วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

นิยายรักไม่จำกัดบท

Cheapter 11
คนเจ้าชู้?และการลงทุนง้อ
ดีนะเนี่ยที่แขนไม่ได้หักแต่แค่เคล็ดเฉยๆ ทีหลังก็เดินดูรถกันดีๆสิ พากันออกจากบ้านกลางค่ำกลางคืนยิ่งต้องระวังให้มาก ไม่ใช่จะสะเพร่าเดินงุ่มๆง่ามๆกันอย่างนี้” น้ำเสียงดุดันของพลโทพนัสดังขึ้นเมื่อคุณหมอและพยาบาลเดินออกจากห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลไปแล้ว
ก่อนหน้านี้แค่ชั่วเวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีหลังจากที่ลูกชายของเขารีบพาพี่สาวของเขาเข้ามาบอกเล่าถึงอาการที่หล่อนได้จากอุบัติเหตุ เขาและลูกทั้งสองก็รีบพากันออกรถไปที่โรงพยาบาลเอกชนที่ใกล้ที่สุดทันที และถึงแม้แม่จะไม่ได้ตามออกมาด้วยเพราะพ่อสั่งให้รออยู่ที่บ้านแต่ท่านก็ยังพยายามโทรถามข่าวคราวของพะแพงด้วยความเป็นห่วงอยู่ตลอดเวลา
เช่นเดียวกับตอนนี้ที่คนเป็นพ่อก็ยังคิ้วขมวดมองลูกสาวที่แขนซ้ายของหล่อนมีผ้าพันแผลพันไว้อยู่รอบๆด้วยความเป็นห่วงไม่แพ้คนแม่ แต่ก็ต้องตำหนิด้วยอยากให้รู้ว่าสิ่งที่ทั้งสองทำนั้นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องนัก
เฮ้ออ.. เห็นมั้ยว่าการที่ไม่รู้จักลงมากินข้าวให้ตรงเวลามันก็สร้างอันตรายได้นะ คิดว่าการจะหิวขึ้นมากลางค่ำกลางคืนแล้วชวนน้องไปซื้อขนมอยู่เซเว่นหน้าปากซอยมันจะไม่เป็นอันตรายอย่างนั้นเหรอ เฮอะ! คงต้องคิดกันใหม่แล้วล่ะน่ะ แล้วเพราะพะแพงทำผิดอย่างนี้พ่อก็คงต้องทำทัณฑ์บนลงโทษเราไม่ให้ไปไหนมาไหนตอนกลางคืนอย่างนี้แล้วล่ะ แม้จะไปกับน้องก็เถอะ เข้าใจพ่อใช่มั้ย”
ค่ะ..” เสียงลูกสาวตอบรับอย่างหงอยๆก่อนจะหันไปมองน้องชายที่ขยิบตาให้สัญญาณว่าควรจะยอมรับโทษที่เบาแสนเบาของพ่อไปดีกว่า
ในเมื่อเขาก็เป็นคนช่วยออกตัวแทนพี่สาวเขาไปแล้วว่าพวกเขาพากันออกไปหาซื้อของกินอยู่เซเว่นเมื่อพะแพงหิวข้าวมากในตอนนั้น แทนที่จะบอกไปว่าพี่สาวหนีออกจากบ้านเพื่อไปหาเพื่อนของตัวเองตรงๆ และการโกหกเพื่อช่วยพี่สาวของน้องชายตัวแสบที่ชอบกัดเธอดีเหลือเกินก็ทำให้พะแพงรู้ว่าลึกๆแล้วพะเพื่อนก็รักและเป็นห่วงเธอไม่น้อยเลย เขายอมรับทัณฑ์บนจากพ่อเช่นเดียวกันกับเธอทั้งๆที่เขาไม่ได้ผิดอะไรเลย..
จ้องมองน้องชายตัวเองส่งยิ้มแหยๆปลอบใจตัวเองก่อนจะเห็นเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับ
เออ แบงค์ว่า..” เขาทั้งรับทั้งเดินออกจากห้องฉุกเฉินไปข้างนอก ทิ้งให้พะแพงและพ่ออยู่ในห้องฉุกเฉินเพียงสองคนหลังจากนั้น
พ่อไม่ได้อยากจะลงโทษเราหรอกนะพะแพง พ่อรู้ว่าเราไม่เคยเกเรสักที นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ออกจากบ้านกลางค่ำกลางคืนแล้วไม่ได้ขออนุญาติพ่อหรือแม่เลย ทุกครั้งหนูก็ทำดีมาตลอด แต่พ่อก็ต้องทำนะ เพราะพ่ออยากฝึกให้ลูกมีวินัยในตัวเองมากกว่านี้ นี่ดีที่ว่าเราเจ็บตัวแค่นี้ ถ้าเราโชคร้ายโดนรถชนเต็มๆก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้าง เออ..ว่าแล้วก็เดี๋ยวพ่อจะต้องไปขอดูกล้องวงจรปิดของหมู่บ้านหน่อย ปล่อยให้รถวิ่งเข้ามาเร็วๆในหมู่บ้านได้ไง ต้องเอาเรื่องสักหน่อย ชนแล้วก็ไม่จอดดูคนเลย ไร้น้ำใจจริงๆ”เสียงบ่นของพ่อดังมาอีกครั้ง
เขาอาจจะไม่เห็นหนูก็ได้มั้งคะพ่อ ตรงนั้นมันมืด เขาอาจจะขับรถมาด้วยความเร็วก็เลยมองไม่ทัน”
ไม่ต้องแก้ตัวแทนเลย เราก็ด้วยล่ะ ก็เห็นแล้วว่ามันมืดค่ำทีหลังก็ไม่ต้องออกจากบ้านเข้าใจมั้ย” แวะเข้ามาบ่นเรื่งพะแพงอีกจนได้ “นี่ก็ไม่รู้ว่าหิวอะไรนักหนาทุกทีก็ไม่เห็นจะกินดึกๆดื่นๆอย่างนี้เลย เห็นไดเอทก็ออกจะบ่อย นี่เพราะแม่คิดว่าเราคงไม่กินอะไรอีกแล้วเพราะมันดึกแล้ว แม่ก็เลยไม่ได้เหลือกับข้าวเอาไว้ให้ แต่ว่าของในตู้เย็นบ้านเราก็มีออกจะเยอะทำไมไม่หากินในนั้น ออกไปซื้อทำไมกับเซเว่นนักหนา อยากเอาเงินไปให้เขานักหรือไง กลัวเขาไม่รวยเหรอ”
พ่ออ่ะ..” ไม่รู้ว่าจะแก้ตัวกับพ่อว่าอย่างไรตอนนี้พะแพงเลยได้แต่ยิ้มแหยๆให้ท่านเป็นการแก้เขินไป ก่อนที่สายตาของทั้งสองจะหันไปมองประตูห้องฉุกเฉินที่ตอนนี้เปิดออกพร้อมร่างของพะเพื่อนและ..เอิ้น
พะแพงสะบัดหน้าหนีทันทีที่เห็นว่าเป็นคนใจร้ายที่ไม่ยอมรับโทรศัพท์ตัวเองเลย
พ่อสวัสดีค่ะ” หล่อนยกมือไหว้พ่อ ก่อนจะเดินเข้ามาหาพะแพง โดยที่พะเพื่อนก็รีบเดินเข้ามาหาพ่อตัวเองเช่นเดียวกัน
พ่อครับ เดี๋ยวออกมาข้างนอกก่อนดีกว่าครับ ผมมีเรื่องจะคุยกับพ่อสองคนครับ” ลูกชายหยุดเลิ่กลั่กนิดๆเมื่อเห็นสายตาดุๆของพ่อจ้องมองตัวเองเมื่อท่านกำลังคิดว่าจะคุยอะไรกันแค่สองคนไร้สาระหรือเปล่า
เอ่อ ผมจะคุยเรื่องรถที่ชนพี่แพงน่ะครับ นี่น่ะครับพ่อ...” ทั้งพูดทั้งจูงมือพ่อที่เริ่มสนใจจะคุยกับตัวเองออกจากห้องไป ปล่อยให้สองสาวพะแพงและเอิ้นกลับมาเผชิญหน้ากันสองคนอีกครั้ง
เป็นยังไงบ้างพะแพง เห็นพะเพื่อนบอกว่าพะแพงโดนรถชนเหรอ” ทั้งพูดทั้งเอื้อมมือไปจับแขนที่เป็นแผลของหล่อนขึ้นมาดูแต่ก็โดนอีกคนสบัดมือออกทันที
เป็นห่วงด้วยเหรอ” ทั้งพูดทั้งหัวเราะหึ
ห่วงสิ”
ห่วงแต่ไม่รับโทรศัพท์กันเลยอย่างนี้เนี่ยนะ ไหนบอกหน่อยสิ มีเหตุผลอะไรที่ทำให้คนที่บอกว่าเป็นห่วงกันไม่ยอมรับสายกันขนาดที่ว่าโทรหาซ้ำๆกันนานขนาดนั้นน่ะ”
เอ่อ..เค้า เค้า ติดธุระอยู่”
ธุระ? หึ.. ติดธุระหรือติดใคร?”
