วันศุกร์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2563

นิยายรักไม่จำกัดบท

Introduce
เรื่องที่เหมือนนิยาย
เซ็ตภาพสองเด็กสาวผมหางม้ารวบตึงในชุดฟอร์มนักเรียนสวยสะอาดเรียบร้อย ถูกโพสต์ผ่านหน้าเฟสบุ๊คเมื่อช่วงเลิกเรียนของเย็นวันจันทร์ที่แสนจะยุ่งวุ่นวาย และเพียงไม่กี่วินาทีหลังจากที่ภาพเหล่านั้นปรากฏผ่านสายตาใครต่อใครบรรดาคอมเมนต์มากมายรวมทั้งการไลค์การแชร์ก็เกิดขึ้นกับภาพเซตนั้นโดยทันที
เด็กสาวผมหางม้าในชุดนักเรียนม.ปลายอีกคนนั่งยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่หน้าจอโทรศัพท์ ภายใต้ศาลาที่รอรถประจำทางด้านหน้าของโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลผู้คนออกไปหลายสิบเมตร เธอใช้นิ้วชี้ขยับแว่นตาวงกลมอันใหญ่หนาเตอะเทอะทะบนสันดั้งตัวเองขึ้นลงช้าๆ ทำเหมือนกำลังภูมิใจกับจำนวนตัวเลขของการไลค์และการแชร์ รวมทั้งการคอมเมนท์ที่ทวีมากขึ้นเรื่อยๆเป็นหลักสิบยี่สิบKทั้งๆที่เวลาพึ่งผ่านไปไม่ถึงห้านาทีก็ตาม..
เยี่ยมไปเลยค่ะแอด!! ตายสงบศพสีชมพูเลยเมื่อเห็นภาพเซ็ตนี้”
น่ารักมากค่ะ ขออนุญาตแชร์นะคะแอด ภาพมันโดนใจ พี่เอิ้นพี่พะแพงน่ารักคอดๆ ต่อเรือแป๊บบ”
เรื่องการแอบถ่ายนี่ต้องยกให้แอด แต่สกิลการจิ้นต้องยกให้พวกเราชาว2เกิร์ล โอ้ยเห็นแล้วใจละลายมากๆค่ะ”
โอ้ย..ดีเวอร์ พี่เอิ้นพี่พะแพงน่ารักที่สุด อยากกอดแอดโคตรๆ ขอบคุณสำหรับภาพเซ็ตนี้นะคะแอด มาค่ะ..มาหอมแก้มแอดทีค่ะ”
หลุดยิ้มออกมาทันทีที่เห็นบรรดาคอมเมนต์ต่างๆพากันขอบอกขอบใจและยกความดีความชอบให้กับ “แอด” หรือก็คือแอดมินเพจที่ทำหน้าที่เซอร์วิสลูกเพจสาวยูริสาวกคู่จิ้นที่ดังที่สุดในโรงเรียนและเรียกได้ว่าเกือบจะดังที่สุดในประเทศตอนนี้แล้วก็ว่าได้
เพราะจากการที่มีเพจใหญ่ๆแห่กันแชร์ภาพสองสาวชุดนักเรียนสุดเรียบร้อยในเพจนี้ไปเป็นไวรัลเกือบทั้งประเทศ ซึ่งมันก็คงจะไม่มีอะไรที่น่าดึงดูดเท่าไหร่และดูธรรมดาพื้นเพมากๆหากคนสวมใส่ทั้งสองไม่ใช่เด็กสาวที่รูปร่างสะโอดสะองค์แลดูโตเป็นสาวเกินวัยและน่าตาก็สวยเกินกว่าดาราของเมืองไทยในปัจจุบันจะมีเสียอีก
ก้มหน้ายิ้มแล้วยิ้มอีกที่เห็นภาพ “เอิ้น”และ “พะแพง”สองสาวดาวโรงเรียนสหวิทย์ โรงเรียนอันดับหนึ่งของจังหวัดกำลังยิ้มหวานมองหน้ากันและกัน และด้วยความที่ทั้งสองมีใบหน้าสวยหวานหยดย้อยไม่แพ้กันอย่างนี้จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงมักจะมีคอมเม้นประเภทที่ว่าขอใครก็ได้ในทั้งสองคนนี้โผล่มาให้เห็นเสมอๆที่มีผู้ชายมาคอมเมนท์ และแม้เอิ้นกับพะแพงจะมีใบหน้าสวยหวานที่มองดูคล้ายๆกันสักเพียงใด แต่สำหรับแฟนพันธุ์แท้ของเพจคิวท์เกริล์พวกเขาสามารถแยกแยะได้ว่าใครเป็นใครได้แม้ว่าทั้งสองจะไม่ได้อยู่ในชุดนักเรียน หรือหันหลังให้กับกล้องที่แอบถ่ายยังไงก็ตาม
พี่คนที่ดูจะตัวสูงกว่าอีกคนและมีผมออกสีน้ำตาลอ่อนชื่อเอิ้นค่ะ ส่วนอีกคนผมดำขลับที่หน้าหวานๆยิ้มบ่อยๆคือพี่พะแพงค่ะ แต่หากจะถามว่าใครสวยกว่ากันแล้วคงบอกไม่ได้เพราะคิดว่าสวยคมหน้าหวานตาโตแบบไทยๆทั้งสอง เพียงแต่การแสดงออกทางภายนอกของทั้งสองจะเป็นอีกคนชอบยิ้ม ส่วนอีกคนจะชอบทำหน้านิ่งๆเหมือนจะดุแต่ก็ไม่ดุเพราะยังไงดวงตาหวานๆก็ช่วยทำให้ใบหน้าหน้ามองอยู่ดี ซึ่งคนที่ชอบยิ้มก็คือพี่พะแพง ส่วนพี่เอิ้นก็ยิ้มน้อยแต่หวานมากอย่างที่เห็นค่ะ..”
