวลาที่อยู่ด้วยกันสองแต่สอง ได้แต่ทำหน้าบึ้งกระเง้ากระงอดให้เธอเป็นฝ่ายออดอ้อนเอาใจมาตลอด คิดแล้วก็เซ็งชมัด..
ฮ้าา..พอเห็นคนสวยเอาใจด้วยเสียงสองอย่างนี้แล้วเอิ้นก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน ความทะลึ่งตึงตังก่อนหน้านั้นก็เลยหยุดลงไปดื้อๆ ได้แต่มองนางฟ้าหน้าหวานค่อยๆหยิบจับฟองอาบน้ำมาถูกแขนให้ด้วยความนุ่มนวลไป..
นี่สินะ..ฮาเล็มของแท้..
ทั้งคิดทั้งยิ้มมองดูคนสวยพยายามอาบน้ำให้ แต่ถึงหล่อนจะพยายามทำเป็นยิ้มแย้มมีความสุขยังไงก็ยังพอมีท่าทางอึกๆอักๆกล้าๆกลัวๆให้เห็นตลอด เพราะหล่อนมักจะชะงักทุกครั้งเมื่อเผลอมองมาเห็นลำตัวของเอิ้นจนต้องรีบก้มลงมองแขนที่ยกขึ้นมาถูให้ต่อเหมือนกำลังตั้งสติตัวเองสุดฤทธิ์..
อะไรกันยังอายอยู่เหรอ..” ยิ้มในขณะที่ยื่นมือไปจับหน้าพะแพงให้หันมามองตัวเองตรงๆ “บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าฝืน ถ้ายังปฏิเสธใจตัวเองอีกเค้าจะไม่มาหาพะแพงแล้วนะ”
อึ๊ก.. เป็นการข่มขู่ที่ได้ผลเพราะพะแพงก็หยุดชะงักทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น เธอมองไปที่ใบหน้าเอิ้นที่ยิ้มเชิญชวนตัวเองก่อนจะทำใจดีสู้เสือค่อยๆเลื่อนสายตาลงมามองที่หน้าอกของหล่อนต่อ..
และบอกไว้ก่อนว่านี่เป็นครั้งแรกที่พะแพงกล้ามองหน้าอกของเอิ้นแบบเต็มๆตาเพราะก่อนหน้านั้นที่เอิ้นเปลื้องเสื้อผ้าออกจากตัวทั้งหมดเธอเองก็พยายามหันหนีและหรี่ตามองมันผ่านๆแค่นั้นเลยไม่ทันได้สำรวจจุดซ่อนเร้นต่างๆ และที่สำคัญไอ้ตอนที่มีอะไรกันวันแรกน่ะ เป็นเธอเท่านั้นที่เปลื้องเสื้อผ้าล้อนจ้อนแต่เอิ้นยังใส่เสื้อผ้าครบทุกชิ้นอยู่เลย
ใช่..วันนั้นหล่อนเห็นทั้งหมดในร่างกายของเธอ ส่วนเธอได้เห็นแค่ขาอ่อนหน่อยๆของหล่อนเท่านั้นเอง..น่าสงสารจัง..
ชอบมั้ย..” เสียงของเจ้าของอกอวบอิ่มสวยได้รูปดังถามพะแพงมา จนเธอต้องรีบพยักหน้าที่ไม่มีสติตอบรับไป เพราะมัวแต่ตื่นตาตื่นใจกับเนินอกด้านหน้าอยู่ ไม่น่าเชื่อว่าเอิ้นจะมีทรวดทรงองค์เอวสวยซ่อนรูปได้ขนาดนี้ นี่แค่มองส่วนที่โผล่พ้นฟองสบู่แค่นั้นนะยังสะกดตาพะแพงทันทีที่มองแว๊บแรกได้ ไม่รู้ว่าส่วนที่อยู่ใต้น้ำด้านล่างจะสวยและชวนมองอีกขนาดไหนกันนะ เธออยากจะเห็นมันเต็มๆตาบ้างจังเลย..
ชอบ..” ตอบเอิ้นไปด้วยเสียงอายๆก่อนจะเงยหน้าแดงๆของตัวเองขึ้นไปมองหล่อนที่ก็แดงไม่แพ้กันแต่หล่อนยังดีกว่าหน่อย ตรงที่หล่อนยังพยายามชวนคุยเป็นเรื่องเป็นราวได้อยู่ ส่วนเธอน่ะไม่..