คนโดนถามถึงกลับเลิ่กลั่กทันทีเมื่อได้ยินพะแพงถามอย่างนั้น
หลินสินะ..”ลองเดาด้วยน้ำเสียงสมเพชตัวเอง
เอ่อน้องเค้าพึ่งแวะมาเยี่ยมเค้าช่วงเย็นน่ะ ก็แค่มาเยี่ยมเพราะเป็นห่วง”
เพราะเป็นห่วงหรือเพราะว่าไปจับผิดว่าทำไมเอิ้นถึงไม่ยอมรับสายน้องเค้าทั้งวันเหมือนกันใช่มั้ย และถ้าให้ทายคงเคลียร์กันไม่เข้าใจจนต้องไปปรับความเข้าใจกันที่เตียงใช่มั้ย”
พะแพง!”เสียงร้องของคนฟังดังออกมาเหมือนตกใจมากที่ได้ยินพะแพงพูดอย่างนั้น
หึ..เดาถูกล่ะสิ” ทั้งพูดทั้งหัวเราะ “งั้นกลับไปคุยกันต่อเลยนะ จะได้ปรับความเข้าใจกันให้จบเสียที คืนนี้ก็จะนอนด้วยกันอยู่แล้วนี่ น้องเค้ามานอนด้วยไม่ใช่เหรอ”
ทำไมพูดอย่างนั้น พะแพง” รีบเอื้อมมือไปดึงแขนพะแพงไว้พยายามจะอธิบายบ้าง แต่อีกคนรีบสะบัดออกพร้อมทั้งส่งเสียงเรียกคนด้านนอกห้อง
พ่อคะ! พ่อ!” เอิ้นชะงักทันทีเมื่อเห็นอีกคนหยุดเรียกแล้วหันมากระซิบกระซาบตัวเอง “รีบกลับไปซะ ก่อนที่พ่อจะเข้ามาเห็นแล้วรู้เรื่องของเราสองคน”
นี่ขู่เหรอ..”จ้องมองคนขู่อย่างไม่เข้าใจ
ไม่ได้ขู่เลย..พูดจริง” แววตานิ่งๆจ้องมองเอิ้นก่อนจะตะโกนอีกครั้ง “พ่อคะ! พ่อ!”
ว่าไงพะแพง!” เสียงพ่อดังขึ้นพร้อมอาการรนรานเปิดประตูห้องเข้ามาพร้อมลูกชาย
หนูอยากกลับบ้านแล้วค่ะพ่อ หมอว่าหนูปลอดภัยแล้วใช่มั้ยคะ งั้นเรารีบกลับบ้านกันเถอะค่ะ หนูง่วงอยากพักผ่อน”
อ้าว แล้วหนูเอิ้นล่ะ” หันมามองเอิ้นด้วยความสงสัยทั้งพ่อทั้งลูกชาย
เขาก็รีบกลับเหมือนกัน เห็นว่ากำลังติดธุระกับน้องของเขาอยู่”
พะเพื่อนเหล่ตามองเอิ้นที่คิ้วขมวดจ้องมองพะแพงด้วยความไม่พอใจเมื่อเห็นว่าหล่อนกล้าใช้แผนไล่ตัวเองทางอ้อมอย่างนั้น และสายตาเคืองๆที่ทั้งสองกำลังจ้องมองกันอยู่ประหนึ่งมีประจุไฟฟ้าวิ่งผ่านหากันตลอดเวลา ก็ทำให้พะเพื่อนรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้น่าจะไม่โอเคแล้วล่ะถ้ายังขืนรั้งพี่สาวอีกคนที่เขาอุตสาห์ลงทุนเรียกหล่อนมาเยี่ยมพะแพงให้อยู่ที่นี่ต่ออีกทั้งที่อีกคนกำลังไล่หล่อนทางอ้อมอย่างนั้น..
เอ่อ งั้นพี่เอิ้นกลับก่อนก็ได้นะครับเดี๋ยวทางนี้ผมดูแลพี่แพงให้เอง”
//////////////////////////////////
พะแพงนั่งทิ้งตัวลงบนเตียงนอนของตัวเองอย่างหัวเสียเมื่อเธอเดินเข้ามาในห้องนอนของตัวเองได้แล้ว และอาการหัวเสียของเธอก็สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านั้นน้องชายตัวแสบรีบวิ่งมาคุยกับเธอที่หน้าห้องหลังจากที่พวกเขาทั้งสองถูกพ่อกับแม่อบรมเรื่องที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุจบลงไปแล้ว
พี่แพง ทำไมพี่แพงไม่คุยกับพี่เอิ้นดีๆล่ะ อุตสาห์เรียกมาให้คุยแล้วอ่ะ”
เรียกมาให้คุย” จ้องมองน้องชายอย่างงุนงง “อ๋อนี่อย่าบอกนะว่าที่เอิ้นมาเยี่ยมเป็นเพราะว่าเราไปเรียกเขามาน่ะ”
ก็ใช่ไง ก็เห็นโทรหาพี่เอิ้นขนาดนั้น แล้วพี่แพงเองก็กำลังจะไปหาพี่เอิ้นด้วยไม่ใช่เหรอ ก็คิดว่าน่าจะมีปัญหากัน เพื่อนก็เลยโทรหาไอ้แบงค์ ให้ไอ้แบงค์ไปดูพี่เอิ้นที่บ้านให้ว่าทำไมไม่รับโทรศัพท์”
แบงค์? แบงค์เพื่อนของเพื่อนที่อยู่หมู่บ้านเดียวกันกับเอิ้นนั้นน่ะเหรอ”
ใช่ เห็นไอ้แบงค์โทรมาบอกว่าตอนที่ไปหาพี่เอิ้นอยู่บ้านเพื่อจะถามเรื่องโทรศัพท์ก็เห็นพี่เอิ้นเดินออกมากับพี่หลินม.4 แล้วพอเห็นแค่นั้นด้วยความหมั่นไส้ไอ้แบงค์มันก็เลยรีบบอกว่าพี่แพงโดนรถชนให้มาเยี่ยมพี่แพงด่วนเลย”
คิ้วขมวดทันทีที่ได้ยินน้องชายบอกอย่างนั้น
อ๋อ นี่เป็นเพราะเราอย่างนั้นเหรอเอิ้นถึงมาเยี่ยมพี่ นี่ก็อุตสาห์หลงคิดว่าเขาจะห่วงอะไรพี่บ้าง แต่นี่ไม่เลย กลายเป็นว่าพวกเราไปเรียกเขามา เขาถึงมา ทีหลังไม่ต้องยุ่งเลยนะ ไม่ใช่กงการอะไรของเรา อย่าไปบังคับฝืนใจใครมาอีก พี่ไม่ชอบ และเอิ้นเขาก็คงไม่ชอบเหมือนกัน”
แต่พี่เอิ้น..”
