Confusion
Chapter
4
ใกล้เข้าไปอีก..
ทิรานั่งมองแม่ในห้องพักฟื้น
เธอยื่นมือไปลูบๆคลำๆตัวของมารดา
ทั้งพยายามเรียกชื่อแม่เธอด้วยเสียงเบาๆหวังให้แม่เธอได้สติบ้าง
แต่ก็ไม่ได้ผล
แม่ของหญิงสาวยังคงนอนหลับตาอยู่ที่เตียงโดยมีผ้าพันแผลผันส่วนหัวเอาไว้เหมือนเดิม
ตอนนี้แม่ของเธอได้รับการผ่าตัดแล้วแต่ยังอยู่ในขั้นของการเฝ้าระวังภาวะติดเชื้อต่างๆอยู่
หญิงสาวต้องดูแลแม่อย่างใกล้ชิด
เธอแทบจะไม่อยากไปไหนจากแม่ไกลเลย
ถ้าไม่มีคำสั่งจากนายจ้างของเธอโทรเข้ามาเมื่อช่วงสายของวันเสียก่อน..
“ทิรา..เธอทำอะไรอยู่”
“ทิอยู่โรงพยาบาลกำลังดูอาการของแม่อยู่ค่ะ”
“เหรอ
เอ..ฉันจำได้ว่าฉันจ้างพยาบาลพิเศษดูแลแม่เธอให้แล้วนะ
เขาไม่ได้ทำหน้าที่หรอกหรือ”
“เอ่อ..ทำอยู่ค่ะ..”
ทิราเบาเสียงลง
หันไปมองพยาบาลพิเศษกำลังเปลี่ยนสายน้ำเกลือให้แม่เธอก่อนจะหันกลับมาคุยในสายต่อ..
“..เขาก็ทำหน้าที่ของเขาอยู่ค่ะ
แต่ทิแค่เป็นห่วงแม่ทิ
ทิแค่อยากอยู่ใกล้ๆแม่..”
เสียงหงอยๆของเด็กสาวทำให้มิสวายเข้าใจได้ทันที
เธอจึงปลอบใจเด็กสาวให้เลิกเป็นห่วงแม่เพราะเธอกำชับนายแพทย์ที่เป็น
ผอ.โรงพยาบาลให้ดูแลแม่เธออย่างดีที่สุดแล้ว
หากเธอคิดถึง
ตอนเย็นเสร็จจากงานแล้วค่อยกลับเข้ามาเยี่ยมแม่อีกครั้งก็ได้..
“ขอบคุณค่ะ..”
เด็กสาวขอบคุณสตรีชุดดำผ่านทางสาย
นึกซึ้งใจที่เห็นว่านายจ้างสาวของเธอช่างมีน้ำใจกับเธอเหลือเกิน
ตอนนี้พอไม่มีแม่แล้ว
หญิงสาวก็อดที่จะคิดไม่ได้ว่ามิสวายเป็นญาติผู้ใหญ่ที่เธอมีอยู่คนเดียวแม้จะพึ่งรู้จักกันไม่ทันไรก็ตาม..
“ทิขอบคุณมิสวายมากๆเลยนคะ
ทิรู้สึกว่าคุณเป็นหนี้บุญคุณคุณมากเหลือเกิน
ทั้งๆที่คุณก็ให้เงินทิจ้างทิทำงานแล้วแต่ก็ยังมาช่วยดูแลค่าใช้จ่ายของแม่ทิให้อีก
นี่ถ้าคุณมีปัญหาอะไรให้ทิช่วย
คุณบอกทิได้นะคะ”
สตรีชุดดำหัวเราะหึๆผ่านสาย
นึกเอ็นดูความมีน้ำใจของเด็กสาวที่เธอยื่นมือเข้าช่วยหล่อนทุกอย่าง
โถ..แม่สาวน้อย..อย่างเธอนี่นะ
จะช่วยอะไรฉันได้..มีแต่ฉันนี่สิที่ช่วยเธอตลอด..เธอทั้งคิดทั้งยิ้ม
แต่ก็นะ..ถ้าไม่มีทิราแผนการดึงคนรักของเธอก็คงไม่เป็นรูปเป็นร่างได้
และดูเหมือนแม่สาวน้อยคนนี้จะมีโอกาสได้เงิน10ล้านของเธอไปเสียด้วยสิ
หล่อนไม่ได้มาเล่นๆเสียแล้ว
ภาพเมษาซมซานกลับมาหาเธออีกครั้งเมื่อคืนนี้ยิ่งตอกย้ำให้เธอมั่นใจว่า..ต้องเป็นทิราเท่านั้นที่จะช่วยแก้ปัญหาชีวิตรักของเธอได้..