นั่นคือข้อมูลแนะนำตัวสั้นๆของสองสาวที่มักจะมาแชร์กันในเพจและคอยตอบคอมเมนท์ที่มีใครก็ตามถามว่าทั้งสองเป็นใครกันบ้าง ซึ่งภาพที่เห็นกับข้อความที่แนะนำนั้นก็ไม่ได้ขัดแย้งหรือกล่าวเกินจริงแต่อย่างใด เพราะด้วยใบหน้าสวยได้รูปของทั้งสองที่มีองค์ประกอบเป็นจมูกโด่งสันเหมือนฝรั่งแต่กลับมีดวงตาหวานๆเหมือนสาวไทยแถมใบหน้าก็ยังคมด้วยคิ้วดกดำเข้ม และปากยังสวยได้รูปอวบอิ่มและแดงระเรื่อทั้งวันอีก นี่ยังไม่นับส่วนสูงที่ต่างฝ่ายต่างสูงเกิน170ทั้งสอง หนำซ้ำยังผิวพรรณดีอีก จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทั้งสองถึงได้ดังทันทีที่มีภาพแชร์ออกไปในเน็ต
...เรียกได้ว่าตอนนี้สองสาวคู่จิ้นที่เธอและเพื่อนๆในเพจพยายามแชร์และเชียร์ออกนอกหน้ากำลังกลายเป็นเน็ตไอดอลโดยที่ทั้งสองไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรด้วยซ้ำเลย..
อมยิ้มอีกครั้งเมื่อคลิกเลื่อนมาเจอภาพเด็กสาวทั้งสองคนกำลังจูงมือกันเดินตามกันออกมาจากห้องน้ำในสภาพเสื้อหลุดลุ่ยออกจากกระโปรงตัวเองโดยที่ทั้งสองไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังโดนแอบถ่าย..
อุ้ย..ขนาดนี้แล้วคงไม่ได้แค่จิ้นแล้วใช่มั้ยคะแอด”
แอดก็ว่างั้นแหละค่ะ สภาพนี้คงตบจูบ ตบจูบมาแน่ๆ
หัวเราะคิกคักๆในตอนที่ตอบกลับข้อความนั้นด้วยชื่อ “แอด” ลงไป เพราะว่าเด็กสาวนักเรียนม.4วัย16ปีคนที่สวมแว่นหนาเตอะคนนี้ก็คือแอดมินเพจคิวท์เกริล์ เพจที่ทำให้ “เอิ้นและพะแพง” สองสาวนักเรียนชั้นม.6โรงเรียนเดียวกันกับเธอกลายเป็นเน็ตไอดอลที่ดังที่สุดในประเทศไปแล้ว และดูเหมือนเธอจะมีความภูมิใจเป็นอย่างมากเสียด้วยสิที่ทำหน้าที่ประหนึ่งผู้ปั้นดาวจรัสฟ้าดวงใหม่ออกมาสู่วงการเน็ตไอดอล
เน็ตไอดอลของวงการยูริ..อิอิ..พี่เอิ้นและพี่พะแพงเหมาะที่จะเป็นเจ้าหญิงแห่งวงการยูริที่สุดแล้ว
นั่งอมยิ้มทั้งหัวเราะคิกคักเมื่อนึกถึงภาพทะลึ่งตึงตังไปคนเดียวก่อนจะได้ยินเสียงๆหนึ่งดังข้างๆเข้า
เธอชื่อหลินใช่มั้ย..”
ค่อยๆชำเรืองมองไปตามเสียงที่นึกขึ้นได้ว่ามันช่างคุ้นๆว่าเหมือนใครนัก และเพียงแค่หันไปเต็มๆหน้า ตาเล็กๆหยีๆภายใต้แว่นหนาเตอะของเธอก็ถึงกับเบิกโตกว้างทันทีที่เห็นว่าเป็นคนเดียวกันกับที่เธอเพิ่งอัพโหลดภาพหล่อนลงในเพจเมื่อครู่นี้เอง..
พี่..เอิ้น..” ค่อยๆเรียกชื่อหล่อนอย่างเหวอๆ ทั้งตกใจทั้งตื่นเต้นที่ได้เห็นหน้าหล่อนในระยะใกล้ๆ ทั้งงงว่าทำไมสาวสวยหน้าหวานถึงได้ยืนกอดอกคิ้วขมวดมองเธอด้วยสีหน้าเหมือนกำลังไม่พอใจอะไรสักอย่างอยู่
ว่าไง..ชื่อหลินใช่มั้ยเรา..”