หยุด!ไม่อยากฟังชื่อนี้อีกแล้ว แค่นี้ก็รู้สึกแย่กับชื่อนี้พอแล้ว พอซะทีเถอะ”
น้องชายชะงักหน้าเสียทันทีที่ได้ยินน้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้ของพี่สาวเลยได้แต่ปล่อยให้หล่อนหันหลังเดินเข้าห้องไปหลังจากนั้น ส่วนพี่สาวพออยู่คนเดียวในห้องได้แล้วก็ได้แต่นั่งน้ำตาซึม เพราะทั้งเจ็บตัวและทั้งเสียใจ แถมยังเสียความรู้สึกที่แอบไปหลงคิดว่าว่าคนที่ตัวเองรักจะมาเยี่ยมตัวเองเพราะหล่อนเป็นห่วงตัวเองจริงๆ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วหล่อนโดนบังคับมาต่างหาก
นี่เธอไม่ได้ห่วงใยฉันเลย ฉันไม่ได้มีความสำคัญกับเธอเลยอย่างนั้นเหรอ..” แอบพร่ำเพ้อในตอนน้ำตาซึม
หึ มิน่า พอตอนที่ถามว่าติดธุระกับใครแล้วเราเดาว่าหลินเหรอ เธอก็ไม่กล้าโกหกหรือปฏิเสธอะไรเลย ที่แท้เป็นเพราะว่าเธอเห็นว่ามีคนเห็นหลักฐานทั้งหมดอยู่แล้วนี่เอง..
นี่ถ้าเราไปหาเอง..ก็คงจะเห็นหลักฐานทั้งหมดทั้งมวลด้วยตัวเองสินะ ยิ่งคิดก็ยิ่งสมเพชตัวเอง ยิ่งรู้ว่าสุดท้ายแล้วชีวิตตัวเองก็ไม่พ้นในนิยายเลยก็ยิ่งเศร้า แล้วยิ่งมาคิดตามได้ว่าที่ตัวเอกยอมมีอะไรด้วยก็เพราะว่าหล่อนแค่หวงกลัวตัวเองไปเป็นของใครเท่านั้นแล้ว..ก็ยิ่งเสียใจหนักเข้าไปอีก นี่ยังไงๆฉันก็ไม่ใช่นางเอกทั้งในนิยายและชีวิตจริงอยู่ดีสินะ
ทั้งคิดทั้งเสียใจได้แต่นอนร้องไห้ฟูมฟายอยู่ในห้องคนเดียวหลังจากนั้นไป หวังให้ความเหนื่อยล้าทำให้ตัวเองนอนหลับได้บ้างเพราะว่าตอนนี้เธอเองก็ไม่อยากจะคิดถึงอะไรอีกแล้ว เวลาผ่านไปหลังจากนั้นไม่นานน่าจะไม่เกินสามสิบนาทีเสียงเคาะประตูหน้าห้องพะแพงดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
พี่แพง พี่แพง เปิดประตูให้ผมเข้าไปหน่อยดิ..”เสียงเบาๆของน้องชายเธอดังขึ้นมาหลังจากนั้น
มาทำไมอีก” ร้องทักเขาออกไปก่อนจะเช็ดน้ำตาตัวเองออก
ผมมีเรื่องจะคุยด้วย แป๊บเดียวไม่นานหรอก..”
อย่าบอกนะว่าเรื่องเอิ้นอีก ยุ่งไม่เข้าเรื่องจริงๆเลย.. แอบคิดในใจอย่างงอนๆก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้เขาเข้ามาข้างใน แต่ก็กลายเป็นตกใจทันทีเมื่อเปิดออกไปแล้วเห็นภาพผู้หญิงอีกคนยืนอยู่ข้างๆเขาด้วย
เอิ้น! นี่มา..”
จุ๊ๆ เงียบๆดิพี่แพง อยากตายหมู่กันหรือไง เดี๋ยวพ่อได้ยินก็เรื่องใหญ่อีก เงียบเลย!” น้องชายทั้งพูดตัดบททั้งยื่นมือไปปิดปากพี่สาวกันไม่ให้หล่อนร้องโวยวายอะไรได้อีก ก่อนจะพากันย้ายร่างเดินเข้าไปในห้องพะแพงแล้วปิดประตูลง
นี่แอบพาคนอื่นเข้ามาในบ้านอย่างนั้นเหรอ!”
คนอื่นที่ไหนเล่า นี่พี่เอิ้น แฟนตัวเองแท้ๆ” ชะงักทันทีที่ได้ยินน้องชายตัวเองบอกอย่างนั้น
พะเพื่อนรู้เรื่องของเราหมดแล้วล่ะพะแพง เค้าเล่าให้น้องฟังหมดแล้ว น้องถึงยอมพาเค้ามาหาพะแพงอย่างนี้ไง”คนที่เข้ามาใหม่พยายามอธิบายด้วยใบหน้าแหยๆของหล่อน
ขี้โกงนี่!” ขมึงตาใส่เอิ้นก่อนจะหันมาดุน้องชายต่อ “นี่เข้าข้างคนอื่นมากกว่าพี่ตัวเองอย่างนั้นเหรอ”
ก็ไม่ได้เข้าข้าง แค่อยากให้คุยกันดีๆก่อน”
แต่!!”ชี้มือไปที่เอิ้นก่อนจะโดนน้องชายตัดบทอีกครั้ง
มันเป็นเรื่องของพี่สองคนป่ะ ผมไม่เกี่ยวแล้วนะ เอาเป็นว่าคุยกันดีๆก่อนเถอะ อย่าทะเลาะกันเลย เพราะถ้าพี่เสียงดังกัน พ่อก็จะรู้ แล้วเรื่องของพี่แพงกับพี่เอิ้นก็จะแตกแน่ๆ ผมน่ะไม่บอกใครหรอกนะ แต่ถ้าพ่อมารู้เองมันก็ช่วยไม่ได้อ่ะ ไปล่ะ เบาๆด้วย” บอกลาพี่สาวทั้งสองไปเพื่อหวังให้ทำความเข้าใจกันตามลำพัง ซึ่งนั่นก็ทำให้พะแพงถึงกับเลิ่กลั่กทันทีที่หันไปเห็นอีกคนพยายามเดินเข้ามาประชิดตัว
หยุดอยู่ตรงนั้นเลยไม่ต้องเข้ามา” สั่งให้หล่อนหยุดเมื่อเห็นว่าหล่อนเริ่มไล่ต้อนตัวเองให้มาจนมุมอยู่ที่เตียงอีกแล้ว นี่จะใช้แผนง้อด้วยเรื่องอย่างว่าอีกแล้วใช่มั้ย ไม่มีวันซะล่ะ ฉันรู้ทันเธอแล้วเพราะฉันอ่านนิยายตอนนี้มาก่อน
หึ!เธอในนิยายง้อรัณห์ด้วยเซ็กส์ หลอกล่อแอริณก็ด้วยเซ็กส์และเรื่องจริงของฉันก็คงไม่พ้นเซ็กส์เหมือนเดิมอีกแล้วใช่มั้ย..ทั้งคิดทั้งคิ้วขมวดจ้องมองอีกคนที่มองตัวเองอย่างงงๆเมื่อไม่รู้ว่าพะแพงกำลังมโนอะไรอยู่ ก่อนจะเขยิบเข้ามาใกล้หล่อนอีก
นี่ บอกให้หยุดอยู่ตรงง้ายยย” ชี้นิ้วสั่งเอิ้นอีกครั้ง จนอีกคนชะงัก “จะเข้ามาใกล้อะไรนักหนา”
อ้าว ก็จะนั่งคุยด้วย ก็คุยใกล้ๆจะได้เงียบๆไง”
ไม่ต้องใกล้อ่ะ อยู่ตรงนั้นแหละ”
คนเดินต้อนหยุดชะงักก่อนจะนั่งขัดสมาธิลงกับพื้นดื้อๆ “อ๊ะก็ได้ นั่งตรงนี้ก็ได้ถ้างั้น”
มองหล่อนนั่งลงกับพื้นอย่างตกใจนิดๆก่อนจะยืนกอดอกเก๊กท่าทำเป็นไม่สนใจหล่อนเมื่อเห็นอีกคนยกมือขึ้นไหว้ประหลกๆ
ขอโทษนะ เค้าขอโทษจริงๆ” ตาละห้อยมองพะแพงที่เชิดหน้าหนีเหมือนรู้ว่าตัวเองกำลังถือไพ่เหนือกว่าเลยไม่ได้สนใจเลยว่าวันนี้เธอพยายามเสียงอ่อนเสียงหวานกับหล่อนขนาดไหนเลย
พะเพื่อนบอกว่าเป็นเพราะว่าพะแพงเห็นว่าเค้าไม่ยอมรับโทรศัพท์ พะแพงก็เลยออกจากบ้านดึกๆดื่นๆไปจนเจออุบัติเหตุเข้า..”
