นิยายรักไม่จำกัดบท
Cheapter
9
พะแพงร่างสองและการสลับบทรัก
“โอ้ย
ให้ตายเถอะ
ถ้ารู้ว่ากินเยอะแล้วมันอยู่ลำบากขนาดนี้นะจะ..”
เสียงโอดครวญครางของเด็กสาวร่างบางที่เอนตัวไปซ้ายทีขวาทีทั้งก้มลงมองพุงน้อยๆของตัวเองที่โย้ออกมาเกินหน้าเกินตาระดับขอบเอวกางเกงยีนส์ด้วยความรู้สึกผิด
ก็เพราะก่อนหน้านี้เธอดันไปขอร้องให้คนสวยที่เธอได้ยินน้องชายหล่อนคุยโวเรื่องที่หล่อนทำอาหารเก่งให้ฟัง
แม่เจ้าประคุณก็เลยจัดอาหารเย็นคอมโบชุดใหญ่จนเธอต้องชิมต้องทานทุกจานด้วยความละลานตาละลานใจ
เมื่อเธอเองก็ไม่เคยมีใครทำอาหารเย็นให้ทานอย่างนี้สักที
เลยต้องจัดหนักๆหน่อย
จนกระทั่งท้องโย้พุงป่องไปไหนไม่เป็นเหมือนงูหลามกินเหยื่อ
ได้แต่ร้องโอดโอยครวญครางจนคนข้างๆที่กำลังล้างจานช่วยเธอ
หันมาเหล่ตามองค้อนเธอให้เมื่อได้ยินที่เธอบ่นก่อนหน้านั้น..
“จะอะไร
จะไม่กินใช่มั้ย”
คนบ่นอมยิ้มเล็กๆเหล่ตาอ้อน
“เปล่า..จะค่อยๆกินต่างหากเล่า
ไม่ได้หมายความว่าอะไรอย่างนั้นสักหน่อย
พะแพงก็..”
“อ้าวก็ไม่รู้นี่เห็นบ่นอยู่อย่างนี้ไม่เลิกซะที
นึกว่าจะไม่อยากกินอีก
ก็จะได้ไม่ต้องทำให้กินอีก
เปลือง..”
“โอ้ย
ล้อเล่นน่า หยอกๆ
จริงจังอะไรเบอร์นั้นกับเรื่องแค่นี้
พอตอนที่เค้าชมว่าอร่อยๆซ้ำๆไม่เห็นจำเลย”
ยื่นแขนไปโอบกอดเอวเอาใจคนขี้น้อยใจทันที
“พะแพงนี่ดีนะ ทั้งสวยทั้งเก่ง
ทำอาหารก็อร่อย
ใครได้ไปเป็นแฟนคงโชคดีน่าอิจฉาชะมัดเลย”
ทั้งอ้อนทั้งเอนหัวไปดุนดันไหล่หล่อน
นั่นเลยทำให้เจ้าของไหล่ได้แต่เหล่มองด้วยความหมั่นไส้
“นี่ปากหวานอย่างนี้คิดจะหลอกใช้ให้ทำงานบ้านให้ใช่ป่ะ
เห็นยืนเอียงซ้ายทีขวาที
แล้วก็บ่นนั่นบ่นนี้ไม่เห็นทำอะไรช่วยเลย
ล้างถ้วยก็ไม่ล้างช่วย
ทำกับข้าวก็ไม่ทำช่วย”
“อ๊ะ
มีบ่นด้วย หน้าที่เมียนี่นา
ทำไปสิจะบ่นทำไมกันคะ”
คนเถียงยื่นหน้าโชว์ตาใสแป๋ว
นั่นเลยทำให้คนที่อยู่ในอ้อมกอดถึงกับเลิ่กลั่กเถียงต่อไปไม่เป็นทันทีเมื่อได้ยินคำว่าเมียหลุดออกมาจากปากหล่อน
นี่เธอพูดคำนี่ออกมาอย่างหน้าตายไร้ความรู้สึกอายได้อย่างไร
นี่ไม่ได้ตะขิดตะขวงใจอะไรเลยอย่างนั้นเหรอ
จ้องมองใบหน้าหวานๆที่แกล้งทำเป็นใสซื่อของหล่อนโดยที่ตัวเองนั้นหน้าแดงกร่ำ
พะแพงนั้นอยากจะหน้าแทรกแผ่นดินหนีจากยัยคนใจกล้าบ้าบิ่นที่ไม่อายฟ้าดินคนนี้เสียจริง
ติดอยู่ที่ว่าโดนหล่อนกอดไว้ซะแน่นเลยหนีไปไหนไม่ได้
ให้ตายเถอะ นี่ฉันควรจะอายดีหรือเปล่านะ..
“ไม่ต้องอายนะ..”
คำตอบดังออกมาจากปากคนกอดเหมือนว่าหล่อนรู้ใจพะแพง
“ที่ตรงนี้มีเพียงแค่เราสองคน
วันนี้จะเป็นวันของเราสองคน
และจะมีเพียงแค่เราสองคนในคืนนี้ทั้งคืน
เราสองคนจะพูดและจะทำในสิ่งที่เราอยากจะทำเท่านั้น
เพราะฉะนั้นพะแพงก็เลิกอายแล้วก็เลิกฝืนใจตัวเองซักที
อยากพูดอยากบอกอะไรกับเขาก็บอกเถอะ
อย่าลืมสิพะแพงเป็นเมียเค้าแล้วนะ”
“ใครเป็นเมีย..”หน้าอมลมทันทีที่ได้ยินหล่อนย้ำแล้วย้ำอีกกับสถานะใหม่ของตัวเอง
“อ้าวก็พะแพงไง
ส่วนเค้าก็สามีพะแพงไง
แล้วนี่ก็คือหน้าที่ที่คุณเมียจะต้องดูแลคุณสามี
เพราะฉะนั้นเลิกบ่นแล้วทำหน้าที่ตัวเองไปซะ”
หลอกใช้จริงๆด้วยอ่ะ..
นั่นคือสิ่งที่พะแพงคิดได้ในขณะที่ได้ยินคำป้อยอของคนสวยที่กอดเอวจ้องมองเธออยู่
แต่ถึงจะรู้ว่าหล่อนหลอกใช้ให้ทำงานบ้านให้หล่อนยังไงพะแพงก็เต็มใจทำให้อยู่ดี
ด้วยเพราะใจจริงที่มาอยู่กับหล่อนที่บ้านวันนี้ก็เพราะว่าอยากดูแลหล่อนในทุกๆอย่างนั้นล่ะ
พะแพงรู้ว่าเอิ้นขาดในส่วนไหนและพะแพงก็คิดมาเสมอว่าถ้าเป็นไปได้เธอก็อยากจะเติมเต็มให้หล่อน
อย่างความอบอุ่นเล็กๆที่หล่อนได้กอดพะแพงตอนที่ทำกับข้าว
หรือแม้แต่ล้างถ้วยชามอยู่นี้ก็พอจะทำให้พะแพงรู้ว่าลึกๆแล้วคนกอดนั้นโหยหาสัมผัสเหล่านั้นมานานขนาดไหน
เพราะแม้แต่ผู้หญิงคนเดียวที่น่าจะให้ความอบอุ่นเธอได้มาตั้งแต่เด็กๆก็ยังไม่สามารถมอบให้เอิ้นได้
แต่ก็ไม่เป็นไรนะถ้าเธอต้องการ..ฉันจะเป็นคนนั้นให้เอง
ฉันจะพยายามทำทุกๆอย่างให้เธอเห็นเองว่าชีวิตเธอไม่ขาดอะไรอีกแล้ว
นั่นคือสิ่งที่พะแพงแอบคิดในขณะที่หันไปจ้องมองหน้าหวานๆของเอิ้นที่กำลังจ้องตาตัวเองอยู่
“เรียกเค้าว่าสามีซิ..”
หล่อนกระซิบกระซาบออกคำสั่งด้วยเสียงหวาบหวามหลังจากนั้น
เล่นเอาคนฟังได้สติออกจากความหวานซึ้งในใจตัวเองออกมาบ่นให้ยัยคนบ้าในโลกความจริงทันที
“บ้า!
ใครสามีกัน
ทึกทักเองอีกล่ะ”
“เอ้า!ก็เค้าไงสามีพะแพง
นี่..บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าอายน่ะ”
คนตาหวานยังอ้อนต่อได้อีก
“ไหนเรียกซิ..”