..ค่ะ..ค่ะ..” ตอบรับหล่อนอย่างรนราน ทำไมเสียงหวานๆของหล่อนถึงมีความดุดันซ่อนอยู่ในนั้นด้วยน้า.. “..มีอะไรเหรอคะพี่...”
หล่อนไม่ตอบคำถามนั่นแต่เดินเข้ามาประชิดตัวเธอก่อนจะชี้มือไปที่โทรศัพท์ในมือเธอต่อ
เป็นแอดมินเพจนี้ใช่มั้ย”
ปะๆเปล่าค่ะ” ส่ายหัวรัวทันทีที่ได้ยินเสียงฟังดูไม่พอใจของรุ่นพี่อย่างนั้น มองซ้ายมองขวาก็เห็นว่าหล่อนมายืนอยู่ต่อหน้าเธอคนเดียว แต่ท่าทางชวนไฟร์ทหาเรื่องก็ชวนให้หลินอึดอัดใจไม่น้อย นี่ที่ถามอย่างนี้คงจะไม่ใช่เรื่องดีนักหรอกใช่มั้ย
ถ้าเรายอมรับก็เท่ากับกำลังหาเรื่องให้ตัวเองอย่างนั้นสินะ การโกหกคือทางออกที่ดีที่สุด นั่นคือสี่งที่เด็กสาวคิดได้ในตอนนั้น
ไม่ใช่ค่ะพี่ พี่เอิ้นเข้าใจผิดแล้ว...”
เข้าใจผิดอย่างนั้นเหรอ..หึ..” คนฟังสะแหยะยิ้มจ้องมองท่าทางรนรานของเด็กสาวผิวขาวจั๊วจนเหมือนกระดาษดับเบิ้ลเอคนต่อหน้า แววตาหวานๆของเธอจ้องมองเด็กสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะส่ายหน้าไปมาช้าๆแสดงให้เห็นว่าเธอไม่เชื่อคำที่เด็กสาวคนต่อหน้าปฏิเสธไปเมื่อครู่นี้เลย
ชอบนักใช่มั้ยที่ได้จิ้นเห็นผู้หญิงเป็นแฟนกันน่ะ..” เสียงดุๆห้วนๆดังออกมาในตอนที่เอิ้นค่อยๆก้าวเดินเข้ามาต่อหน้าหลิน มือก็ชี้ไปที่หน้าจอโทรศัพท์หล่อนต่อ ใบหน้าก็จ้องไปที่หล่อนไม่วางตา
“..ชอบนักใช่มั้ยการมโนว่าผู้หญิงจูบกันเองอย่างที่เธอคอมเมนท์อย่างนี้ ดี..งั้นเธอจะลองดูดีมั้ยว่าการจูบกับผู้หญิงด้วยกันมันเป็นยังไงบ้าง อยากรู้ใช่มั้ยว่าการจูบกับผู้หญิงด้วยกันมันเป็นอย่างไงบ้างน่ะ!” เสียงกระแทกกระทั้นเงียบลงไปเมื่อเจ้าของเสียงโน้มตัวลงมาจับใบหน้าของหลินลอคเอาไว้ก่อนจะก้มใบหน้าลงมามอบจูบให้หล่อนทันทีทันใดหลังจากนั้น..
ใช่..จูบทันทีทันใดแบบฉุกละหุก..เพราะอีกฝ่ายก็ยังไม่แทบจะไม่รู้ตัวเลยว่าปากของตัวเองไปสัมผัสกับปากนุ่มนิ่มของหล่อนตั้งแต่ตอนไหน หรือดวงตาหวานๆของหล่อนจ้องมองตาเธอในระยะประชิดเท่าใด รู้ตัวอีกทีหล่อนก็ผละจูบฉาบฉวยที่แฝงไปด้วยความเจ็บแบบแปลกๆทั้งยังแสบแบบประหลาดๆ เนื่องจากเจ้าหล่อนได้แอบกัดริมฝีปากของตัวเองจนเธอเผลอสะดุ้งโหยงทันทีเมื่อรับรู้ได้ถึงรสเจ็บนั้น
และตอนนี้เมื่อเจ้าของใบหน้าหวานละจูบออกมาจากตัวเธอได้ หล่อนก็กลับมายืนขมึงใบหน้าดุดันก่อนจะชี้หน้าออกคำสั่งบางอย่างที่น่าตกใจ จนหลินเองยังไม่อยากจะเชื่อว่ามันคือความจริงไปได้
นี่เธอ..คงไม่ได้ฝันไปหรอกใช่มั้ยที่ได้ยินประโยคนี้ออกมาจากพี่สาวดาวโรงเรียนคนต่อหน้าอย่างนี้
ต่อไปนี้เธอกับฉันจะเป็นแฟนกัน!! เธอจะได้รู้สักทีว่าการมีแฟนเป็นผู้หญิงมันเป็นยังไงบ้าง!!
--<><><><>--
ว่าไงนะ!! เมื่อวานเอิ้นไปคุยกับเด็กคนนั้นแล้วเหรอ!!”