คนกอดอกหันมาแสยะยิ้มให้หล่อนทันที “เลยรู้สึกผิดใช่มะ..ที่ทิ้งให้คนอื่นเค้าเป็นห่วงตัวเองทั้งๆที่ตัวเองกำลังมีความสุขกับใครอยู่ ขอโทษแล้วกันนะที่พวกน้องเค้าไปขัดจังหวะความสุขของพวกเอิ้นเข้าน่ะ ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วล่ะ เค้าเข้าใจทุกอย่างแล้ว กลับไปหาคนของเอิ้นเถอะไป”
นี่ไล่เค้าอีกแล้วนี่”
ก็ไม่ได้ไล่ แต่คิดว่าคงมีใครรอที่จะนอนด้วยอยู่ เห็นมาอยู่ด้วยกันดึกๆดื่นๆขนาดนั้น” แอบกัดเอิ้นไปเมื่อนึกถึงบทในนิยายที่รัณห์มาขอค้างที่บ้านของแพรี่แล้วก็เลยโมโหจนมาลงหล่อนคนต่อหน้าซะเลย ซึ่งนั้นก็ทำให้คนโดนพูดประชดถึงกลับอึ้งทันทีที่ได้ยินพะแพงแขวะอย่างนั้น
ไม่เถียงซะด้วย แสดงว่าคืนนี้หลินจะค้างที่บ้านจริงๆใช่มะ” ถามเอิ้นย้ำทันทีที่เห็นหล่อนพยายามหลบตาตัวเองไม่ยอมตอบ แถมพอยิ่งถามย้ำหล่อนก็ตีเนียนเงียบเข้าไปใหญ่ จนพะแพงเริ่มคุมอารมณ์ไม่ได้กลายเป็นหลุดโมโหหันไปหยิบตุ๊กตาหมีที่เรียงอยู่ที่หัวเตียงเขวี้ยงใส่ตัวเอิ้นรัวๆด้วยความฉุนเฉียวจนเอิ้นต้องรีบลุกขึ้นมาจับแขนพะแพงห้ามไว้ก่อน
ทำอะไรเนี่ย!” คนโดนขว้างใส่พยายามกระซิบกระซาบเมื่อนึกถึงสิ่งที่น้องชายหล่อนกำชับว่าให้คุยกันเงียบๆ
ก็ถามแล้วไม่ตอบอ่ะ ก็แสดงว่าคืนนี้เอิ้นจะนอนด้วยกันกับหลินจริงๆใช่มะ!”
แล้วได้นอนที่ไหนล่ะ ก็คืนนี้เค้าก็อยู่กับพะแพงแล้วเนี่ย”
ฮึ๊ยยยย!..พูดอย่างนี้แสดงว่าจะนอนด้วยกันจริงๆด้วยนี่ งั้นไปเลยไป!กลับไปด้วยกันเลยไป!
คนฟังคิ้วขมวดทันที “เฮ้ย!นี่ไล่เค้าอีกแล้วอ่ะ”
เออใช่!ไล่ไปเลยไป!”
กัดปากกัดฟันมองคนไล่ตัวเองด้วยสายตาค้อนเคือง
ด้ายยย งั้นไปก็ได้ ใครจะหน้าด้านทนให้คนอื่นไล่ตัวเองอยู่ได้วะ!” หันหลังให้พะแพงทันทีที่พูดเสร็จ จนอีกคนเลิ่กลั่กด้วยความตกใจที่อยู่ๆคนง้อเปลี่ยนท่าทีเป็นโกรธเธอซะเองจนต้องรีบร้องเรียกไว้ก่อน
จะไปไหนน่ะ!”
หันมากัดปากกัดฟันมองค้อนใส่พะแพง“ไปไหนก็ได้ที่มีคนต้องการเค้า!”
คนที่ต้องการเค้า อ้อออ..” คนถามแสยะยิ้มทันที “หมายถึงหลินล่ะสินะ!”
เอออ..ก็แล้วแต่จะคิดเลย!”
โฮ๊ะ..งั้นก็ลองออกไปดู! ลองก้าวออกจากห้องเค้าไปดู! ถ้ากล้าออกไปจากห้องเค้าตอนนี้ เราสองคนตัดขาดกันทันที!”