คนโดนขอร้องยังคงทำหน้าอมลมเป็นอึ่งอ่างเช่นเคย
แถมตอนนี้หล่อนยังแกล้งสะบัดตัวออกจากอ้อมกอดหันไปล้างถ้วยล้างชามแก้เขินในสิ่งที่ตัวเองรู้สึกกระดากปากกระดากใจยังไงก็ไม่รู้
ทำยังไงได้ก็พ่อแม่เธอสอนมาดีและเธอก็ไม่ใช่เด็กร่านเด็กแรดพอที่จะมีอะไรกับใครไม่กี่ครั้งแล้วเรียกคนนั้นว่าสามีๆตลอดเวลา
อย่างน้อยๆก็ขอให้ได้มีความรู้สึกโรแมนติกต่อกันสักเดือนสองเดือนให้พอมีโมเมนต์ศึกษาดูใจกันบ้างหน่อย
ไม่ใช่เอะอะปล้ำแล้วเปลี่ยนสถานะจากเพื่อนเป็นสามีปุ๊บปั๊บเลยอย่างนี้ที่เธอลำบากใจเหลือเกิน
ไอ้ดีใจมันก็ดีใจอยู่หรอก
แต่ขออีกนิดเดียวนะ
ช่วยทำให้เหมือนคนจีบกันดีๆได้ป่ะ..
“เอ้า..ไม่ยอมเรียกเฉยแหะ..”
เสียงหล่อนลอยลมมาจากด้านหลังเรียกสติพะแพงอีกครั้ง
“ทำไม ไม่อยากเรียกคะ
หรือเค้าทำให้พะแพงไม่ดีเหรอ”
ข้อความกระซิบกระซาบหล่อนหลังจากนั้นเล่นเอาพะแพงหน้าแดงกร่ำทันที
“...หรือว่าที่เค้าทำมันไม่ถูกใจพะแพง
งั้นคืนนี้เค้าจะ..”
“พอได้แล้ว!”
คนหน้าแดงถึงกลับรีบหันหน้ามาหยุดสิ่งที่เธอคิดว่ามันลามกเกินไปแล้วนะ
“นี่อายพี่สางบ้างป่ะ!”
คนโดนดุยิ้มน้อย
“อายทำไม บ้านเค้าไม่มีผี”
“แต่มีกล้องวงจรปิดป่ะ!”
“ก็ในห้องครัวมันไม่มีไง
แล้วถึงจะมีก็ไม่มีใครสนใจจะมาเปิดกล้องดูหรอกถ้าไม่มีเรื่องจำเป็นอะไรต้องดูน่ะ
นี่อย่าบอกนะว่าเขินที่ต้องเรียกเค้าว่าสามีตอนนี้น่ะ
งั้นไม่เป็นไรไม่ต้องเรียกก็ได้
แต่เดี๋ยวคืนนี้เค้าจะทำให้พะแพงเรียกเค้าว่าสามีให้ได้
คอยดูฝีมือเค้าเถอะ”
ปากดีไปเถ๊อะ..
นั่นคือสิ่งที่พะแพงคิดในขณะที่มองคนสวยต่อหน้ายิ้มเล็กยิ้มน้อยพูดกระเซ้าเย้าแหย่ในเรื่องอย่างว่ากับเธออีก
หึ..เธอน่ะสิที่ต้องเรียกชั้นว่าสามี
คอยดูเถอะคืนนี้จะเป็นวันที่ฉันเผด็จศึกเธอวันแรก
และฉันนี่ล่ะจะกำหราบเธอให้อยู่หมัดเอง
ยัยผู้หญิงลามก!
--<><><><>--
“พะแพง!อาบน้ำเสร็จแล้วตามเค้าลงมาที่ห้องกินข้าวข้างล่างนะ!”
เสียงตะโกนดังผ่านเข้ามาในห้องน้ำในขณะที่พะแพงกำลังยืนอาบน้ำอยู่
เล่นเอาคนได้ยินถึงกลับสะดุ้งโหยง
อารมณ์ตกใจเพราะกำลังใช้สมาธิในการลำดับเหตุการณ์ถึงแผนเผด็จศึกเจ้าของเสียงเรียกในใจอย่างเงียบๆอยู่
“ได้ยินมั้ย!”
หล่อนตะโกนถามย้ำอีกครั้ง
“อะห๊ะ
ได้ยินๆ เดี๋ยวแต่งตัวเสร็จแล้วจะตามลงไปนะ”
บอกหล่อนที่ขานรับอืมๆอยู่ด้านนอกไปก่อนจะรีบอาบน้ำและรีบแต่งตัวลงไปหาหล่อนที่ห้องทานข้าวหลังจากนั้น
เวลานี้ก็เกือบๆจะสองทุ่มแล้ว
ซึ่งก็ไม่นานหลังจากที่ทั้งสองพากันล้างถ้วยล้างชามเก็บกวาดบ้านเสร็จแล้วเอิ้นก็ชวนพะแพงขึ้นไปอาบน้ำบนห้องนอนข้างบน
ในตอนแรกที่ได้ยินพะแพงก็ขัดๆเขินๆอยู่บ้าง
แต่เมื่อเห็นท่าทางชิลด์ๆสบายๆของเอิ้น
เหมือนหล่อนชินกับอะไรก็ตามที่จะแสดงให้เห็นว่ามันกำลังนำทางเข้าสู่เรื่องอย่างว่าแล้วพะแพงก็ได้แต่ทำใจ
พยายามปลอบใจตัวเองว่าขนาดหล่อนที่เป็นผู้หญิงด้วยกันแท้ๆยังไม่เห็นอายแล้วเธอจะอายทำไมกัน
ช่างมันเถอะ..เลิกคิดตะขิดตะขวงใจกับอะไรอย่างนี้ซะทีไม่อย่างนั้นเธอก็คงไม่กล้าที่จะเผด็จศึกหล่อนแน่ๆคืนนี้..
“มาแล้วเหรอคะ..”
เสียงของเอิ้นดังแทรกเข้ามาในห้วงความคิดของพะแพงเมื่อเธอเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าบาร์เครื่องดื่มที่เอิ้นกำลังนั่งดื่มอยู่
“อ้าวไหนบอกไม่ดื่มไง”
พะแพงหน้างงถามเอิ้นด้วยความสงสัยทันทีที่เห็นหล่อนหันมายิ้มหวานด้วยใบหน้าแดงระเรื่อของหล่อน
ส่วนในมือก็เห็นหล่อนกับคีบแก้วไวน์อยู่ด้วยท่าทางเจนโลกแบบที่นั่งไขว่ห้างบนเก้าอี้บาร์อย่างกับผู้หญิงวัยทำงานประมาณนั้น
ดูแล้วก็ช่างขัดกับใบหน้าหวานๆใสๆของหล่อนเหลือเกิน
นี่เป็นเพื่อนกันมาตั้งนานไม่คิดเลยว่าจะเป็นหนักถึงขนาดนี้
นี่ทานข้าวแล้วยังดื่มเหล้าต่ออีกอย่างนั้นเหรอ
โหย..ลำยองชะมัดเลย..
“ใครบอกไม่ดื่ม
น่าจะไม่ใช่เค้านะเพราะเค้าชวนพะแพงดื่มแต่พะแพงไม่ดื่มเอง”
“อ้าวแล้วนี่กินยาแก้ปวดไว้แล้วไม่ใช่เหรอ
มันจะไม่ตีกันกับเหล้าเหรอ”
“ไม่ตีกันสิ
เหล้าก็อยู่ส่วนเหล้า
ยาก็อยู่ส่วนยามันจะไปตีกันได้ไง”คนตอบทำหน้าตายตอบนั่นเลยทำให้พะแพงถึงกับเหล่มองแรงด้วยความหมั่นไส้ทันที
แหม..ไอ้ใบหน้าหวานเวลามีเลือดฝาดเจือไปทั่วมันก็ชวนมองอยู่หรอก
แต่น้ำเสียงและท่าทางยียวนที่เพิ่มขึ้นนี่พะแพงไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เลย
หึ..นี่กะจะดื่มเหล้าย้อมใจในการทำอะไรแผลงๆของตัวเองอีกล่ะสิ
แอบค้อนขวับให้พล่อนเพิ่มขึ้นอีกเมื่อนึกถึงท่วงท่าแปลกๆพิศดารและอลังการงานสร้างของหล่อนเข้า..
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น
นี่งอนว่าเค้าดื่มเหรอ”
“ไม่ได้งอน
อยากดื่มก็ดื่มไปสิ
ตัวเอิ้นเองนี่เค้าจะไปบังคับอะไรได้”
“อ๊ะ!
มีประชดประชันด้วยอ่ะ”
คนสวยที่นั่งคีบแก้วไวน์ลุกขึ้นจากเก้าอี้บาร์แล้วเดินตรงปรี่เข้ามาสวมกอดอ้อนพะแพงที่ยืนบึ้งทำเป็นเบือนหน้าหนีจากตัวเอง
“นี่งอนจริงๆนี่ ไม่เอาดิ
ขอแบบน่ารักๆคุยกันกระหนุงกระหนิงได้มั้ย
นะ..เค้าอยากคุยกับพะแพงดีๆ
อยากคุยในแบบบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
เค้าเลยชวนพะแพงลงมานั่งอยู่มุมนี้
เนี่ยดูนี่สิ..”