เสียงหวานๆไม่แพ้ใบหน้าของเด็กสาวมัธยมปลายในชุดนักเรียนสะอาดเรียบร้อย พะแพง” หลุดอุทานออกมาทันทีที่ได้ยินเพื่อนสาวหน้าหวานอีกคนบอกเล่าวีรกรรมล่าสุดที่หล่อนพึ่งไปสร้างมาเมื่อเย็นวานนี้
ไม่สิ..สำหรับ“เอิ้น”เด็กสาวหน้าหวานแต่ชอบกอดอกทำท่าทางชวนไฟรท์อยู่ตลอดเวลา เรื่องที่เธอไปแสดงตัวให้เด็กเนิร์ดแอดมินเพจคิวท์เกริล์จอมจุ้นที่เธอคิดว่าหล่อนคือสโต๊กเกอร์คอยติดตามแอบสอดแนมถ่ายรูปพวกเธอทั้งสองนั้นยังน้อยไปเสียด้วยซ้ำ และที่สำคัญเธอก็ยังไม่ทำอะไรให้เด็กคนนั้นเลยทั้งๆที่อยากทำขนาดไหนก็ตาม
ใช่..ก็แค่คุยไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ทำไมพะแพงต้องตกอกตกใจขนาดนั้นด้วยเล่า..” เหล่ตามองค้อนพะแพง เพื่อนสาวแสนสวยคนสนิทของตัวเองในตอนที่มองท่าทางเหวอๆของหล่อนต่อ
และแม้กระทั่งตอนนี้พะแพงก็ยังคงใช้ดวงตาดำดวงโตๆหวานๆจับจ้องเพื่อลองอ่านใจเพื่อนสาวตัวเองอยู่ ด้วยคงไม่รู้ว่าหล่อนพูดจริงหรือล้อเล่นกันแน่ เพราะก่อนหน้านั้นในตอนที่เดินเข้ามาโรงเรียนด้วยกันก็ยังเห็นหล่อนคุยเล่นเรื่องอื่นด้วยดีๆ แต่แค่เธอแอบบ่นเรื่องที่พ่อเอ็ดเรื่องที่เป็นข่าวคู่จิ้นกับหล่อนตอนมาถึงห้องเรียน พะแพงก็เห็นเอิ้นเปลี่ยนสีหน้าจากยิ้มหวานกลายเป็นคิ้วขมวดซีเรียส ก่อนจะรีบจูงมือเธอออกจากห้องมาหน้าระเบียงชั้นสองที่ไม่มีใครอยู่เพื่อคุยเรื่องที่น่าตกใจเกี่ยวกับเด็กคนนั้นเมื่อครู่นี้นั่นล่ะ..
อ้าว แล้วเด็กคนนั้นไม่ตกใจเหรอที่เห็นว่าเอิ้นรู้ตัวว่าตัวเองเป็นแอดมินเพจนั้นน่ะ”ถามเอิ้นคืนบ้างเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้
ก็ตกใจ ตัวสั่นงันงกหน้าซีดเชียวล่ะ แถมยังปากแข็งไม่ยอมรับเสียด้วย หึ..นี่คงไม่คิดว่าจะมีใครตามสะกดรอยตามตัวเองอย่างที่ตัวเองทำกับคนอื่นนั่นล่ะมั้ง”ทั้งพูดทั้งกัดปากกัดฟันกรอดๆ
เหรอ..แล้วเอิ้นทำอะไรเขาอีกหรือเปล่าล่ะ”
ชะงักทันทีที่ได้ยินพะแพงถามกลับอย่างนั้น“ก็เปล่า แค่อยากจะสั่งสอนให้รู้จักอะไรบางอย่างเท่านั้น”
บางอย่างเท่านั้น อย่างนั้นเหรอ..” จ้องมองแววตามีพิรุธของเอิ้นด้วยไม่เชื่ออยู่ครู่หนึ่งปลายสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นร่างเล็กๆของใครบางคนกำลังเดินหอบถุงกระดาษหลายถุงพะรุงพะรังพร้อมทั้งสะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่เดินผ่านด้านล่างอาคารมาดุ่มๆ
เด็กคนนั้นนี่..” รีบชี้ชวนเอิ้นมองทันทีที่เห็นว่าเป็นบุคคลที่สามที่อยู่ในบทสนทนาเมื่อครู่นี้ “...นี่เขาแบกของหนักๆอย่างนั้นมาโรงเรียนทุกวันเลยเหรอ” แอบถามเอิ้นทันทีที่เห็นท่าทางจับกังแบบหามของเด็กคนนั้น นี่ยังไม่รวมกับกระเป๋ากล้องด้านข้างที่หล่อนสะพายข้างมาอีก2นะ นี่ก็จะมาตั้งรกรากหรือย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่โรงเรียนเลยใช่มั้ย แอบหัวเราะท่าทางงกเงิ่นๆของเด็กน้อยด้วยความเอ็นดูอยู่ครู่หนึ่งเสียงเอิ้นก็ดังแทรกขึ้นมา
ใช่..แบกมาทุกวัน แต่นี้ยังไม่ครบฟูลออปชั่นของหล่อนหรอกนะ จริงๆต้องมาขาตั้งกล้องกับกระเป๋าโน๊ตบุ๊คมาด้วย”
ห๊ะ!..” พะแพงหลุดหัวเราะ “..ขนาดนั้นเลยเหรอ เหลือเชื่อเลย”
ใช่ นั่นล่ะหล่อนเลย..” ยักคิ้วยิ้มน้อยให้เพื่อนสาวเมื่อตอบรับในสิ่งที่เธอพยายามตามสืบมาตลอดระยะเวลาเกือบๆสัปดาห์ก่อนหน้านั้น ดวงตาก็มองยัยเด็กแอดมินบ้าหอบฟางกำลังก้มหน้าก้มตาเดินดุ่มๆเข้ามาในอาคารเรียนที่นักเรียนยืนอยู่พลุ่กพล่านก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้ ..หึ..ได้เวลาสนุกแล้วสินะ..