คนฟังดวงตาเปล่งประกายขึ้นทันทีที่ได้ยินคำสั่งย้อนแย้งของหล่อน ได้แต่ยืนแอบก้มหน้ากลั้นอาการขำเล็กๆของตัวเองไว้เมื่อจับได้ว่าหล่อนกำลังหึงตัวเองจนพูดกลับไปกลับมาอยู่ เอ..สรุปแล้วจะไล่หรือไม่ไล่นี่ ทั้งคิดทั้งทำทีเป็นเชิดหน้าคิ้วขมวดแล้วแกล้งขยับตัวจะเดินหนีออกจากห้องอีกครั้งหนึ่ง
บอกว่าไม่ให้ไปไง!” นั่นไงหล่อนรีบเดินมาดึงมือไว้แล้ว
หันมาคิ้วขมวดเก๊กเสียงซีเรียสกับหล่อน “บอกตอนไหนว่าไม่ให้ไปเมื่อกี้ยังไล่เค้ายังกับหมูกับหมาอยู่เลย”
ก็ตอนนั้นโมโห แต่ตอนนี้บอกไม่ให้ไปก็คือไม่ไปดิ” คนดึงแขนคิ้วขมวดมองท่าทางขัดขืนฝืนแรงตัวเองของเอิ้นอย่างน้อยใจ “นี่ตกลง เอิ้นจะกล้าทิ้งเค้าไปจริงๆเหรอนี่”เสียงพะแพงอ่อนลงแล้ว
ก็พะแพงไม่ต้องการเค้าแล้วนี่ ไล่เค้าตลอดเลยตั้งแต่ตอนอยู่โรงพยาบาลแล้ว มาอยู่นี่ก็ไล่อีกคิดว่าเค้าไม่มีหัวใจหรือไงอยากจะไล่ก็ไล่อย่างนั้นเหรอ หรือเค้ามันไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับพะแพงเลยใช่มั้ย!”ส่งเสียงดราม่าไปบ้าง
ทำไมจะไม่สำคัญ! เค้าสิไม่มีความสำคัญอะไรกับเอิ้นเลยมากกว่า”
บ้าหรือเปล่า ทำไมจะไม่สำคัญ ถ้าไม่สำคัญเค้าคงไม่บ้าบุกปีนบ้านนายพลเพื่อมาหาลูกสาวเขาอย่างนี้หรอกนะ มีใครที่ไหนกล้าทำอย่างเค้าบ้าง อันตรายก็อันตรายเสี่ยงก็เสี่ยง ทั้งๆที่ตัวเองก็เป็นผู้หญิงแท้ๆแต่ก็ยังกล้าทำอะไรบ้าๆอย่างนี้ หรือพะแพงกล้าทำอย่างเค้า!” คนโดนถามชะงักทันทีที่ได้ยินหล่อนถามกลับบ้างอย่างนั้น “ไม่กล้าใช่มั้ย นั่นไงก็เพราะว่าเค้าไม่ได้มีความสำคัญกับพะแพงเลยไงพะแพงเลยไม่กล้า” กลับมาถือไพ่เหนือกว่าอีกแล้ว
ก็ทำไมจะไม่กล้า! ก็พาคนอื่นเข้ามามีอะไรกับตัวเองในบ้านที่มีพ่อแม่อยู่อย่างนี้คิดว่าไม่ต้องใช้ความกล้าหรือไง” หน้าแดงระเรื่อตอนที่พยายามอธิบายหล่อนกลับเช่นกัน นั่นเลยทำให้คนฟังถึงกลับอมยิ้มเล็กๆด้วยความดีใจก่อนจะยื่นมือไปจับแก้มแดงๆของหล่อนไว้ให้เงยหน้าขึ้นมองตาตัวเอง
งั้นก็แสดงว่าเค้าก็สำคัญกับพะแพงใช่มั้ย..” คนถามขยับกายเข้าไปสวมกอดหล่อนไว้อย่างแนบแน่นหลังจากนั้นด้วย “งั้นเราเลิกทะเลาะกันเถอะนะ เค้าขอโทษจากใจเค้าจริงๆ เค้าผิดเค้ายอมรับ และเค้าขอโทษที่ทำให้พะแพงต้องเจ็บตัวอย่างนี้ พะแพงให้อภัยเค้าเถอะนะ อย่าไล่เค้าเลย เค้าไม่อยากไปไหนจากพะแพงเลยจริงๆ เค้าอยากอยู่ใกล้ๆพะแพงอย่างนี้ตลอด อยากกอดพะแพงอย่างนี้ตลอด..” ทั้งกอดทั้งพยายามยื่นแก้มตัวเองไปคลอเคลียแก้มหล่อนเหมือนพยายามจะใช้สัมผัสอ่อนโยนเหล่านั้นแทนคำขอโทษพะแพงในเรื่องทั้งหมดที่ผ่านมาด้วย คลอเคลียแก้มนุ่มนิ่มของคนสวยอยู่ครู่นึ่งก็กลายเป็นสะดุ้งตกใจเมื่ออยู่ๆหล่อนยื่นมือหยิกพุงตัวเองเข้าให้...
โอ๊ย! อะไรเนี่ย!”
หมั่นไส้! ขอสักทีเถอะยังหมั่นไส้ไม่หาย”
หมั่นไส้อะไรอี๊กกก” ทั้งร้องโอดโอยทั้งถามแต่สองมือยังโอบกอดหล่อนเอาไว้แน่นเช่นเคย
หมั่นไส้คนเจ้าชู้หลายใจ”
หลายใจตรงไหน ไม่ได้หลายใจเลย มีแค่ใจเดียว” อมยิ้มมองหน้างอนๆของหล่อน
ไม่เชื่อ..”
ไม่เชื่อเหรอ..” ยังคงยิ้มหวานอยู่เช่นเคย มือที่สวมกอดหล่อนก็ยังคงกอดไว้อยู่ เพียงแต่มืออีกข้างกลับยื่นไปจับมือของหล่อนให้ล้วงเข้าไปในชายเสื้อของตัวเองหลังจากนั้นด้วย “..งั้นก็ลองจับดูดิ ว่ามีใจเดียวจริงๆมั้ย” แน่นอนว่าเธอเอามือของพะแพงไปวางแปะไว้บนเนินดวงใจของตัวเองก่อนจะพยายามบังคับมือหล่อนให้จับๆคลำๆขยำสำรวจดูอีกครั้งว่าตรงนั้นมีดวงใจอยู่กี่ดวงกันแน่..
คนโดนเอามือไปจับวางเหล่ตามองแรง“มามุกนี้อีกแล้ว ไม่เบื่อเหรอ ไอ้มุกเอา...นมมาล่อเนี่ย” กะดากปากกระดากใจที่จะพูดเหลือเกินแต่ก็ยังพยายามตอบโต้หล่อนไปเมื่อเริ่มจับไต๋ได้แล้ว
ไม่เบื่อดิ ถ้าเบื่อจะมาหามั้ย มาเถอะนะตอนนี้ดึกแล้ว เวลามีน้อยแล้วอย่าให้เวลาของเราหมดไปโดยเปล่าประโยชน์เลย เดี๋ยวพรุ่งนี้เค้าก็ต้องออกจากบ้านพะแพงแต่เช้าตรู่ พ่อพะแพงจะได้ไม่เห็นเค้า..”พยายามอ้อนอีกคนที่ยืนเก๊กแข็งทื่ออยู่ในอ้อมกอดตัวเองอยู่
อะไรกันทำไมเฉย ไม่คิดถึงเมียหรือไงคะ ผัวขา...”
คนโดนกอดหลุดยิ้มออกมาทันทีที่ได้ยินลูกอ้อนลูกใหญ่ๆลูกนี้
บ้า..” หน้าอมลมทั้งยิ้มทั้งแอบกลั้นขำด้วยทั้งเขินทั้งอาย “คิดยังไงเนี่ย ทำไมกล้าพูด..”
ก็คิดถึงผัวไง ทำไมจะพูดไม่ได้ ก็จำได้ว่าเคยมีคนสั่งให้เรียกอย่างนี้ก็คงต้องเรียกอย่างนี้เวลาคิดถึงเขาล่ะมั้ง..” ยัง...ยังพยายามยั่วยิ้มพะแพงอีก นั่นเลยทำให้คุณผัวขาของเธอถึงกลับกลั้นรอยยิ้มเก๊กๆของตัวเองไว้ไม่ไหวกลายเป็นโน้มหน้าเข้าไปหอมแก้มหล่อนฟอดใหญ่ๆเมื่อคิดได้ว่าทำไมเอิ้นช่างอ้อนช่างออเซาะได้น่ารักอย่างนี้น้า~~
หายโกรธแล้วใช่มั้ย” คนโดนหอมยิ้มหวานค่อยๆถามพะแพงเมื่อหล่อนละริมฝีปากออกมามองตาเธอแล้ว
ยังหรอก แต่ก็เหนื่อยที่จะทะเลาะแล้วล่ะ อยากพักแล้ว..เจ็บแผล..” ตาละห้อยจ้องมองแผลที่แขนข้างซ้ายของตัวเองทันที
ไหน..” คนต่อหน้ายื่นมือไปจับแขนพะแพงมาดูก่อนจะเป่าเพี้ยงให้ “หายไวๆนะ เพี้ยง!” อมยิ้มให้หล่อนที่หน้าแดงมองตัวเองก่อนจะก้มลงมองแผลต่อ “เจ็บมากมั้ยคะ”
ก็ไม่เท่าไหร่แล้วล่ะ แต่ยังปวดอยู่”
ดีนะที่เป็นแผลไม่เยอะเท่าไหร่และที่สำคัญดีที่เป็นแผลอยู่ข้างซ้ายด้วย...” อมยิ้มหวานแบบแปลกๆเมื่อตอนที่เงยหน้าขึ้นสบสายตาพะแพงที่ก็รู้ความหมายของประโยคหลังนั้นดีว่าหมายความถึงอะไรกันแน่
บ้า..” เจ้าของแผลหน้าอมลมด้วยความอายเช่นเคย ตาก็จ้องมองเจ้าของดวงตาสวยที่กำลังเชิญชวนให้มีสัมพันธ์ทางกายร่วมกันด้วยรอยยิ้มหวานแสนหวานของหล่อนไป
มือที่จับหน้าอกหล่อนก็ยังคงจับอยู่ไม่ได้มีทีท่าว่าจะวาง แถมเมื่อคิดตามหล่อนได้ว่าเวลาแห่งความสุขกำลังจะหมดไปแล้วพะแพงก็ไม่รอช้าที่จะโน้มตัวเข้าไปมอบจุมพิตแห่งความคิดถึง รวมทั้งช่วยกันปลดเปลื้องเสื้อผ้าให้ทั้งสองอยู่ในสถานะกายเชื่อมกายและใจเชื่อมใจกันหลังจากนั้นทันที
และคืนนี้ก็คงจะเป็นอีกคืนหนึ่งที่พะแพงและเอิ้นต่างสลับกันมอบสัมผัสรักรวมทั้งมอบไออุ่นให้กันและกันเพียงแต่ว่าวันนี้จะเป็นวันที่พะแพงพยายามจะแสดงบทบาทกับเจ้าหล่อนมากกว่าทุกครั้งเท่านั้นเอง..