คนโดนกอดชำเรืองตามองตามเสียงคนนำเสนอก็เห็นหล่อนหยิบรีโมทหรี่โคมไฟในบ้านลงแล้วหันมากดเปิดไฟสีเหลืองอำพันที่เคาน์เตอร์บาร์เครื่องดื่มด้านหน้า
และยังไม่พอหล่อนยังหยิบรีโมทเปิดเครื่องเสียงเล่นเพลงสากลทำนองฟังสบายๆให้คลอดังเป็นเสียงเบาๆระหว่างนั้นด้วย
“โรแมนติกมั้ย..”
คนถามอมยิ้มชะโงกหน้าเข้ามาจ่อพะแพงใกล้ๆ
“เค้าว่าบรรยากาศอย่างนี้ดีนะ
เหมาะที่จะนั่งคุยอะไรๆกันดี..ป่ะ
ไปนั่งตรงนั้นกันเถอะ..”ทั้งพูดทั้งโอบกอดเอวพะแพงให้เดินไปนั่งที่เก้าอี้บาร์ด้านข้างตัวเองก่อนจะหันไปหยิบแก้วไวน์แล้วเทส่งมาให้พะแพงบ้าง
“เค้าไม่ดื่ม”
“น่า..ดื่มหน่อยนะ
เค้าอยากลองจูบกับพะแพงตอนที่มีกลิ่นเหล้าเจืออยู่ในปากด้วย”
เล่นเอาคนได้ยินหน้าแดงกร่ำเลยทีเดียว
ตอนนี้พะแพงกำลังสองจิตสองใจด้วยคิดว่าควรจะกินหรือไม่กินดี
แต่พอหันไปเห็นท่าทางยิ้มหวานและสายตายั่วยวนของเอิ้นที่พยายามเชิญชวนให้ดื่มเหล้าในแก้ว
บวกกับการขยับคอเสื้อชุดนอนของหล่อนออกเผยให้เห็นร่องหน้าอกขาวๆนวลเนียนล่อตาล่อใจอยู่ไม่วายแล้วพะแพงก็รีบกระดกดื่มอึกๆลงคอทันที
ด้วยเพราะกำลังรู้สึกร้อนวูบๆวาบๆในตัวจนคอแห้งไปหมด
สติสตังก็ไปกับร่องเนินนมที่โผล่ให้เห็นวับๆแวมๆอยู่ตลอดจนต้องกลืนน้ำลายลงคออึกๆ
โอ๊ย
ให้ตายเถอะ..ผู้หญิงอะไรอ่อยเก่งชะมัด
อีตอนเป็นเพื่อนกันก็ไม่เห็นจะแสดงออกให้เห็นว่าเป็นหนักขนาดนี้เลย
เห็นแมนๆชอบเต๊ะท่าเรียกคนนั้นคนนี้ว่าเป็นเมียตลอดก็นึกว่าจะขึงขังตึงตัง
ที่ไหนได้ยั่วเก่งกว่าเราซะอีก..
จริงๆก็พอจะเดาได้อยู่หรอกว่าหล่อนคงจะชอบอ้อน
เพราะดูจากการง้องอนแต่ละครั้งของหล่อนก็รู้แล้วว่าเอิ้นอ้อนเก่งและเอาใจเก่งขนาดไหน
แต่ไม่คิดว่าจะถึงกับขนาดที่ว่าจะอ้อนจนกลายเป็นอ่อยและยั่วยวนเชิญชวนให้อยากมีอะไรกับตัวเองเก่งขนาดนี้ด้วยน่ะสิ
ตอนนี้พะแพงเลยได้แต่นั่งแกล้งยกแก้วไวน์ดื่มด้วยใจตุ่มๆต่อมๆเมื่อตัวเองเผลอไปนั่งนึกถึงเรื่องอย่างว่าตามเกมส์ที่เอิ้นหลอกล่อสำเร็จแล้วจนได้
ขนาดเป็นผู้หญิงด้วยกันฉันยังรู้สึกวูบๆวาบๆกับเธอขนาดนี้
แล้วถ้าผู้ชายล่ะจะขนาดไหนกัน..
ทั้งคิดทั้งจ้องมองใบหน้าสวยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ยกแก้วไวน์จิบดื่มตามตัวเองต่อหน้าก่อนจะได้ยินเสียงโทรศัพท์ของหล่อนดังขึ้น
“หลิน..”
ได้ยินเสียงหล่อนรำพึงรำพันชื่อของใครบางคนก่อนจะรีบกดรับสายและรีบลุกขึ้นเดินหายไปจากตรงนั้นทันที
และแค่นี้ก็ทำให้พะแพงรับรู้ได้ว่าช่องว่างที่เธอคิดว่าเธอได้ทำมันหายไป
มันกำลังจะกลับมาอีกครั้งแล้ว
--<><><><>--
เสียงปิดประตูกระจกด้านฝั่งซ้ายของบ้านดังขึ้นราวๆหนึ่งชั่วโมงต่อมา
หลังจากที่เด็กสาวเจ้าของบ้านเดินออกไปรับโทรศัพท์ที่สนามหญ้าข้างบ้าน
เธอคุยกับเด็กสาวในสายอีกคนที่โทรเข้ามาจนเวลาล่วงเลยและเริ่มนึกขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังทิ้งใครบางคนเอาไว้
และไม่แน่ว่าตอนนี้หล่อนอาจจะกำลังงอนอยู่ก็ได้
แล้วก็เป็นจริงดังที่เอิ้นคาดการณ์ไว้
เมื่อภาพที่เห็นเมื่อเธอรีบเดินเข้ามาหาหล่อนหน้าบาร์เครื่องดื่มกลายเป็นไม่มีคนที่ควรจะนั่งรออยู่
ตอนนี้ที่หน้าโต๊ะคงเหลือไว้เพียงแก้วและขวดไวน์เปล่าๆเท่านั้นเอง
เดี๋ยวนะ!
ขวดไวน์เปล่าๆอย่างนั้นเหรอ
รีบหยิบขึ้นมามองทันทีที่นึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้ก่อนที่เธอจะออกไปรับโทรศัพท์มันยังมีอยู่เกือบๆเต็มอยู่เลยเพราะเธอก็พึ่งเทดื่มไปนิดเดียวและอีกคนก็ดื่มไปนิดเดียวเพราะหล่อนปฏิเสธไปว่าไม่อยากดื่มมาก...แล้วถ้างั้นทำไมมันถึงหมดไปล่ะ
ก้มลงมองแก้วไวน์ของหล่อนก็เห็นมันว่างเปล่าไม่เหลือติดแก้วดังเช่นแก้วตัวเอง
นี่อย่าบอกนะว่าพอเห็นฉันเดินออกไปรับโทรศัพท์แค่นี้แม่เจ้าประคุณก็งอนแล้วยกดื่มยกเติมอยู่คนเดียวด้วยควาโมโหจนเหล้าหมดน่ะ..
ตายแล้ว
นึกถึงสภาพพะแพงกำลังเมาหยำเปด้วยความเป็นห่วงก่อนจะรีบเดินตามหาหล่อนไปทั่วๆบ้านจนกระทั่งไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องนอนตัวเอง
“พะแพงอยู่ในนี้หรือเปล่า”
เสียงเรียกดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงเคาะประตูห้อง
แต่เมื่อไม่มีเสียงตอบรับใดๆเอิ้นก็ถือวิสาสะเปิดประตูห้องเข้าไปในทันทีที่ลองบิดลูกบิดแล้วมันไม่ได้ล็อคไว้
“พะแพง..”
ร้องเรียกหล่อนเบาๆเมื่อเห็นหล่อนนอนหลับอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าแดงๆของหล่อนที่คงจะมาจากฤทธิ์เหล้า
นี่คงจะเมามากจนกลายเป็นหลับไม่ได้สติอย่างนี้ล่ะสินะ..ทั้งคิดทั้งพยายามยื่นมือประเขย่าไหล่หล่อนเพื่อเรียกสติหล่อนอีกครั้งแต่ก็ไม่มีการตอบรับอะไรกลับมา
และเมื่อเห็นดังนั้นก็เลยไม่อยากกวนอะไรหล่อนต่อด้วยอยากให้หล่อนพักผ่อนให้เพียงพอ
หากหล่อนรู้สึกดีขึ้นหรือสร่างเมาแล้วค่อยจะคุยกับหล่อนใหม่ดีกว่า
กำลังพยายามจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างให้หล่อน
แต่ตัวของเอิ้นกลับรู้สึกเหมือนกำลังมีใครกำลังดึงกระชากร่างตัวเองอย่างแรง
จนเธอเซล้มลงไปนอนกองกับพื้นเตียงแทนคนที่นอนอยู่ก่อนที่ตอนนี้กลายเป็นลุกขึ้นมานั่งค่อมร่างเธอทั้งร่างไว้เสียแล้ว...
“พะแพง!”
คิ้วขมวดมองหล่อนที่นั่งทับร่างตัวเองไว้อย่างเหวอๆ
“ยังไม่หลับอีกเหรอ”
“แล้วคิดว่าหลับมั้ยล่ะตอนนี้..”