เค้าก็ชอบของพะแพงนะ หน้าอกพะแพงสวย..สวยมากๆและก็..ใหญ่ด้วย..”คนชมยื่นมือไปจับหน้าอกพะแพงนวดคลึงจนพะแพงหลับตาตาพริ้ม ได้แต่ยื่นมือของตัวเองไปจับขอบอ่างไว้เมื่อรู้สึกว่าเริ่มจะทรงตัวไม่ไหว และเมื่อโดนคลึงหนักๆเข้าใครเลยจะทนได้ สาวเจ้าของร่างเลยได้แต่เกาะขอบอ่างไว้ก่อนจะส่งเสียงขอร้องให้คนตรงหน้าหยุดการกระทำที่เธอคิดว่าหล่อนกำลังแกล้งเธออย่างนี้เสียที..
พอได้แล้วนะ..อ๊า.. ขอร้องล่ะ อย่ามัวแต่เล่นเลยเดี๋ยวจะไม่ได้อาบน้ำกันนะ..”
แล้วใครว่าเค้าเล่นล่ะ” ยังคงคลึงต่อไปพร้อมๆกับรอยยิ้มยียวนของตัวเองต่อ “จริงจังนะนี่”
จริงจังอะไรกัน” ยื่นมือมาจับมือของหล่อนออกทันทีเมื่อเริ่มโมโหขึ้นมานิดๆ “นี่ ตัวเองเป็นแผลที่หัวอยู่น่ะหัดเจียมตัวซะบ้างสิ ถ้าน้ำโดนแผลขึ้นมาจะทำยังไง” ชี้มือไปที่หัวของหล่อนด้วยใบหน้าที่แกล้งทำเป็นฉุนเฉียว
งั้นเดี๋ยวเค้าไปใส่หมวกอาบน้ำก็ได้”
แหนะ! มืออีก มือก็เข้าเฝือกอยู่น่ะไม่เห็นหรือไง”
ก็พรุ่งนี้ก็ถอดเฝือกออกได้แล้ว”
เถียงอีก! พอเลย! อาบน้ำเดี๋ยวเน้ นี่ใจดีด้วยมากแล้วรู้มั้ย ดีแค่ไหนแล้วที่มาอาบน้ำให้เนี่ย ถ้ายังโยเยอย่างนี้อีกจะปล่อยให้อาบคนเดียวแล้วนะทีนี่น่ะ!”
คิ้วขมวดทันทีที่เห็นพะแพงขึ้นเสียงใส่ “ทำไมต้องทำเสียงอย่างนี้ อยากทะเลาะกันอีกแล้วใช่มั้ย..”
เฮ้อ..ไม่ได้อยากทะเลาะ” ยื่นมือไปจับไหล่เอิ้นคนดื้อไว้ในตอนที่พยายามเปลี่ยนแผนใหม่ด้วยการเก๊กหน้าสวยส่งยิ้มหวานเอาใจหล่อนอีกครั้ง
ฟังเค้านะ เค้าไม่ได้ห้ามนะ ถ้าเอิ้นอยากทำอะไรเค้าก็ทำได้ เค้าให้เอิ้นทำหมดทุกอย่างเค้ายอมแล้ว แต่ไม่ใช่ในนี้เข้าใจมั้ย ถ้าเอิ้นหายดีแล้วอยากทำในนี้ค่อยทำนะคะ เดี๋ยวเค้าจะชวนมาทำวันหลัง โอเคมั้ย” เป็นการหลอกล่อเด็กดื้อที่ได้ผลชะงัด เพราะเอิ้นก็อมยิ้มทันทีที่เห็นอีกคนส่งยิ้มออดอ้อนตัวเองอีกแล้ว
เอ..วันนี้เป็นวันดีอะไรกันนะทำไมนางฟ้าขี้งอนคนเดิมคนนี้ถึงแจกความสดใสด้วยรอยยิ้มหวานจับใจบ่อยจัง ยิ่งเห็นก็ยิ่งรอคอยที่จะให้ถึงเวลาที่เธอทั้งสองจะอยู่ภายใต้อ้อมกอดกันและกันไม่ไหว
ยิ่งนึกยิ่งคิดความคึกคักกระชุ่มกระชวยก็ทำให้เอิ้นรีบพยักหน้าแดงๆของตัวเองตอบรับก่อนจะรีบนั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำนิ่งๆเพื่อให้นางฟ้าอีกคนได้ปรนนิบัติพัดวีขัดสีฉวีตัวเธอไป ใจก็เร่งให้ถึงเวลานั้นไวๆเสียที คอยดูเถอะคืนนี้ต้องมีใครสักคนขอร้องให้หยุดก่อนแน่ๆ แต่ไม่ใช่เธอแน่นอน..