พะแพง..รออยู่นี่ก่อนนะ เค้าขอไปทำธุระแป๊บนึง...”
--<><><><>--
หลินเดินก้มหน้าก้มตาหอบถุงหิ้วใส่ของสำหรับแพ๊คส่งให้บรรดาลูกเพจคู่จิ้นของเธอเข้ามาในอาคารเรียนที่เด็กนักเรียนยืนคุยกันอยู่พลุ่กพล่าน ในสมองของเธอตอนนี้กำลังคำนวนจำนวนกล่องกับเงินค่าส่งของว่าจะต้องใช้เท่าไหร่ เมื่อหัวทั้งกังวลทั้งคำนวน ดวงตาเธอเลยไม่ทันได้สังเกตุว่าระหว่างทางเดินข้างหน้านั้นมีเท้าของใครยื่นออกมาขวางอยู่ก่อนหน้านั้นแล้..
ตุ๊บ!! ตัวหลินล้มลงหน้ากระแทกพื้นทันที และข้าวของที่หลินแบกมาทั้งหมดก่อนหน้านั้นก็ลอยเคว้งและร่วงกระจัดกระจายลงบนพื้นทางเดินเต็มไปหมด
โอย.. เสียงครวญครางของหลินดังขึ้นในตอนที่หน้าเธอยังคว่ำอยู่กับพื้นพร้อมๆกับเสียงหัวเราะคิกๆคักๆของเด็กนักเรียนที่อยู่รอบๆบริเวณนั้น และไม่ทันที่เธอจะพยุงตัวเองขึ้นมามองหารองเท้าปริศนาของใครเมื่อครู่นี้ก็มีมือเล็กๆเรียวๆของใครบางคนเอื้อมลงมาดึงมือเธอให้ลุกขึ้นมาก่อน..
ทำไมเดินไม่ระวังอย่างนั้นล่ะค่ะ..”คิ้วของหลินขมวดเป็นปมทันทีที่ได้ยินเสียงดังขึ้นต่อหน้าพร้อมๆกับมือนุ่มๆนิ่มๆที่คาดว่าจะเป็นของเจ้าของเสียงนั้นกระชากมือให้เธอลอยขึ้นหลังจากนั้น และแน่นอนว่าเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นมามองภาพเบื้องหน้าเต็มๆตา เจ้าของใบหน้าสวยหวานที่เมื่อวานกัดกระชากปากเธอก็ยืนยิ้มน้อยกรุ่มกริ้มมองดูมีเลศนัยต่อหน้าแล้ว
“..มาสายจังเลยนะ..หรือว่าเมื่อคืนเราคุยโทรศัพท์กันนานไปหน่อยคะ..ที่รัก”ทั้งยิ้มทั้งพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูดังจนผิดปกติ แต่ที่เด็ดกว่านั้นก็เห็นจะเป็นประโยคหลังสุดที่ทำเอาหลินถึงกลับสำลักไอไม่หยุด แถมนักเรียนที่ยืนจับกลุ่มคุยกันอยู่แถวนั้นก็ยังฮือฮาด้วยไม่คิดว่ารุ่นพี่ที่เป็นดาวของโรงเรียนจะมาเรียกยัยเด็กแว่นหนาเตอะคนนี้ว่าที่รักด้วย นี่ไม่ได้ล้อเล่นอะไรใช่มั้ย
กำลังยืนอึ้งตะลึงกันทั้งบางอยู่ดีๆพี่เอิ้นของพวกเขาก็คว้าเอาดอกกุหลาบที่ซ่อนไว้ข้างหลังมาโชว์คนต่อหน้าดื้อๆ
อ๊ะ..พี่ให้หลินนะ..” พูดยังไม่ทันจบดีและทุกคนก็ยังอิจฉายัยสี่ตาต่อหน้าไม่ทันจบดีพี่เอิ้นของพวกเขาก็โน้มหน้าเข้าไปแสร้งทำเป็นหอมแก้มหล่อนอีกดอก สร้างความตกตะลึงพรึงเพริดและอิจฉาจนพวกเขาใบหน้าร้อนผ่าวเข้าไปใหญ่
นี่ทำไมพี่เอิ้นถึงได้จัดชุดใหญ่ไฟกระพริบกับเด็กคนนี้ขนาดนี้ หรือนี่จะคือแฟนพี่เอิ้นตัวจริงใช่มั้ย แล้วพี่พะแพงล่ะ.. นั่นคือสิ่งที่ทุกคนได้แต่กระซิบกระซาบกันด้วยความสงสัยปนอิจฉาเมื่อมองเห็นเด็กสาวที่ดูไม่เหมาะสมกับพี่เอิ้นเอาซะเลยกำลังเงอะๆงะๆจ้องมองเจ้าของริมฝีปากเมื่อครู่นี้ด้วยทั้งเขินทั้งอายแถมยังงง แต่ตอนนี้หล่อนน่าจะอายมากกว่า เพราะเกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าหอมแก้มเธอต่อหน้าประชาชนขนาดนี้เลย
....พี่..” ได้แต่เรียกคนข้างหน้าอย่างเหวอๆเมื่อหล่อนยังคงส่งยิ้มเล็กยิ้มน้อยยียวนมองดูมีเลสนัยต่อไปอีก
ทำไมคะ หอมไม่ได้เหรอ ก็เราเป็นแฟนกันนี่ หลินจำไม่ได้แล้วเหรอ” คนพูดกัดปากกัดฟันส่งซิกขยิบตามาที่หลินที่ยังคงเงอะๆงะๆมองซ้ายมองขวาด้วยความอายอยู่
หรือว่าต้องให้พี่บอกทุกคนว่าหลินคือ แอด..”