ร่างด้านบนถามกลับอย่างกวนๆมองมือเธอก็เห็นกำลังยกขึ้นถอดเสื้อผ้าชุดนอนออกจากตัวเองอย่างรีบเร่ง
แถมยังโน้มตัวลงมาพยายามถอดเสื้อผ้าออกจากตัวเอิ้นทั้งหมดด้วยเช่นเดียวกัน
“ทำอะไรน่ะ!”
ร่างด้านล่างยังพยายามถามต่ออย่างเหวอๆเมื่อตอนนี้เธอเห็นหล่อนกลายเป็นร่างกายเปลือยเปล่าแถมตัวเองก็มีสภาพไม่ต่างกัน
แต่จะมีพิเศษกว่าหล่อนหน่อยก็ตรงที่หล่อนใช้เสื้อชั้นในของหล่อนพยามมัดข้อมือทั้งสองของเธอไว้กับหัวเตียงนอนด้วย
“อยู่นิ่งๆอย่าถามเยอะ
รู้อยู่แล้วนี่ว่าจะทำอะไรทำไมต้องถามด้วย
หรือแกล้งอินโนเซ็นส์”
เสียงกวนๆของคนเมาดังขึ้นมาตอนที่หล่อนพยายามขยับช่วงล่างของตัวเองให้บดชิดกับเนินเนื้อของเอิ้นที่หล่อนนั่งทับไว้
หล่อนนั่งขยับถูๆไถๆมันทั้งสองอยู่ครู่หนึ่ง
ก่อนจะโน้มหน้าลงมามอบจุมพิตดื่มด่ำให้เอิ้น
แล้วละจูบดุดันจูบนั้นขึ้นมาถามร่างข้างล่างต่อด้วยน้ำเสียงโทนใหม่ที่คนฟังฟังแล้วรู้สึกหวาบหวามใจยังไงไม่รู้...
“อยากได้ยังไงคืนนี้ไหนลองบอกมาซิ”
เอื้อมมือไปเชยคางคนสวยที่หน้าแดงกร่ำเมื่อหล่อนสบตายั่วยวนของพะแพงแล้วกลายเป็นเขินขึ้นมาเฉยเลย...
อะไรกัน..เดี๋ยวนะ..ทำไมอยู่ๆพะแพงเป็นอย่างนี้ไปซะนี่
คิดในใจด้วยความงุนงงเมื่อเห็นพะแพงกำลังเริ่มโยกส่วนล่างอีกครั้ง
และครั้งนี้ก็ทำให้เอิ้นนั้นถึงกลับหลับตาพริ้มทันทีเมื่อมันดันโดนจุดสำคัญที่ทำให้เธอถึงกลับร้องครางออกมาเบาๆด้วยความเสียวซ่านทันที...
“พะแพง
อ๊ะ อ๊า~~..”
ครางเป็นชื่อหล่อนออกมาเมื่อเริ่มอดรนทนไม่ไหวเข้าจริงๆซะแล้ว
แถมเวลาที่มองหน้าอกหน้าใจของคนข้างบนกำลังกระเพื่อมไปมาตามจังหวะที่หล่อนโยกอยู่นี้ก็ทำให้ความรู้สึกกระหายใคร่อยากเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมซะอีก
ได้แต่จ้องมองความละลานตาละลานใจทั้งหมดทั้งมวลเอาไว้ด้วยดวงตาค้างๆ
และริมฝีปากเหยเกของตัวเองที่พยายามสะกดอารมณ์เหล่านั้นเอาไว้ก่อน
“นี่คือกำลังฝืนตัวเองอยู่ใช่มั้ย..”
เสียงคนข้างบนดังขึ้นเมื่อหล่อนสังเกตุท่าทางสะกดจิตสะกดใจของเอิ้นเข้า
“ไหนบอกคนอื่นไม่ให้ฝืนใจตัวเองดันฝืนซะเองล่ะ
หรือว่าไม่กล้าคิดว่าคนอย่างเค้าจะทำหน้าที่สามีให้เอิ้นได้เหมือนกันใช่มะ..”
ยิ้มน้อยยียวนตอนที่แกล้งยอกย้อนในข้อความที่หล่อนเคยพูดทับถมตัวเองไว้
“นี่ไม่ต้องห่วงหน้าที่นี้หรอกนะ
รับรองว่าเค้าทำหน้าที่สามีเอิ้นได้ไม่แพ้ที่เอิ้นทำให้เค้าเลยล่ะ”
“บ้า..”ต่อว่าหล่อนด้วยน้ำเสียงอ่อนระโหยโรยแรง
เมื่อเริ่มนึกขึ้นได้ว่าพะแพงคงกำลังแก้เผ็ดตัวเองอยู่แน่ๆ
หน็อยแน่..นี่เก็บเอาไปคิดถึงขั้นอยากจะเอาคืนเราให้ได้อย่างนั้นเลยรึ
ทั้งคิดทั้งจ้องมองใบหน้ายิ้มน้อยของพะแพงซึ่งพอหล่อนเห็นว่าเอิ้นกำลังจ้องตัวเองด้วยสายตาเชิงตำหนิอยู่
หล่อนก็แกล้งเร่งจังหวะโยกเพิ่มขึ้นจนร่างด้านล่างได้แต่ร้องครวญครางฟังไม่เป็นเสียง
“นี่ขนาดยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะเนี่ย..”
เสียงทะเล้นของคนเมาลอยลมมาเรียกสติเอิ้นให้ลืมตามองหล่อนอีกครั้ง
ใบหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนกำลังพอใจผลงานตัวเองอดที่จะทำให้เอิ้นเบ๊ปากเล็กๆใส่ไม่ได้
และนั่นเลยทำให้คนสวยที่มองดูอาการท่าทางเอิ้นอยู่ตลอดถึงกับรีบโน้มตัวลงมามองใกล้ๆทันที
“ทำมะ
หรืออยากลองท่าใหม่แล้วใช่มั้ย”
ไม่มีคำตอบจากปากร่างด้านล่างมีเพียงใบหน้านิ่วคิ้วขมวดเก๊กขรึมของหล่อนเท่านั้น
“ทำมะ
ไม่พอใจอะไรไม่ทราบ อ๋อ
รู้แล้ว อยากให้มีความรู้สึกดีๆก่อนจะมีอะไรกันใช่มั้ย
จำได้ๆ”
เสียงอ้อแอ้ยียวนของคนขี้เมาดังขึ้นพร้อมๆกับการโน้มใบหน้าตัวเองลงมามอบจูบให้กับเอิ้นอีกรอบ
และรอบนี้ก็ทำให้เอิ้นถึงกับร้องงึมงัมเพราะเคลิบเคลิ้มในรสจูบของพะแพงที่ดูร้อนแรงและจัดจ้านกว่าทุกๆครั้ง
ไม่น่าเชื่อว่าหล่อนจะมีจังหวะกะหวัดกวัดเกี่ยวปลายลิ้นที่มีทั้งความขึงขัง
นุ่มนวลและเผ็ดร้อนในคราวเดียวกัน
แถมยังรู้จักเว้นช่วงจังหวะให้เธอพักหายใจแล้วกลับมาบดจูบขยี้ริมฝีปากต่อเนื่องให้เธออ่อนละทวยจนเกือบจะหมดแรงทั้งหมดไปกับการลิ้มลองรสชาดจูบใหม่ๆที่หล่อนมอบให้
เพราะมันทั้งตื่นเต้นและเร้าใจ
แถมยังเจือไปด้วยกลิ่นไวน์จางๆอย่างที่เธอต้องการอยากจะจูบกับหล่อนก่อนหน้านั้นอีก
“ชอบมั้ย..”
หล่อนมีถามความเห็นหลังจากหยุดบทจูบลงแล้ว
“อืม..”
คนโดนจูบพยักหน้าเหม่อๆของตัวเองตอบรับอย่างไม่มีสติไป
“ได้กลิ่นไวน์อยู่ที่ปากเค้าด้วยหรือเปล่า..”
“ได้..”
“งั้น..ชอบใช่มั้ย”
พยักหน้าเหม่อๆไม่มีสติรับอีกครั้ง
“ชอบสิ ชอบมากด้วย..”
Mission
complete!Yes! แอบกรี๊ดในใจทันทีที่ได้ยินหล่อนบอก
ตอนนี้ภารกิจด่านแรกก็สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
มิสชั่นจูบเจือไวน์ของพะแพงสามารถทำเอิ้นให้เคลิบเคลิ้มได้จริงๆด้วย
ดีใจชะมัด..
อมยิ้มมองคนสวยหน้าแดงระเรื่อเบื้องล่างอยู่ครู่หนึ่งพะแพงก็ขยับเขยื้อนร่างกายด้วยการใช้มือของเธอเปิดผมทั้งหมดของตัวเองขึ้นแล้วรวบมันไปที่ไหล่เดียวกัน
เผยให้เห็นใบหน้าสวยหวานที่ดวงตาพยายามจับจ้องและตรึงดวงตาของอีกฝ่ายไว้ให้หยุดนิ่งดังต้องมนต์สะกด
“ถามหน่อยสิ
ระหว่างเค้ากับหลินใครสวยกว่ากัน..”