///////////////////////
อ๊า พะแพง อ๊าา~~”เสียงครางแสนหวานของร่างที่นอนติดพื้นเตียงดังขึ้นอย่างต่อเนื่องตามจังหวะโยกส่วนล่างของร่างที่แทรกตัวอยู่กึ่งกลางหว่างขาเธอ
รู้สึกดีมั้ย..” เจ้าของจังหวะรักอย่างพะแพงขยับส่วนล่างถี่ขึ้นอีกในขณะที่ถาม แถมยังยกตัวขึ้นโชว์เรือนร่างด้านบนที่เนินเนื้อหน้าอกหน้าใจของตัวเองกำลังกระเพื่อมสั่นไหวไปตามจังหวะโยกด้านล่างนั้นอีก เล่นเอาคนที่นอนรอรับจังหวะนั้นได้แต่ตาค้างเพราะติดใจภาพเนินเนื้อต่อหน้าที่ล่อตาล่อใจหล่อนเหลือเกิน
รู้สึกดีมั้ยทำไมไม่ตอบ อ๊าา~” คนถามกลายเป็นครางเองเสียแล้วเมื่อเอาเข้าจริงๆก็รู้สึกเสียววูบวาบๆไม่ใช่เบากับการขอเป็นคนบังคับจังหวะในท่วงท่าชายหญิงที่คนรักเธอโปรดปรานหนักเหลือเกิน จนเธออยากจะลองสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งดูบ้าง
ซึ่งมันก็ดูโอเคมากเพราะนอกจากคนด้านล่างจะชื่นชอบเพราะเจริญตาเจริญใจกับภาพเนินเนื้อสวยที่กำลังกระเพื่อมไปมาอยู่นี่แล้ว ตัวพะแพงเองก็ยังรู้สึกดีเพิ่มมากขึ้นอีกที่ได้มองเห็นใบหน้าสวยๆของเอิ้นในระยะใกล้อย่างนี้ด้วย
นี่ถามทำไมไม่ตอบ..” ยื่นมือไปจับหน้าเหม่อๆตาเคลิ้มๆของเอิ้นที่กำลังจ้องมองส่วนนั้นของตัวเองอยู่ก่อนที่หล่อนจะได้สติ ละสายตามามองพะแพงที่หน้าแดงระเรื่อเมื่อความรู้สึกวูบวาบๆของส่วนนั้นกำลังทำให้ร่างกายเผาผลาญด้วยความร้อนไปทุกๆส่วนไม่เว้นแม้กระทั่งใบหน้าสวยของตัวเองในยามนี้
เอ่อโทษที เค้ากำลังมอง..เอ่อมองนมพะแพงอยู่” หน้าแดงระเรื่อทั้งคนบอกทั้งคนฟัง แต่อย่าคิดว่าจะมีใครอายเพราะมันเลยจุดนั้นมาไกลมากแล้ว พะแพงเลยได้แต่ทำใจฮึกเหิมเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางกายทั้งสองให้รู้สึกดีดีกว่าจะมาเคอะเขินอะไรกัน ในตอนนี้พะแพงแค่คิดว่าถ้าทำอะไรแล้วมันทำให้อีกคนมีความสุขเพิ่มขึ้นในเซ็กส์ครั้งนี้เธอก็จะทำ..
ชอบเหรอ..”ก้มลงมองหน้าอกตัวเองก่อนจะยกมือขึ้นมาจับมันบีบคั้นโชว์อีกคนดื้อๆ จนคนมองหน้าแดงฉ่าได้แต่พยักหน้าไม่มีสติตอบรับพะแพงไป “ช..ชอบ”
งั้น..มาสิ มาดูดเร็ว..”เสียงเชิญชวนแสนหวานดังมาพร้อมจังหวะขยับสะโพกร่อนส่วนล่างของเธอต่อ เล่นเอาคนที่กำลังจ้องตาค้างแอบตะลึงในการกล้าเชิญชวนของหล่อน แต่กะนั้นก็ยังไม่วายรีบตอบตกลงโดยการโน้มตัวขึ้นไปสวมกอดร่างของพะแพงไว้ ส่วนใบหน้าของตัวเองก็กดลงแนบกับเนินเนื้อหน้าอกเพื่อสูดดมความหอมของผิวเนื้อหล่อนให้หนำใจก่อน แล้วค่อยละเลงปลายลิ้นของตัวเองไปทั่วๆเนินเนื้อนั้นเพื่อเป็นการเปิดรับรสชาดหอมหวานให้ละลายเข้าสู่ปลายลิ้นตัวเอง ก่อนที่จะตั้งใจดูดดื่มปุ่มเนินเนื้อทั้งสองด้วยความหิวกระหายต่อ
เมื่อคนโยกส่วนล่างยังคงโยกและร่างกายคนเบื้องล่างก็ขยับขึ้นมานั่งกอดเคล้าเคลียและละเลงลิ้นไปที่เนินนมสาวทั้งสอง แถมส่วนล่างของหล่อนก็ยังคงโยกรับส่งจังหวะของพะแพงตอบโต้อีกภายในห้องตอนนี้จึงเต็มไปด้วยเสียงร้องครวญครางและเสียงเหมือนของเหลวบางอย่างกำลังโดนกระแทกกระทั้นดังคลอออกมาด้วยตลอด...
เอิ้น อ๊ะ อ๊าาา เค้ากำลังจะถึงแล้วนะ..อ๊าา~..” คนบังคับเกมส์เริ่มส่งสัญญาณบอกว่าตัวเองกำลังจะไม่ไหวแล้ว
เค้าก็ใกล้แล้วเหมือนกัน แต่ขออีกนิดนะ..นะ อ๊าา..” พยายามดึงเกมส์ไว้แต่เมื่อพะแพงพยายามเร่งจังหวะโยกส่วนล่างขึ้นอีกก็เล่นเอาเอิ้นครางเสียงหลงไปต่อไม่เป็นเลยทีเดียว เธอได้แต่ทำใบหน้าเหยเกมองร่างสวยที่กำลังเดินเกมส์รัวจังหวะรักซ้ำๆให้จนในที่สุดเธอก็ถึงจุดหมายปลายทางไปพร้อมๆกับหล่อนจนได้
พะแพง อ๊าา เค้าถึงแล้ว~..”