ดะๆ เดี๋ยวๆค่ะ..” รีบโผเข้ากอดและปิดปากพี่เอิ้นทันทีที่ได้ยินเหมือนว่าหล่อนกำลังเผยความลับที่เธอไม่เคยบอกใครในโรงเรียนให้รู้เลยสักคน และก็ไม่ได้อยากบอกใครด้วยไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เพราะเธอกลัวว่าสิ่งที่เธอกำลังทำในหน้าที่แอดมินเพจคิวท์เกริล์อาจจะทำให้เธอมีความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ หากมีใครสักคนรู้ว่าเธอคือคนที่ตามถ่ายรูปผู้หญิงสองคนแล้วเอามาเผยแพร่ในเน็ตโดยที่ทั้งสองยังไม่เต็มใจ และถ้าพ่อแม่พี่น้องทั้งสองคนรู้แล้วเอาผิดเธอ เธอคงโดนโทษอ่วมแน่ๆ เพราะงั้นตอนนี้หลินจึงยังไม่พร้อมจะบอกใครว่าเธอคือแอดมินเพจคิวท์เกริ์ล แม้ผู้หญิงคนต่อหน้าจะรู้ความจริงว่าเธอเป็นแล้วยังไงก็ตาม..
ดะ..ดะ..เดี๋ยวยังไงเราค่อยคุยกันอีกทีนะคะพี่เอิ้น ตอนนี้หลินรีบน่ะค่ะ” ยิ้มแหยๆในตอนที่ปิดปากหล่อน แถมดวงตาหยีๆของเธอก็พยายามส่งสัญญาณเว้าวอนขอโอกาสพี่คนสวยด้วย
..นะนะ..หวังว่าพี่คนสวยคงจะไม่ใจร้ายหรอกใช่มั้ย..นั่นคือสิ่งที่หลินคิดในตอนที่ทำตาเล็กตาน้อยมองอ้อนขอโอกาสคู่กรณีของเธอ จนอีกคนมองตาขวางนึกหมั่นไส้ได้แต่ยื่นมือมาปัดมือหลินที่ปิดปากตัวเองไว้แล้วผลักหล่อนออกจากตัว แต่กระนั้นก็ยังไม่วายนึกขึ้นได้ถึงแผนการคนรักจอมปลอมเพื่อสั่งสอนเด็กไม่รู้จักความคนนี้ ยังไงฉันก็ต้องทำเป็นรักเธอแม้จะไม่ชอบขนาดไหนก็ตามสินะ คิดได้ดังนั้นก็รีบฉีกยิ้มให้หล่อนทันที
ตั้งใจเรียนนะคะเบบี๋..เดี๋ยวเที่ยงนี้จะมารับไปกินข้าวด้วยกันนะคะ จุ๊บ..”
เสียงจุ๊บท้ายสุดนั่นมาพร้อมๆกับท่าโปรยจูบเจ้าเสน่ห์ของเธอ โดยที่คนรับได้แต่หน้าชาหน้าเอ๋อเพราะไม่ได้รับรู้ถึงความพิศวาศใดๆที่มากับท่วงท่าเซ็กซี่เหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย เพราะลางสังหรณ์แห่งความร้ายกาจจากดวงตานั้นเตือนเธอให้รู้ว่า ในรอยยิ้มหวานนั้นคงไม่ได้มีความพิศวาสใดๆซ่อนอยู่เป็นแน่แท้..
--<><><><>--
เอิ้นนนนน.. เกิดอะไรขึ้น ก่อนเข้าแถวเอิ้นไปทำอะไรมา”
เสียงพะแพงเรียกตามเพื่อนสาวในขณะที่หล่อนกำลังเร่งความเร็วของฝีเท้าเพื่อหลบหนีสายตากรุ่มกริ้มของบรรดาเด็กนักเรียนคนอื่นๆ ในตอนที่ทั้งสองเลิกแถวหน้าเสาธงแล้วและกำลังจะเดินมุ่งตรงขึ้นห้องเรียนของตัวเอง..