คนโดนถามอึ้งไปครู่ใหญ่ๆ
“..ทำไมต้องถามอย่างนั้นด้วยล่ะ”
“ผู้หญิงทุกคนจะถามอย่างนี้หมดแหละ
ถ้ามาเจอเหตุการณ์อย่างเค้า”
“ทำไม..หึงเหรอ”
“ใช่
หึง” ตอบกลับด้วยใบหน้าราบเรียบ
ไม่มีทีท่าเคอะเขินของพะแพงคนขี้เก๊กขี้อายคนเดิมอยู่เลย
และนี่คงจะเป็นข้อดีของการเมาสินะ
แต่อันที่จริงพะแพงก็ไม่ได้รู้สึกเมาอะไรมากมายนักหรอก
เพราะจริงๆพะแพงเป็นคนที่คอค่อนข้างแข็ง
และการดื่มเหล้าหมดขวดก่อนหน้านั้นเป็นเพียงการย้อมใจให้เธอกล้าที่จะทำบางอย่างเท่านั้นเอง
สำหรับพะแพงแล้วเหล้าคือน้ำเปลี่ยนนิสัยโดยแท้
พะแพงจะกลายเป็นคนที่มีความกล้า
และหน้าด้านขึ้นทันที(นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมพะแพงจึงปฏิเสธที่จะดื่มเหล้ากับเอิ้นเพราะเธอกลัวนิสัยด้านมืดของเธอจะหลุดออกมานั่นเอง)
ความคิดน้อยใจที่เคยเก็บกดเอาไว้พอได้แอลกอฮอลล์ย้อมใจแล้วความรู้สึกกระดากปากกระดากใจต่างๆก่อนหน้านั้นก็หายไปหมด
ตอนนี้พะแพงคนที่เคยเรียบร้อยที่ไม่กล้าแม้แต่จะเผยความรู้สึกของตัวเองกลายร่างสองเป็นอีกคนที่อยากจะคิดอยากจะพูดอยากจะทำอะไรเธอก็จะทำมันทันทีไม่สนใจพระอิฐพระปูนที่ไหนแล้ว
“..เป็นใครก็คงต้องหึง
หรือเอิ้นจะไม่หึงเค้า
ถ้าเค้าทำอย่างเอิ้นบ้าง”
เป็นการถามกลับที่เล่นเอาคนฟังถึงกลับสะดุ้งทันที
นี่อาจจะเป็นคำขู่เล็กๆที่หล่อนกำลังเตือนเอิ้นให้รู้ว่าอย่าทำอย่างนี้บ่อยๆนะเพราะเธอไม่ใช่ของตายและพร้อมที่จะดิ้นไปหาใครเพื่อทำให้เอิ้นหึงอย่างนี้บ้างเหมือนกัน
“มันก็ไม่ได้มีอะไร
เค้าแค่คุยกับน้องเค้าเฉยๆ”
“คุยเฉยๆ?”
หัวเราะหึทันที
“เป็นชั่วโมงเลยนะ คุยอะไรกันบ้างล่ะ
แล้วได้บอกหรือเปล่าว่าคืนนี้เอิ้นนอนกับเค้า”
“เอ่อ..ไม่ได้บอก”
เปลี่ยนสีหน้าเป็นรู้สึกผิดทันทีที่ตอบหล่อน
“ว่าแล้วเชียว”
ยกยิ้มมุมปากด้วยความสมเพชตัวเองเล็กๆ
“งั้นเค้าไม่ถามต่อดีกว่า..”ขยับร่างเตรียมจะลุกหนีจากหล่อนแต่ก็โดนอีกคนพยายามร้องเรียกไว้ก่อนด้วยท่าทางเก้ๆกังๆเมื่อสองมือของหล่อนยังคงโดนพันธนาการไว้กับหัวเตียงอย่างแน่นหนาอยู่
“เดี๋ยวสิพะแพง!
เดี๋ยว!
ฟังเค้าก่อน
โอ้ย!”
ขยับมือยุกยิกๆหวังว่ามันจะหลุดจากบ่วงเชือกนั้นได้แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะยิ่งดิ้นมันก็รัดแน่นจนเธอเจ็บมือเสียเอง
“สมน้ำหน้า!”
คนมัดหันมาเบ๊ปากใส่หล่อนในตอนที่เห็นหล่อนครางโอดโอย
“คนเจ้าชู้ต้องเจออย่างนี้ล่ะ!”
“ใครเจ้าชู้กัน
ไม่ได้เจ้าชู้อะไรเล้ยยย”
“ไม่เจ้าชู้
แต่เสียงสูงเลยนะ”
กัดปากกัดฟันมองหล่อนด้วยความหมั่นไส้เข้าไปใหญ่
กะว่าจะเดินไปใส่เสื้อผ้านอนหนีหล่อนซะแล้วถ้าไม่นึกขึ้นได้ถึงแผนการวัดคะแนนความน่าสนใจของเธอก่อน
ยังไงๆเราก็ต้องพยายามทำคะแนนให้ได้มากที่สุดในเมื่อมีโอกาสได้อยู่กับเอิ้นสองต่อสองขนาดนี้แล้วสินะ
ค่อยๆคืบคลานกลับไปนั่งค่อมร่างหล่อนอีกครั้งแล้วเก๊กสวยแบบเมื่อกี้ต่อ
“ตอบมาเดี๋ยวนี้เลย
ในสายตาเอิ้นใครสวยกว่ากันระหว่างเค้ากับหลิน”
เสียงเซ็กซี่มาพร้อมใบหน้าและท่าทางที่เซ็กซี่ขึ้นอีกสเต็ป
เมื่อพะแพงจือปากและก้มตัวห่อไหล่ตัวเองให้ชิดลำตัวเผยให้เห็นเนินเนื้อหน้าอกขนาดใหญ่ของตัวเองกำลังเบียดชิดกันไปมา
มองแล้วก็ล่อตาล่อใจคนนอนอยู่ข้างล่างเหลือเกิน
ยิ่งเจ้าหล่อนทำเป็นสะบัดผมย้ายฝากไปอีกไหล่โชว์ให้เห็นใบหน้าสวยแดงระเรื่อที่กำลังหรี่ตามองต่ำเหมือนกำลังหว่านเสน่ห์หลอกล่ออะไรตัวเองอยู่
แต่ถึงจะรู้ว่าหล่อนกำลังหลอกล่อยังไงเอิ้นก็ยังไม่วายตกหลุมพรางที่หล่อนขุดไว้อยู่ดีนั่นแหละ
ให้ตายเถอะ..นี่ต่อหน้าคือเซ็กซี่สตาร์ดาราAVหรือไง..รู้ตัวมั้ยว่าตัวเองเซ็กซี่เกินไปแล้วนะ..พะแพง
“ใครสวยกว่ากัน”
เสียงถามย้ำมาอีกครั้ง
“พะแพงสิ
ทำไมต้องถามด้วย
ตัวเองก็รู้อยู่แล้วว่าตัวเองสวยขนาดไหน
นี่ถ้าไม่นับเค้าพะแพงก็สวยที่สุดในโรงเรียนแล้วมั้ง”
“แต่เอิ้นไม่เคยชมว่าเค้าสวยสักที”
เสียงเซ็กซี่เปลี่ยนเป็นเสียงน้อยใจแทนซะแล้ว
“ทำไมจะไม่ชม
นี่ก็กำลังชมอยู่นี่ไง
พะแพงสวยนะ สวยมากๆด้วย
เค้ามองกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อความสวยของพะแพงเลย..”
บทจะปากหวานแม่เจ้าประคุณก็พ่นคำยอเล่นเอาซะคนถามหน้าแดงระเรื่อด้วยความอายทันที
นี่ขนาดเมาแล้วนะนี่ยังสามารถอายคำพูดคำจาของหล่อนได้อีก
ไม่รู้ว่าตอนที่มีสติครบถ้วนจะอายตัวม้วนขนาดไหน
“ไม่จริงหรอก..”
เสียงเล็กๆหลุดออกมาจากปากคนขี้น้อยใจด้านบนนั่น
“จริงสิ
ไม่เชื่อพะแพงก็จ้องตาเค้าดูสิ”
ได้ยินคนท้าให้จ้องตาแล้วพะแพงก็รีบหันไปจ้องทันที
มองดูแล้วก็ช่างแตกต่างจากตอนไม่เมาที่มักจะทำตัวเลิ่กลั่กเมื่อได้ยินเอิ้นสั่งให้จ้องตาเสมอ
และตอนนี้ทันทีที่พะแพงจ้องมองดวงตาคู่สวยของเอิ้น
เธอก็เห็นแววตาอ่อนโยนที่หล่อนพยายามถ่ายทอดความรู้สึกจริงจังและถ้าเธอไม่คิดเข้าข้างตัวเองเกินไปในนั้นน่าจะมีคำว่ารักเจือมาด้วยนะ..
“เห็นอะไรในนั้นบ้าง..”