“ไม่เป็นไรหรอกทิรา
แค่เธอตั้งใจทำงานให้ฉันสำเร็จก็พอแล้ว
ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว
ชีวิตฉันมีปัญหาแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวนี่ล่ะ
เอาล่ะได้เวลาออกล่าเหยื่อตอนเช้าแล้วนะ
เธอเตรียมตัวไว้หรือยัง...ทิรา”
//////////////////////
เมษายืนดูต่างหูเพชรที่เคาน์เตอร์แบรนด์ในห้างสรรพสินค้าราวๆบ่ายโมงของวัน
เธอนึกถึงภาพต่างหูเพชรระย้าที่เด็กสาวคนที่เจอกันในบาร์ใส่ก่อนจะพยายามเลือกแบบที่คล้ายๆกันมาลองหลายๆคู่
ลองใส่ลองถอดอยู่นาน
สุดท้ายก็มาหยุดที่ต่างหูระย้าสองคู่ที่เธอคิดว่ามันเหมือนของเด็กสาวคนนั้นที่สุดและเธอก็ชอบมันทั้งสอง
ทำนองรักพี่เสียดายน้องอย่างที่เธอชอบทำกับผู้หญิงที่เธอคบผ่านๆมานั่นล่ะ..
หญิงสาวในชุดสูทแดงจ่ายค่าต่างหูด้วยบัตรเคดิต
เธอหยิบถุงกระดาษที่ใส่ต่างหูทั้งสองเดินออกมาจากร้านมุ่งตรงหาร้านอื่นเพื่อที่จะใช้เงินด้วยอารมณ์เพลิดเพลินอีก..
แวะช๊อปเข้าออกร้านนั้นร้านนี้ไม่เท่าไร
สายตาของเมษาก็ไปสะดุดเข้ากับใครบางคนในชุดสีน้ำเงินเสียก่อน
เป็นสุภาพสตรีผมยาวสีน้ำตาลสูงสง่าคนหนึ่ง
เธอคนนั้นใส่ชุดกระโปรงสีขาวและสวมทับด้วยเสื้อนอกสีน้ำเงิน
มองดูสวยเด่น
จนเมษาต้องแอบชำเรืองมองทันทีที่ผู้หญิงคนนั้นเดินผ่านเข้ามาใกล้ๆ..
อ๊ะ!!
ผู้หญิงคนนั้นนี่..
เมษาเหลียวหลังตามหล่อน
เธอยืนอึ้งค้างทันทีที่เห็นว่าเป็นหญิงสาวคนที่เธอตามหาในบาร์เมื่อคืนนี้เอง..
เอาไงดี..ถ้าปล่อยให้เธอเดินผ่าน
ฉันคงไม่มีโอกาสได้เจอกับเธอแล้วใช่มั้ย..เมษายืนอึ้งคิดทบทวนอยู่นานจนรู้สึกตัวอีกทีภาพด้านหลังของผู้หญิงเสื้อสีน้ำเงินคนนั้นก็หายวับไปไหนแล้วไม่รู้..
เฮ้ย..เธอรีบก้าวเท้าออกเดินตามหาเด็กสาวคนนั้นทันทีที่คิดได้ว่าเธอกำลังจะพลาดโอกาสที่จะได้เจอเธอคนนั้นอีกครั้งแล้ว
แต่ไม่ว่าเมษาจะรีบเดินไปตามทางที่เด็กสาวคนนั้นเดินไปให้เร็วอย่างไร
เธอก็ตามหล่อนไปไม่ทันแล้ว
หล่อนหายไปแล้ว..
เมษายืนอึ้งหยุดอยู่หน้าร้านกาแฟ
นึกเสียดายที่ไม่น่าคิดนานเลยว่าจะตามหล่อนดีไหม
เธอกลัวเสียฟอร์มและกลัวว่าการเดินตามเข้าไปขอเบอร์เด็กสาวดื้อๆอย่างนั้นจะทำให้ภาพลักษณ์นักธุรกิจสาวไฮโซผู้ไม่เคยชายตามองใครก่อนง่ายๆถูกลบลายไปเพราะเด็กสาวหน้าตาใสๆคนเมื่อครู่นี้
..อันที่จริงเมษากลัวแค่ว่า..เด็กคนนั้นอาจจะไม่ได้ชอบผู้หญิงอย่างที่เธอได้ยินบาร์เทนเดอร์กรอกหูเมื่อคืนนี้ก็ได้
เธอกลัวเธอหน้าแตกเพราะดูไม่ออกว่าใครเป็นหรือไม่เป็นแบบเธอ
เมษาไม่เคยจีบผู้หญิงคนไหนก่อน
ไม่เคยเลยจริงๆ
เธอเลยดูไม่รู้เลยว่าคนไหนเป็นเลสเบี้ยนอย่างที่เธอเป็นบ้างจนกว่าผู้หญิงพวกนั้นจะเสนอตัวเข้ามาหาเธอเองแล้วบอกว่าพวกหล่อนชอบเธอและเป็นเลสเบี้ยนเหมือนๆกันกับเธอ....