คนโดนเรียกหันมายิ้มหวานให้เพื่อนก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่ได้ทำอะไร”
ไม่ได้ทำอะไร?? คิดว่าเค้าไม่เห็นเหรอ นี่ไปแกล้งเด็กคนนั้นมาใช่มั้ย”
ไม่ได้แกล้งสักหน่อย”
เอิ้นนน..” ลากเสียงสูงและจ้องเขม็งข่มขู่เอาความจริงจากเพื่อนสาว และเมื่อเห็นแววตาจริงจังเอาเรื่องของพะแพงแล้วเอิ้นก็ได้แต่ถอนหายใจใหญ่คิดว่ายังไงๆก็คงจะหลอกหล่อนไม่ได้อีกแน่ๆ
อะอะก็ได้ๆ เค้าก็แค่อยากจะสั่งสอนให้ยัยนั่นรู้จักสำนึกบ้างแค่นั้นเอง”
สั่งสอนให้สำนึกโดยการแกล้งเป็นแฟนเขานี่นะ”
อื้มมม...” ทำเป็นหูทวนลมเมื่อได้ยินเพื่อนสาวถาม “ก็ประมาณนั้นล่ะ...
เอิ้น!!” จ้องเขม็งมองเอิ้นอีกครั้ง ก่อนจะดึงมือเพื่อนไปอยู่ในที่ลับตาคนกว่านี้เมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังกลายเป็นเป้าสายตาด้วยทำท่าเหมือนทะเลาะกันเพราะกำลังหึงหวงอะไรบางอย่างกันอยู่
แล้วนี่นึกยังไงไปหอมแก้มเด็กคนนั้นต่อหน้าคนอื่นอย่างนี้นี่!”
ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ เค้าก็เคยหอมแก้มพะแพงต่อหน้าคนอื่นบ่อยๆไป” ไม่พูดเปล่าเพราะเจ้าตัวยังทำท่าโน้มหน้าเข้าไปหอมเพื่อนสาวต่ออีก จนคนโดนหอมรีบผลักเธอออกแล้วขึ้นเสียงต่อว่าด้วยน้ำเสียงห้วนๆแถมใบหน้าที่ขาวนวลสวยก่อนหน้านั้นก็กลายเป็นสีแดงๆแปลกๆไปอีก
เนี่ยยย..ก็เพราะยังเงี้ยไงคนอื่นเขาถึงเข้าใจผิดเรื่องของเรา เอิ้นน่ะชอบหอมแก้มเค้าพร่ำเพรื่อไม่ดูเวล่ำเวลา คนอื่นเขาเลยเอาไปแซวกัน”
อะไรนักหนาเล่า เราก็หอมแก้มกันยังนี้แต่ไหนแต่ไรแล้วนี่” คิ้วขมวดมองท่าทางโมโหฟึดฟัดประหลาดๆของพะแพง
มันเหมือนกันกับตอนนั้นซะที่ไหน ตอนนี้เราโตเป็นสาวกันแล้วนะ!”
แล้ว???..”
กัดฟันมองคนตรงหน้าอย่างหมั่นไส้ ก่อนจะยื่นมือไปผลักเอิ้นอีกครั้ง “แกล้งโง่หรือเปล่านี่! ไม่คุยด้วยแล้ว!
เอ้า?? เป็นงั้นไป”หน้าเอ๋อมองพะแพงเดินงอนตุ๊บป๋องกลับเข้าห้องอย่างงงๆ
อะไรกันยัยคนนี้ ทีตอนนั้นชอบบ่นกลุ้มใจเรื่องที่พ่อกับแม่บ่นเรื่องคู่จิ้นของเรา ทำยังกลับโกรธให้พวกที่กุเรื่องที่เราคบกัน แต่พอจะแก้แค้นให้จริงๆกลับทำเป็นโมโหไปซะงั้น
เฮ้ออ..อะไรนักหนานะ คบกันมาตั้งแต่เด็กจนโต คิดว่ารู้ใจเพื่อนคนนี้ดีแล้วแท้ๆแต่กลับกลายเป็นไม่สามารถเข้าใจอะไรหล่อนได้เลย รู้สึกว่าพะแพงจะเป็นเพื่อนสาวที่มีความซับซ้อนทางอารมณ์มากเสียจนเอิ้นยังแอบงงกับการแสดงออกของเพื่อนเลย ภายนอกพะแพงอาจจะมองดูเหมือนเด็กสาวแสนสวยกิริยาท่าทางก็แสนจะเรียบร้อย ทำตัวน่ารักและเฟรนด์ลี่ แต่พออยู่กับเธอสองคนแล้วทำไมเธอถึงคิดว่าพะแพงชอบ “เยอะ” กับเธออยู่เรื่อยเลยก็ไม่รู้..
ทั้งเรื่องจู้จี้ขี้บ่น ขี้งอน ขี้น้อยใจ แถมยังคิดมากและกังวลกับเรื่องต่างๆจนเธอต้องคอยออกหน้าจัดการกับปัญหาเหล่านั้นให้ตลอด
ฉันว่าฉันก็พยายามเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอแล้วนะ เธอแย่เรื่องอะไร ไม่โอเคกับเรื่องอะไรฉันก็พยายามจัดการให้เธอตลอดไม่ว่าจะลำบากขนาดไหน..
เฮ้อ..พะแพงเรื่องอื่นน่ะยังพอตามใจได้ แต่เรื่องขี้งอนไม่มีเหตุผลอย่างนี้ฉันก็ไปต่อไม่เป็นเหมือนกันล่ะนะ ยัยคนขี้งอน..