ร่างด้านล่างส่งเสียงหวานๆถามพะแพง
แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบอะไรกลับมามีเพียงใบหน้าหวานๆแดงกร่ำของพะแพงที่ค่อยๆโน้มเข้าไปมอบจูบให้เอิ้นเท่านั้น
แล้วหลังจากนั้นบทเพลงรักที่พะแพงตั้งใจจะมอบให้เอิ้นตามบทNCในนิยายยูริเรื่องโปรดก็เริ่มขึ้น
ตามความคิดและความเข้าใจของพะแพงที่เธอสรุปออกมาจากนิยายเรื่องนั้น
การจะมีเซ็กส์กับผู้หญิงด้วยกันมันจะต้องเริ่มจากการMakeLoveเพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกดีต่อกันเสียก่อน
พะแพงเลยเริ่มจากการมอบจูบลึกล้ำที่เธอก็เริ่มจะชำนาญการขึ้นบ้างแล้ว
เห็นได้จากเสียงงึมๆงัมๆของเอิ้นที่ครางออกมาเป็นเสียงอ่อนระโหยโรยแรง
แถมเมื่อเธอละออกมาประพรมจูบตามซอกคอหล่อนแล้วได้กลิ่นหอมของผิวกายเอิ้นแล้วอดรนทนไม่ได้
จนกลายเป็นออกแรงดูดคอหล่อนเข้าให้
เอิ้นก็กลายเป็นทั้งร้องทั้งครางเสียงหลงเข้าไปใหญ่
ทั้งร้องเรียกชื่อเธอเหมือนหล่อนกำลังทรมานกับสิ่งที่เธอบรรจงมอบให้ด้วยอารมณ์หลงใหล
จากที่พยายามทำตามนิยายตอนนี้พะแพงกลายเป็นทำตามอำเภอใจตัวเองไปเสียแล้ว
“พะแพง..”
เสียงอ่อนระทวยของเอิ้นดังเรียกชื่อคนที่กำลังก้มลงดูดและบีบหน้าอกทั้งสองข้างของตัวเองอยู่
ด้วยหวังเรียกสติให้หล่อนค่อยๆทำกว่านั้นได้มั้ย
เพราะดูจากท่าทางที่หล่อนก้มๆเงยๆทั้งดูดทั้งเลียอยู่นี่ก็เหมือนกับคนตะกละตะกลามมูมมามและกำลังหิวโซยังไงก็ไม่รู้
หรือนี่หล่อนพึ่งเคยได้ลิ้มชิมรสครั้งแรกก็เลยอดใจไม่ไหวอย่างนั้นเหรอ
ฉงนสนเท่ห์มองท่าทางเหมือนเด็กน้อยดื่มกินนมแม่ไม่อิ่มสักทีแล้วก็ได้แต่ครวญครางออกมาไม่เป็นคำ
เพราะเจ้าปลายลิ้นเล็กๆเรียวของหล่อนก็มีฤทธิ์รุนแรงมิใช่เบาเมื่อหล่อนตวัดวนปุ่มนั้นไปมาจนความรู้สึกเย็นๆวาบๆก่อตัวขึ้น
แถมเมื่อหล่อนพยายามดูดปุ่มนั้นต่อก็ทำให้เอิ้นแทบจะร้องเสียงหลง
ด้วยเอาเข้าจริงมันก็เสียวซ่านวูบวาบไม่ใช่น้อยเลย
ถ้าสองมือเธอไม่ได้ถูกมัดพันธนาการไว้กับเตียงป่านนี้เธอคงจิกผมเจ้าหล่อนไปแล้ว..
“พะ..อ๊า~~..”ชื่อเจ้าหล่อนถูกเรียกเพี้ยนเป็นอย่างอื่น
เมื่อหล่อนเลื่อนการละเลงลิ้นจากปุ่มหน้าอกเลื่อนลงมาสู่ใจกลางเนินเนื้อหว่างขาเธออีก
และแน่นอนว่าพะแพงก็ไม่รอช้าที่จะบดขยี้จูบกับใจกลางหว่างขาของเอิ้นเลยเมื่อเธอพยายามจับขาเรียวยาวทั้งสองข้างหล่อนแยกออกจากกันแล้วเห็นเนินเนื้อสวยขาวสะอาดโชว์ล่อตาล่อใจอยู่ตลอด
จนเธอคิดว่าแค่การจูบเฉยๆมันคงไม่หนำใจเธอแน่ๆ
สิ่งที่เธอทำได้ในตอนนั้นคือการใช้ปากทำทุกอย่างที่มันจะทำกับเนินเบื้องหน้าของตัวเองไม่ว่าจะเป็นเลีย
จูบ ดูด ดื่ม
จนเจ้าของเนินเนื้อได้แต่พยายามเกร็งขาตัวเองไว้
ส่วนเสียงร้องนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะถ้าหล่อนร้องดังกว่านี้ได้หล่อนก็คงจะร้องไปแล้ว..
“พะแพง
อ๊ะ อ๊า..~~”
“อื้มม~~..”
พยายามตอบรับหล่อนแบบไม่เป็นคำ
เมื่อปากตัวเองก็ไม่ว่างแถมตาก็ยังพยายามมองใบหน้าสวยที่คิ้วขมวดเหยเกด้วยกำลังทนความรู้สึกอ่อนระทวยที่เธอพยายามปรนเปรอให้หล่อนไม่ไหว
ด้วยเพราะอยากรู้ว่าที่ตัวเองทำให้หล่อนนี้หล่อนรู้สึกดีมั้ย
และสิ่งที่เห็นอยู่นี้ก็ทำให้พะแพงแอบดีใจด้วยค่อนข้างมั่นใจว่ามันทำให้เอิ้นรู้สึกดีจนบางสิ่งบางอย่างที่อยู่ต่อหน้ามีของเหลวไหลออกมาเรื่อยๆและหน้าเธอก็เปียกไปหมดแล้ว...
นี่เอิ้นคงกำลังมีอารมณ์อย่างหนัก
จำได้ว่าไรท์เตอร์พยายามเขียนให้เห็นว่าเวลาผู้หญิงมีความต้องการอย่างว่าในระดับสูงแล้วจะมีน้ำไหลออกมาจากตรงนี้เรื่อยๆเพื่อให้ความชุ้มชื้นและหล่อลื่นบางสิ่งบางอย่างที่จะเคลื่อนเข้าไปในนั้น..
จ้องมองส่วนที่อยู่ต่ำกว่าเนินเนื้อนั้นลงมา
คิดว่าตรงนั้นน่าจะใช่แหละ
พะแพงเลยก้มลงไปละเลงปลายลิ้นตัวเองอีกครั้งหวังให้ส่วนนั้นชุ่มชื้นที่สุดเพื่อเตรียมที่นำพานิ้วตัวเองเข้าไปตามบทNCในนิยาย
“อ๊ะ..อ๊า~~
พะแพง
อ๊า~~..เจ็บ
เค้า เจ็บ..”
“เจ็บ!?”
ชะงักเล็กๆเมื่อหันไปเห็นสีหน้าเหยเกของอีกคนในตอนที่ตัวเองพยายามดันนิ้วมือทั้งสองลงไปในช่องว่างของหล่อน
ก็รู้สึกอยู่นะว่ามันคับแคบและแน่นมากๆแต่ด้วยความอยากที่จะเผด็จศึกคนรักของตัวเองให้ได้
พะแพงเลยพยายามดันเข้าไปโดยไม่ได้สังเกตุถึงท่าทางอีกคนว่าหล่อนจะเจ็บปวดขนาดไหน
จึงกลายเป็นแปลกใจเมื่อได้ยินคำว่าเจ็บจากอีกคน
จริงๆก็ไม่น่าจะเจ็บนะ
ถ้าคนเคยทำมันก็ไม่น่าจะเจ็บเท่าไหร่ใช่ป่ะ..นั่นคือสิ่งที่พะแพงคิดในขณะที่พยายามดันนิ้วของตัวเองเข้าไปให้สุดต่อ
“เจ็บ
อ๊า~~
พะแพง
เค้าเจ็บ อ๊า~~..”
ร้องเสียงหลงเมื่อคนทำไม่สนพระอิฐพระปูนอันใด
ยังคงพยามดันข้อมือเข้าๆออกๆจุดนั้นต่อเนื่อง
แถมเมื่อเธอบอกหล่อนอีกครั้ง
หล่อนยังใช้คำบางคำที่เธอเคยบอกมาออกคำสั่งยอกย้อนเธอกลับอีกด้วย
“ก็อย่าเกร็งสิ
ไม่งั้นจะเจ็บยิ่งกว่านี้นะ”
“โอ๊ย
พะแพงอ่ะ~~..”