เค้าก็ถึงแล้ว..”เสียงเหนื่อยหอบของคนคุมบังเหียนเงียบลงไปพร้อมๆกับการหมอบซบลงกับหน้าอกคนรักของตัวเอง
เหนื่อยมั้ย..” เจ้าของหน้าอกที่พะแพงกอดซบถามด้วยความเป็นห่วงมือของหล่อนก็โน้มขึ้นมาลูบเผ้าลูบผมเธอเบาๆให้
เหนื่อยสิ เหนื่อยมากๆด้วย คอยดูนะพรุ่งนี้ต้องปวดขาแน่ๆ” เจ้าของคำถามถึงกลับหลุดหัวเราะทันทีที่ได้ยินเสียงบ่นของพะแพงอย่างนั้น
ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องทำๆเค้าจะทำเอง แล้วฝืนเพื่อ?”
ก็เค้าอยากลองดู อยากรู้ว่าเอิ้นทำไมชอบนักหนากะอีท่านี่”
แล้วรู้ยัง?..”
รู้แล้วสิ”คนตอบอมยิ้มก่อนจะซบหน้าลงกับหน้าอกของเอิ้นต่อ “มันดีมากเลย มิน่าเอิ้นถึงได้ชอบนัก เวลามองผู้หญิงมีความสุขแล้วมันดีอย่างนี้นี่เอง..” เสียงเบาๆอายๆของเธอค่อยๆเฉลยออกมา
ยังไง?”
เงยหน้าขึ้นไปจ้องคนที่ทำเป็นโง่แกล้งทำเป็นไร้เดียงสาอย่างหมั่นไส้ “แกล้งโง่อีกแล้ว ไม่รู้เหรอว่าตัวเองน่ะสวยมากๆเลย ตาเอิ้นเวลาปกติน่ะก็หวานอยู่แล้วนะ ยิ่งเวลามีความสุขตาของเอิ้นจะยิ่งหวานยิ่งสวยไปกันใหญ่เลย แล้วก็ปากแดงๆของเอิ้นเวลาครางก็เซ็กซี่มากๆด้วยแหละ..” ไหนๆก็บอกแล้วพะแพงเลยชี้แจงให้เจ้าหล่อนเข้าใจให้หมดที่อย่างเลย
เหรอ..” หล่อนอมยิ้มนิดๆ “น่าจูบมั้ย..”
น่าจูบสิ”
งั้น..” ไม่ต้องรอให้เชิญชวนเลย เพราะพะแพงก็รีบโน้มใบหน้าเข้าไปมอบจูบให้เอิ้นทันทีที่เห็นหล่อนกำลังเพยอปากแดงๆที่เธอมองว่ามันช่างเซ็กซี่อีกครั้งหนึ่ง
จะเอาอีกเหรอ..” เสียงของเอิ้นดังขึ้นมาเมื่อพะแพงละจูบออกมาแล้วตั้งท่ามองหน้าเธอแปลกๆ
ยังหรอก เหนื่อยอยู่ แต่..เค้าขอถามอะไรได้มั้ย”
อะไร..”
หลิน...ไปหาเอิ้นทำไมเหรอ”
คนโดนถามชะงักทันที “ไม่ตอบได้มั้ย..ถ้าตอบแล้วต้องทะเลาะกันอีกน่ะ” ทั้งพูดทั้งโน้มตัวเข้าไปสวมกอดพะแพงไว้ “อย่าถามเลยนะคะคนดีในเมื่อตอนนี้เรากำลังมีความสุขด้วยกันอยู่ ขอให้พะแพงรู้ไว้อย่างเดียวว่าในชีวิตของเค้าพะแพงสำคัญที่สุด เค้า..โอ๊ะ..” คนพูดหยุดเว้นวรรคร้องโอดครวญอยู่พักหนึ่งก่อนจะละตัวออกจากพะแพงไปนั่งจุมปุกกับเตียง “สงสัยยาหมดฤทธิ์แล้ว..”
ยา?ยาอะไร” ถามเอิ้นด้วยความสงสัยเมื่อเห็นหล่อนลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปค้นกระเป๋าหากล่องยาขึ้นมาเปิดกินหลังจากนั้น
ยาแก้ปวดหัวน่ะ เค้าต้องกินประจำ”
หมายถึงแผลที่หัวที่กระถางตกใส่น่ะเหรอ”ชี้ใส่โบว์เล็กๆที่แผลของเอิ้น
อืม ประมาณนั้นล่ะ”
อย่าบอกนะว่าตอนก่อนที่จะมีอะไรกันที่เห็นกินก็คือยานี่เหมือนกันน่ะ”
อืมใช่ค่ะ” เหล่ตามองคนช่างสงสัยนิดนึงก่อนจะเก๊กเสียงดุ “ถามอะไรอีกมั้ยนี่สงสัยจังกะอีแค่กินยา”
ก็สงสัยสิ ก็ถ้ารู้ว่าไม่สบายต้องกินยาอย่างนี้ก็จะได้ไม่ชวนทำไง”
ก็เพราะอย่างนี้แหละเค้าถึงไม่ยอมบอกว่าจะต้องกินยา เพราะถ้าบอกพะแพงก็ไม่ยอมทำแล้วเค้าก็อดที่จะมีอะไรกับพะแพงแบบนี้อีกไง” คนตอบตอบเสียงอ้อน ก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปหอมไปกอดออเซาะพะแพงต่อ เล่นเอาพะแพงที่คิ้วขมวดมองอีกคนด้วยความงอนที่หล่อนไม่ยอมบอกความจริงถึงกลับเผลอยิ้มออกมาเมื่อเห็นหล่อนส่งสัญญาณเชิญชวนขอมีอะไรกับตัวเองอีกครั้งจนได้
และครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ทั้งสองคนพยายามถ่ายทอดบทรักให้กันอย่างเต็มความสามารถ ด้วยหวังว่ามันจะทำให้กันและกันอิ่มเอมไปด้วยความสุขจนถึงตอนเช้าวันพรุ่งนี้เลยทีเดียว
//////////////////
เค้าสวยหรือยังคะ”เสียงหวานๆของเอิ้นดังขึ้นเมื่อเกือบจะเช้าตรู่ของวัน เมื่อเธอต้องการถามความเห็นของเจ้าของห้องที่กำลังหวีผมสีน้ำตาลอ่อนนุ่มสลวยให้ตัวเองอยู่
ทำไมต้องถามว่าสวยมั้ยด้วย จะให้ใครดู ตอนนี้มืดก็มืดยังไม่มีใครตื่นมาดูสักคน”
เอ้า ก็น้องเมียไง เดี๋ยวนี่น้องเมียก็จะมารับพาไปส่งหลังบ้านที่พาเค้าปีนกำแพงเข้ามาเมื่อคืนนี้อีกแล้วไง ขืนลงไปโทรมๆเดี๋ยวก็โดนแซวว่าไม่ได้นอนอีก ก็ต้องสวยๆวิ๊งๆสักหน่อย”
จะอ่อยน้องเค้าอีกว่างั้น”
โอ้ย!” ยื่นมือไปตบแขนพะแพงทันที “อ่อยกะผีอะไร อ่อยไม่ได้แล้วล่ะน้องเขารู้แล้วว่าเค้าเป็นเมียพี่สาวเขาน่ะ”
บ้า!” หน้าอมลมด้วยความอายขึ้นมาทันที “เออ..ว่าจะถามอยู่นึกยังไงไปบอกเพื่อนอย่างนั้น ไม่อายหรือไง”
ก็อาย แต่ก็ไม่อยากให้พะแพงเข้าใจผิดเค้าทั้งๆที่ยังไม่ได้อธิบายอะไรเลยอย่างนั้น และที่สำคัญเค้าก็ไม่ได้อยากให้น้องชายพะแพงมองเค้าไม่ดีด้วย เค้ากล้วพะเพื่อนจะคิดว่าเค้ามาหลอกอะไรพะแพงหรือเปล่าหรือก่อปัญหาอะไรให้พะแพงไม่สบายใจอีกหรือเปล่า เค้าเลยสารภาพไปว่าเค้ากับพะแพงจริงๆแล้วกำลังคบกันอยู่และพะแพงก็กำลังหึงเค้าและเข้าใจผิดเค้า เค้าก็เลยขอให้น้องช่วยเรื่องพะแพง ช่วยให้เค้าได้เคลียร์กับพะแพงที..”