--<><><><>--
เสียงอึกทึกครึกโครมของบรรดานักเรียนดังเซ็งแซ่ขึ้นในเวลาเลิกเรียนของวัน และหลังจากนั้นไม่นานภาพเด็กชายหญิงวิ่งกระหืดกระหอบลงมาจากอาคารก็เกิดขึ้น หนึ่งในนั้นมีนักเรียนหญิงมัธยมผมหางม้าที่ใส่แว่นหนาเตอะเทอะทะเดินปนเปเซซ้ายเซขวาจากอาการปวดตามเนื้อตามตัวของเธอ ก็เนื่องจากเมื่อตอนเช้าเธอโดนรุ่นพี่สุดสวยผู้ที่เป็นดาวของโรงเรียนแกล้งยื่นขามาเตะเธอเข้าให้นั่นล่ะเลยทำให้ร่างทั้งร่างของเธอในตอนนี้ระบมไปด้วยความความเจ็บปวดจากรอยฟกช้ำไปหมด
ก้มหน้าเดินงกๆเงิ่นๆไม่มองซ้ายไม่มองขวาเพราะติดนิสัยไม่ชอบสุงสิงกับใครอยู่ครู่หนึ่ง ปลายหางตาก็ไปสะดุดเข้ากับรองเท้านักเรียนหญิงของใครสักคนบนพื้นด้านหน้าอีกแล้ว..
อึ๊ก! รีบเงยหน้าขึ้นมองด้วยความตกใจทันทีเมื่อนึกถึงใครบางคนได้
ว่าไงคะที่รัก จะกลับบ้านแล้วเหรอ ไหนบอกว่าให้รอกลับพร้อมกันไง ทำไมไม่รอพี่ล่ะคะ”
เจ้าของเสียงเป็นคนเดียวกันกับในห้วงความคิดจริงๆเสียด้วย และเมื่อหล่อนเดินยิ้มหวานด้วยท่าทางไม่น่าไว้วางใจเข้ามาใกล้เธอแล้วหลินก็รีบยกถุงหิ้วขึ้นมาตั้งการ์ดบังใบหน้าตัวเองไว้ทันทีเนื่องจากกลัวว่าผู้หญิงสวยคนตรงหน้านี้จะมีแผนการอะไรมาแกล้งเธออีกน่ะสิ
หล่อนหัวเราะหึๆทันทีที่เห็นท่าทางรนรานกลัวอย่างเห็นได้ชัดของหลิน
อะไรกัน พี่ไม่ทำอะไรเราหรอกน่า ป่ะกลับบ้านกันเถอะค่ะ มา เดี๋ยวพี่จะไปส่งที่บ้านเอง” ทั้งพูดทั้งยิ้มในตอนที่ยื่นมือมาขอมือหลิน โดยที่มีเสียงฮือฮาของบรรดานักเรียนรอบๆที่ยืนมุงดูอยู่ดังมาเป็นซาวน์แทร็คประกอบอีกเช่นเคย และนั่นก็ทำให้เอิ้นยิ้มน้อยด้วยนึกพอใจที่แผนการแกล้งเป็นแฟนกับเด็กแว่นคนตรงหน้านั้นสำเร็จไปอีกขั้นนึงแล้ว เดี๋ยวไม่นานก็ต้องมีกระทู้ที่ลงข่าวเธอกับเด็กคนนี้แทนข่าวของเธอกับเพื่อนสาวเธอแน่ๆ ดูสิว่าทีนี้เรื่องของใครจะน่าอายกว่ากัน
ป่ะค่ะ กลับบ้านกันเถอะที่รัก..” เสียงหวานๆดังออกไปพร้อมๆกับมือที่กอบกุมมือของอีกฝ่ายไว้ และแน่นอนว่าเมื่อทุกๆคนเห็นพี่เอิ้นพี่ดาวสุดสวยของโรงเรียนทำเช่นนั้นพวกเขาก็ยิ่งกรี๊ดกร๊าดไปกันใหญ่ ยิ่งเอิ้นดึงมือของหลินเข้ามาควงแล้วเดินออกไปนอกโรงเรียนด้วยท่าทางกระหนุงกระหนิงด้วยแล้วพวกเขาก็ยิ่งกระซิบกระซาบและคุยกันถึงเรื่องที่พวกเขาได้เห็นกันด้วยความสงสัยไปอีก
ทุกๆสายตารอบๆบริเวณนั้นต่างจ้องมองด้วยความงุนงงและสงสัย ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับนักเรียนหญิงตัวสูงสง่าร่างอรชนอีกคนที่ยืนมองด้านหลังของพวกเขาอยู่ตรงพุ่มต้นไม้ไกลๆลิบๆ
เธอคิ้วขมวดจ้องมองภาพที่เห็นแล้วก้มหน้ากำมือข้างที่ไม่ได้ถือกระเป๋านักเรียนเอาไว้เสียจนแน่น ก่อนจะพ่นลมหายใจหน่วงๆออกมาในตอนที่พยายามทำใบหน้าสวยให้กลับมายิ้มหวานละมุนอีกครั้ง ให้สมกลับที่ได้รับฉายาว่าเป็นหนึ่งในดาวที่สวยที่สุดในโรงเรียน ในตอนที่เธอเดินออกจากโรงเรียนไปหลังจากนั้น..