ร้องโอดโอยทั้งเจ็บทั้งแอบขำไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้อีกครั้ง
บ้าชะมัดนี่เธอแกล้งเอาคืนฉันอยู่ใช่มั้ย
ก็คงจะใช่เพราะไม่งั้นเธอคงไม่มัดมือทั้งสองของฉันเอาไว้กับเตียงอย่างนี้แน่
นี่คงกลัวฉันจะขัดขืนตัวเองจนทำอะไรไม่ได้อย่างนั้นสินะ
บ้าชะมัดเลย ทำไมขี้โกงขนาดนี้นะ
ทีเรายังปล่อยพะแพงเป็นอิสระเลย
ทำไมพอตัวเองทำกลับมามัดกันไว้อย่างนี้ล่ะเนี่ย
“แน่จริงก็ปล่อยมัดมือเค้าเซ้!..”
เสียงของคนโดนกระทำลองท้าทายพะแพงบ้างเผื่อหล่อนจะกลัว
“เรื่องไรจะปล่อย
ปล่อยก็ไม่ได้ทำดิ..”
แหนะ
มีเถียงตอบ
แถมหล่อนยังอมยิ้มตอนที่เงยหน้าขึ้นมามองเอิ้นที่คิ้วขมวดมองตัวเองด้วยความงอนเข้าไปใหญ่
อารมณ์พอใจที่ได้แกล้งหล่อนคืนซะที
“เดี๋ยวจะโดนเอาคืนมิใช่น้อย..”
ข่มขู่พะแพงคืนเช่นเดียวกัน
“อ้อหรา..น่ากลัวจังเลยอ่ะ
แต่ตอนนี้ขอเค้าเอาคืนก่อนแล้วกันนะคะ..คุณเมีย~~..”
หน้าแดงกร่ำทันทีที่ได้ยินเสียงเยาะเย้ยของพะแพงเรียกตัวเองด้วยชื่อที่ครั้งหนึ่งตัวเองก็เคยเรียกหล่อนเหมือนกัน
โอ๊ย..บ้าชะมัดเลย
รู้งี้ไม่ให้พะแพงกินเหล้าก็ดีหรอก..
แอบโทษตัวเองในใจตอนที่เห็นหล่อนก้มลงมองเนินเนื้อนั้นแล้วกลับไปตั้งใจทำต่ออีกครั้งหลังจากที่โดนเธอขัดขวางการทำไปยกแรก
“อ๊ะๆ..เบาๆนะ
ค่อยๆดันเข้าก่อน
เค้าเจ็บ..อ๊าาา~~...”ค่อยๆสอนหล่อนเมื่อเห็นหล่อนออกแรงดันมือเข้าไปอีกครั้งและเสียงหลังนั้นก็ได้มาจากการที่หล่อนก้มลงใช้ปลายลิ้นละเลงเลีย
ณ ร่องใจกลางเนินเนื้อพร้อมๆกับการขยับปลายนิ้วเข้าๆออกๆให้ด้วย
เล่นเอาเอิ้นเสียววูบๆวาบๆทั้งเจ็บและมีความสุขเพิ่มขึ้นมาในคราเดียวกัน
“อื้ม
อื่ม อื้มมม..”
(รู้แล้วน่า)
คนทำตอบรับเอิ้นไปด้วยภาษางึมๆงัมๆเมื่อปากไม่ว่าง
ด้วยเพราะนึกบทNCในนิยายรักขึ้นมาได้ในเรื่องที่ว่าการเมคเลิฟไปพร้อมๆกับการสอดใส่จะทำให้ความเจ็บลดน้อยลงไปอีก
ด้วยเพราะอีกฝ่ายจะมีอารมณ์ร่วมมากกว่าปล่อยให้ทำอย่างนั้นโดยปราศจากการเล้าโลมเลย
ซึ่งมันก็จริง
เพราะตอนนี้พะแพงไม่ได้ยินอีกฝ่ายร้องว่าเจ็บอะไรแล้วมีเพียงเสียงร้องครวญครางที่เต็มไปด้วยความสุขเท่านั้นเมื่อเธอเริ่มเพิ่มจังหวะปลายนิ้วและปลายลิ้นขึ้นเรื่อยๆ
“อ๊า~..
พะแพง
อ๊ะ
อ๊า~..พะแพง..”เงยหน้าขึ้นมองเอิ้นเมื่อได้ยินหล่อนครางชื่อตัวเองซ้ำๆ
อารมณ์ทั้งดีใจและปลื้มปริ่มที่สามารถทำให้หล่อนมีความสุขได้
เห็นมั้ยอ่านบทNCในนิยายก็มีประโยชน์เหมือนกันไม่เห็นจะต้องอายเลย..นึกดีใจที่ตัวเองกล้าที่จะอ่านโดยไม่ด่าไรท์เตอร์DarkWormไปก่อนว่าทำไมกล้าเขียนอะไรลามกๆอย่างนั้นออกมาทั้งๆที่มีเด็กอ่านตั้งเยอะ
และดีที่เธอเองก็หัวไวเรียนรู้ไว
แค่จำตัวหนังสือจากไรท์เตอร์ก็สามารถเอามาประยุกต์กับชีวิตประจำวันตัวเองได้แล้ว
ขอบคุณไรท์เตอร์DarkWormที่ทำให้เรามอบความสุขแก่คนรักได้อย่างเต็มที่นะ
เดี๋ยวไงถ้ามีโอกาสจะรีวิวให้ฟังแล้วกันค่ะ..
เลื่อนสายตาจากใบหน้าสวยที่กำลังอ่อนระโหยโรยแรงเบื้องหน้าลงมามองยังจุดที่มือตัวเองกำลังเคลื่อนเข้าเคลื่อนออกด้วยตั้งใจจะทำต่อให้เต็มที่
แต่พอตั้งใจมอง ณ
จุดนั้นดีๆพะแพงก็ถึงกลับสะดุ้งทันที..
“เฮ้ย!
ทำไมมีเลือดออกด้วยล่ะ..”
หยุดมือตัวเองทันที
“อย่า..อย่า..หยุดสิ
ถ้าหยุดเค้าจะเจ็บกว่านี้อีกนะ..”อีกคนก็รีบบอกด้วยเสียงสั่นเครือ..
“แล้วเจ็บมั้ยล่ะ
เลือดออกเยอะเลยนะ..”
“ช่างมัน..เค้าไม่เจ็บแล้ว
แต่ถ้าพะแพงหยุดตอนนี้เค้าเจ็บมากๆ
ทำต่อไปเรื่อยๆนะ
เดี๋ยวถึงแล้วเค้าจะบอกให้หยุดเอง..”
“เอางั้นเหรอ..”
ถามหล่อนที่พยักหน้ารับเบาๆก่อนจะก้มลงภาพเบื้องล่างต่อด้วยความลังเล
นี่ก็ว่าทำไม่แรงเท่าไหร่แล้วนะ
สงสัยเพราะมัวแต่เมคเลิฟจุดนั้นให้หล่อนอยู่
เลยไม่รู้ว่าตรงนี้มีเลือดออกมาด้วย
แล้วนี่เลือดออกอย่างนี้จะเป็นไรมั้ยเนี่ย
พยายามคิดถึงบทรักNCในนิยายตอนที่แพรี่มีอะไรกับรัณห์ครั้งแรกก็มีเลือดออกเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากทำเสร็จแล้วก็หายไปเอง..
เอ๊ะ!..
เดี๋ยวนะ..ครั้งแรกอย่างนั้นเหรอ..ดวงตาลุกวาวทันทีที่เริ่มนึกอะไรออก
“เฮ้ย!
เค้าเป็นคนแรกของเอิ้นอย่างนั้นเหรอ!”ผุดถามหล่อนออกไปด้วยความดีใจอย่างลืมตัว
“ทำไมถามอย่างนั้น
เสียมารยาทที่สุดเลย”
คนตอบคิ้วขมวดมองพะแพงอารมณ์ทั้งเคืองทั้งงอนและน้อยใจ
“เห็นเค้าเป็นคนยังไงเนี่ย
พะแพงคิดอย่างนี้เค้าเสียใจนะเนี่ย”
“ขอโทษ..”
ยิ้มแหยๆให้หล่อนก่อนจะโน้มหน้าไปมอบจุมพิตแทนทั้งความรู้สึกผิดและดีใจในคราเดียวกันให้
ส่วนมือพะแพงก็เริ่มเคลื่อนที่เข้าๆออกๆจุดนั้นด้วยหวังว่ามันจะทำให้หล่อนรู้สึกดีจนหายเคืองเธอ
ที่เผลอคิดเองเออเองเป็นตุเป็นตะว่าหล่อนอาจจะเป็นของใครไปแล้วก็ได้
“เค้าขอโทษนะ
เค้าไม่ได้ตั้งใจจะคิดอย่างนั้นหรอก..”