หน้าแดงระเรื่อเมื่อได้ยินเอิ้นบอกกับน้องว่าตัวเองกำลังคบกันอยู่ นี่ฉันกับเธอกำลังคบกันอยู่เหรอนี่ แอบดีใจเบาๆในสถานะที่เปลี่ยนไปของตัวเองเมื่อเอิ้นเป็นคนยอมรับก่อนอย่างนั้น
แล้วเพื่อนไม่ว่าอะไรเหรอตอนที่เอิ้นบอกไปอย่างนั้นเหรอ”
เอ..ก็ไม่นะ” คนตอบพยายามนึกอยู่ครู่นึง “แต่ก็เห็นกระโดดหยองเหยงอะไรก็ไม่รู้อยู่พักหนึ่งก่อนจะวิ่งกับมาจับมือเค้า แล้วบอกว่าขอบคุณพี่เอิ้นมากๆซ้ำๆประมาณนี้..แค่นี้ล่ะ”
ขอบคุณอย่างนั้นเหรอ?” หน้าแหยๆด้วยความงงทันทีที่ได้ยิน เพื่อนจะขอบคุณเอิ้นทำไมนี่ หรือดีใจที่ขายพี่ออกอย่างนั้นรึ นั่นคือความคิดของพะแพงก่อนจะกลายเป็นละความสนใจไปที่ประตูเมื่อได้ยินเสียงเคาะเรียกเบาๆหน้าห้องแล้ว
สงสัยเพื่อนมารับแล้ว ป่ะ เอิ้น..”
ยังไม่ทันที่พะแพงจะเรียกอะไรคนต่อหน้าก็โผตัวกอดและมอบจูบดูดดื่มให้พะแพงอีกครั้งเพื่อเป็นการส่งท้ายก่อน และครั้งนี้ก็ทำให้พะแพงถึงกับเคลิบเคลิ้มทันทีที่ละใบหน้าออกมาแล้วเห็นดวงตาสวยกำลังจ้องมองเธอรออยู่
อย่าลืมคิดถึงและฝันถึงเค้าด้วยนะ ถ้าจะนอนต่อน่ะ ไปล่ะ ไว้เจอกันที่โรงเรียนนะ” หล่อนบอกลาเธอไปก่อนจะเดินไปเปิดประตูเพื่อเดินไปกับน้องชายของตัวเองหลังจากนั้น และแค่ไม่นานหลังจากนั้นเสียงเคาะประตูเบาๆที่หน้าห้องก็ดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง และเมื่อพะแพงเปิดประตูให้ก็กลายเป็นพะเพื่อนที่หน้าแดงๆตื่นๆวิ่งเข้ามาในห้องที่เขารีบปิดไว้ทันที
พี่แพง!ทำไมพี่แพงทำอย่างนี้”
อะไร!ทำอะไร!” เอ็ดน้องชายทันทีที่เห็นท่าทางร้อนรนของเขา
ทำไมพี่แพงไม่ทะนุถนอมพี่เอิ้นให้ผมเลยอ่ะ อุตสาห์ยอมให้คบกับพี่แพงดีๆแล้ว ทำไม! ทำไม!”
อะไร” ก็รอลุ้นกับเจ้าน้องชายว่าจะพูดอะไรจนต้องถามออกไปว่าอะไรกันแน่
เขากลืนน้ำลายเลิ่กๆลั่กๆอยู่ครู่หนึ่งเหมือนกระดากใจที่จะพูดเต็มแก่ ก่อนจะยกมือขึ้นมาชี้ที่คอตัวเองแล้วทำหน้าโมโหฉุนเฉียว
ทำไมพี่แพงปล่อยให้พี่เอิ้นเป็นรอยประเจิดประเจ้อแบบนั้น! โอ๊ย! พี่เอิ้นที่แสนจะบอบบางน่าทนุถนอมของผม แค่มานอนกับพี่แพงแค่คืนเดียวก็บอบช้ำไปทั้งตัวแล้ว ทำไมพี่แพงใจร้ายกับพี่เอิ้นอย่างเน้!...”
กลั้นขำเอาไว้แทบไม่อยู่ แต่ก็ยังแกล้งเก๊กขรึมทำเป็นไม่สะทกสะท้านไม่รู้ไม่ชี้ในรอยรักที่เธอแอบฝากหล่อนไว้ด้วยความหมั่นไส้ในตอนที่มีอะไรกันในรอบหลังๆนั่นล่ะ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าหล่อนจะรู้ตัวมั้ยนะว่าตัวเองเป็นรอยแดงชัดเจนขนาดนั้นจนน้องชายตัวเองยังเห็นจนต้องมาต่อว่าเธอด้วยความไม่พอใจอย่างนี้
ใจร้ายอะไร บ้าป่ะ รอยอะไรไม่เห็นรู้เรื่อง ไปได้แล้วจะนอน”
ชิ รอยอะไรไม่รู้เรื่องอย่างนั้นเหรอ พี่แพงเอาไว้หลอกเด็กเหอะ ไม่ดิเด็กสมัยนี้ก็รู้เรื่องพวกนี้หมดแล้วแหละ แล้วก็ไม่ต้องมาเก๊กมาฟอร์มอะไรเลยนะ ทีพี่เอิ้นยังยอมรับตรงๆเลย ตัวเองก็ควรจะให้เกียรติพี่เอิ้นด้วยการยอมรับตรงๆเหมือนกันเข้าใจมั้ย พี่ควรจะดีใจนะที่ได้คบกับพี่เอิ้นของผมน่ะ”
พี่เอิ้นของผมงั้นเหรอ?แต่ชั้นเป็นพี่แกนะ ทำไมแกพูดเหมือนแกเห็นคนอื่นดีกว่าชั้นเนี่ย ชั้นนี่ก็เสียหายนะ”
แน่ใจหรือว่าเสียหาย” มองพี่สาวตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะยิ้มน้อยเหมือนรู้อะไรบางอย่าง
ทำไมยิ้มแบบนี้ ไปเลยไป รีบไปนอนเลย เดี๋ยวพ่อตื่นขึ้นมาเห็นจะสงสัยอีก แล้วก็ห้ามบอกเรื่องนี้กับใครเลยนะ”
รู้แล้วน่า ผมทำสัญญาใจกับพี่เอิ้นไว้แล้ว ยังไงๆผมก็ไม่ทำผิดต่อพี่เอิ้นของผมแน่นอน”
อยากจะแหวะแล้วแหวะอีกเมื่อได้ยินน้องชายบอกอย่างนั้นแต่เมื่อเห็นท่าทางแข็งขันดูจริงจังกับสัญญาแล้วก็ทำให้พะแพงนั้นแอบภูมิใจว่าน้องชายตัวเองก็มีความเป็นสุภาพบุรุษมิใช่น้อย นี่คงจะได้พ่อมาเต็มๆสินะในเรื่องรักษาสัญญาและให้เกียรติผู้หญิงนี่ ได้แต่อมยิ้มบอกลาให้เขาไปพักผ่อนไปด้วยความอารมณ์ดีเช่นเดียวกันกับตัวเองที่ก็อาศัยเวลาที่เหลือน้อยนิดหลังจากนั้นนอนหลับพักผ่อนเอาแรงเหมือนกัน..