ละริมฝีปากออกมาจ้องใบหน้าเหยเกคิ้วขมวดของหล่อน
มือที่ทำส่วนล่างก็ยังคงทำอยู่
แต่มืออีกข้างนั้นเอื้อมขึ้นไปลูบหัวปลอบใจให้หล่อน
หวังให้หล่อนหายโกรธคนโง่อย่างเธอและรู้สึกดีเพิ่มขึ้นจากสัมผัสนุ่มนวลของเธอด้วย
“เค้าดีใจนะที่เป็นคนแรกของเอิ้น
เค้าสัญญาว่าเค้าจะทำให้เอิ้นมีความสุขที่สุดในคืนนี้..”พูดเสร็จก็ก้มตัวลงไปมอบบทเพลงรักให้หล่อนด้วยความตั้งใจต่อ
ด้วยหวังว่าทั้งจังหวะมือและปลายลิ้นของตัวเองคงจะทำให้หล่อนมีความสุขเพิ่มมากขึ้นไปอีก
ซึ่งมันก็เป็นจริงดังที่หวังเพราะเมื่อเธอเริ่มเร่งจังหวะขึ้น
ร่างกายของเอิ้นก็สั่นเกร็งไปทั้งร่างทั้งร้องครวญครางเป็นคำและไม่เป็นคำ
ได้ยินเสียงหล่อนร้องเรียกตัวเองขึ้นมาบ้างในตอนที่ออกแรงดูดกลืนนูนเนินที่เธอกำลังใช้ลิ้นทำรักให้
อีกทั้งยังได้ยินเสียงหล่อนขอร้องให้ตัวเองลดจังหวะช้าลงกว่านี้อีก
เมื่อหล่อนยังไม่อยากถึงปลายทางบทรักไวเกินไป
เหมือนหล่อนอยากรั้งเวลาแห่งความสุขนี้เอาไว้ให้อยู่นานที่สุด..
“ช้าลงกว่านี้ได้มั้ยพะแพง..เค้ายังไม่อยากถึงเลย..”
ละหน้าจากเนินเนื้อนั้นขึ้นไปมองดวงตาเว้าวอนของหล่อนทันที
“ช้าลง?
ประมาณนี้ได้มั้ย..”
“อืมม..ใช่..
อุ๊ย!
พะแพง
อย่าแกล้งกันสิ ทำดีๆ...”
ร้องขอให้คนทำเลิกทำจังหวะเร็วบ้างช้าบ้างอย่างนี้สักที
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ช้าๆกำลังดีอยู่แท้ๆแต่ไหงกลับมาเร่งจังหวะอีกกัน
หรือนี่หล่อนต้องการแกล้งเธอใช่มั้ย
“พะแพงอย่างแกล้งเค้าสิ..”
น้ำเสียงสั่นหวานพยายามขอร้องคนสวยที่เอาแต่จ้องหน้าด้วยดวงตาหื่นกระหายต่อ
“งั้นก็ขอร้องเค้าสิ”
“ขอร้อง...ค่ะ..”
เสียงอ่อนระโหยพยายามขอร้องตามคำสั่ง
“นะ..ทำดีๆนะ
อ๊ะ..อ๊า~~..”
เสียงหลังนั้นมาจากการที่หล่อนเร่งจังหวะแกล้งอีกแล้ว
“ช้าลงกว่านี้..พะแพง”
ใบหน้าสวยเวลาอ่อนระทวยนี่น่ามองชะมัด
ยิ่งพะแพงจ้องความรู้สึกกระหายใคร่อยากก็เกิดกับตัวเองจนอดทนไม่ไหว
ต้องโน้มตัวลงไปมอบจุมพิตทั้งละเลงปลายลิ้นหยอกล้อกับหล่อนก่อนจะละออกมามองใบหน้าหวานที่หลับตาพริ้มขอร้องให้เธอช่วยลดจังหวะลงอีกครั้งเมื่อหล่อนคิดว่ากำลังจะถึงในไม่ช้านี่แล้ว..
“เรียกเค้าว่าผัวก่อนสิ..”
แหนะ
ถือโอกาสแก้แค้นหล่อนอีกแล้วล่ะสินะ
ซึ่งคนฟังก็รู้เลยได้แต่หน้านิ่งคิ้วขมวดมองพะแพงที่ยิ้มน้อยเหมือนรู้ตัวว่าตัวเองกำลังคุมเกมส์อยู่
“เรียกสิ
แล้วเค้าจะทำให้เอิ้นมีความสุขให้ยาวนานที่สุด”
มองค้อนให้หล่อนก่อนจะอ้ำๆอึ้งๆ
“ผะ..ผัว”
“มีหางเสียงด้วย
ผัวขา..”
เหล่ตามองแรงท่าทางกวนโอ๊ยของพะแพงทันที
แต่ทำไงได้หล่อนถือไพ่เหนือกว่าตัวเองอยู่แล้วนี่..ชิส์
“ผัว..ขา..”
คนได้ยินถึงกลับอมยิ้มทันที
“น่ารักจังเลย ขอหอมแก้มหน่อยนะ”
ยังมีใจที่จะมีมารยาทในการขอหอมแก้มหล่อนก่อนโน้มหน้าเข้าไปหอมแก้มเอิ้นฟอดใหญ่ๆด้วยความดีใจแบบเด็กๆ
โดยลืมตัวไปว่าตอนนี้เธอกำลังมีเซ็กส์เร่าร้อนแบบผู้ใหญ่กับหล่อนอยู่
ตอนนี้เมื่อละริมฝีปากออกมาจากแก้มคนสวยได้
พะแพงก็กลับมาตั้งใจสานบทรักให้หล่อนในจังหวะที่นุ่มนวลและละมุลละม่อมค่อยเป็นค่อยไปต่อ
แต่ถึงจะพยายามดึงจังหวะให้ช้าลงยังไงคนที่โดนปรนเปรอจนร่างกายมีความสุขจนเกือบจะล้นเอ่ออย่างเอิ้นก็ทนไม่ไหวอยู่ดี
เพราะแค่ไม่นานหลังจากนั้นหล่อนก็ร้องเรียกพะแพงเสียงหลงก่อนที่ร่างกายส่วนบนจะกระตุก
ส่วนร่างกายส่วนล่างนั้นเปียกแฉะไปด้วยน้ำรักของหล่อนที่ไหลออกมาเต็มมือพะแพงไปหมด..
“พอ..พอได้แล้วพะแพง
เค้าถึงแล้ว เค้าถึงแล้วค่ะ..”
เสียงเหนื่อยหอบบอกหล่อนไปพร้อมกับการหายใจรวยริน
และพะแพงก็อมยิ้มทันทีที่ภารกิจของตัวเองสำเร็จเรียบร้อยลงจนได้
เธอโน้มตัวไปประพรมจุมพิตรอบๆใบหน้าเอิ้นก่อนจะลูบไล้เม็ดเหงื่อที่ใบหน้าให้..หวังให้หล่อนหายจากอาการเหนื่อยหอบและเกร็งร่างกายลง
“รู้สึกดีมั้ย
..”ถามหล่อนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนทั้งเป็นห่วงทั้งอยากรู้ความรู้สึกของหล่อน
“ดี..ดีมากๆเลย..”ส่วนคนตอบก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเหนื่อยเช่นเคยแต่ก็ยังพยายามยิ้มให้พะแพงอยู่
“ชอบมั้ย..”
“ชอบ..”ใบหน้าหวานส่งยิ้มให้พะแพงอีกครั้ง
“ชอบมากๆด้วย..”
ได้ยินดังนั้นแล้วพะแพงก็ยิ่งดีใจยิ่งยิ้มหวานออกมาด้วยความปลาบปลื้ม
ได้แต่จ้องมองคนสวยอีกคนที่ยังคงนอนหายใจเหนื่อยหอบอยู่ก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้
“แล้วเหนื่อยมั้ยเนี่ย
หอบใหญ่เชียว..”
“เหนื่อยสิ
เหนื่อยมากๆด้วย
ตอนนี้เค้าปวดเนื้อปวดตัวไปหมดเลย
พะแพงแก้มัดให้เค้าหน่อยสิ..”
ได้ยินที่เอิ้นบอกแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองมัดมือหล่อนกับเตียงไว้
พะแพงเลยรีบทำการแก้มัดพันธการข้อมือของเอิ้นออกหวังให้หล่อนได้พักผ่อน
แต่แทนที่คนที่บอกว่าเหนื่อยล้าจะรีบหลับตานอน
เจ้าหล่อนกลับกลายเป็นดึงร่างพะแพงให้ล้มลงไปนอนบนเตียงแทนตัวเองที่ลุกขึ้นนั่งค่อมร่างเธอหลังจากนั้นไว้แทน..
“ตาเค้าบ้างแล้วนะทีนี้
เตรียมตัวเรียกเค้าว่าสามีได้แล้วนะคะเมียจ๋า~~”
แล้วหลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่านานเท่าไรที่ทั้งสองพากันสลับสับเปลี่ยนบทสามีและภรรยากัน
เพราะพวกเธอทั้งสองก็ต่างเพลิดเพลินและติดอยู่ในห้วงรสบทรักที่ต่างฝ่ายต่างปรนเปรอให้กันจนลืมห้วงเวลา
บทเพลงแห่งความสุขที่ต่างฝ่ายต่างเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน
และต่างฝ่ายต่างพลัดกันให้และรับอย่างนั้นตลอดทั้งคืน