จะมีก็แต่ผู้หญิงต้องห้ามคนนั้นคนเดียวเท่านั้นที่ถือว่าไม่เข้าพวก
เพราะหล่อนไม่ได้จีบเมษาก่อนและเมษาก็ไม่ได้จีบหล่อนก่อน
แต่ต่างฝ่ายต่างชอบกัน
รู้สึกตัวว่าชอบพร้อมๆกันและคบกันเรื่อยมาตั้งแต่สมัยม.ปลายจนกระทั่งมีจุดหักเหในความรักบางอย่างทำให้เมษาอยากจะเอาหล่อนออกจากชีวิตเธอไปให้ได้อย่างปัจจุบันนี้..
เมษาถอนหายใจใหญ่
นึกเสียดายที่คลาดกับเด็กสาว
เธอคอตก หันหลังขวับ
เตรียมจะก้าวเดินกลับไปยังร้านที่จะไปต่อแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อแขนของเธอดันสะบัดไปชนกับอะไรบางอย่างเข้าอย่างจังก่อน..
เป็นแก้วกาแฟในมือหญิงสาวชุดสีน้ำเงิน...ซึ่งก็คือทิรา
ที่ตอนนี้เธอกำลังเดินถือออกมาจากร้านกาแฟที่เมษาหยุดยืนอึ้งอยู่
และตอนนี้แก้วกาแฟของเธอก็โดนแขนเมษากระแทกไปเต็มๆ
จนมันหกกระเซ็นไปโดนสูทสีน้ำเงินอันโดดเด่นของเธอไปหมดแล้ว..
เฮ้ย!!???
ทิราหน้าเหวอ..เธอไม่ตั้งใจให้เมษาเดินชนแก้วกาแฟให้หกใส่ชุดแสนแพงที่มิสวายจัดเตรียมให้ใส่อย่างนี้
นี่มันนอกเหนือจากแผนที่วางไว้
เธอแค่ต้องการจะซื้อกาแฟไปนั่งดื่มด้านหน้าร้านที่เมษาช๊อปปิ้งให้เมษาเห็นเธอเท่านั้น
..โอ๊ยตายแล้ว..สูทแสนแพงของมิสวาย
ฉันจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าซักรีดให้คุณเธอล่ะนี่..
ทิราทั้งคิดทั้งรีบก้มลงเช็ดสูทตัวนั้นอย่างเร่งรีบกังวล
พอๆกับที่เมษาก็หน้าซีดตกใจที่ซุ่มซ่ามไปทำให้เสื้อหญิงสาวที่ตัวเองแอบสนใจเปรอะเปื้อนอย่างนั้นเข้าให้
“เอ่อ..ขอโทษนะคะ
คือเอ่อ..เดี๋ยวฉันจะเช็ดให้คุณนะคะ”
เมษาล้วงผ้าเช็ดหน้าจะเอาไปเช็ดสูทให้เด็กสาว
แต่อีกฝ่ายยื่นมือโบกปัดด้วยกลัวยิ่งเช็ดจะยิ่งเปื้อน
ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องการคือรีบเอากลับไปซักด้วยน้ำยาซักผ้าที่ดีที่สุดเท่านั้น
“เอ่อไม่เป็นไรคะๆ
เดี๋ยวฉันรีบเอาจัดการเองก็ได้ค่ะ”
เธอทั้งพูดทั้งรีบลุกขึ้นจะเดินกลับ
แต่หญิงสาวอีกคนนึกอะไรขึ้นได้เลยรีบดึงแขนไว้
“เอ่อ..ฉันขอโทษคุณจริงๆนะคะ
คุณ..เอ่อ..คุณพอจะมีอะไรให้ดิฉันติดต่อคุณได้มั้ยคะเผื่อ..เผื่อสูทตัวนี้ซักไม่ออก
ฉันจะได้รับผิดชอบให้..”
ทิราอึ้ง
เธอกำลังลังเลระหว่างสูทแสนแพงและงานของมิสวาย
นี่เธอจะกลับโดยที่ยังไม่ได้เริ่มแผนอะไรเลยอย่างนั้นเหรอ
ตอนนี้นึกอะไรไม่ออก
และแผนของเธอและมิสวายยังไม่ถึงขั้นจะให้เบอร์โทรเมษาด้วยซ้ำ
เธอแค่ออกมาอ่อยเหยื่อตอนเช้าอย่างที่มิสวายบอกเท่านั้นเอง..
“เอ่อ..คุณมีนามบัตรมั้ยล่ะคะ
เดี๋ยวไงฉันจะติดต่อไปอีกทีก็ได้ค่ะ
เอ่อ..คุณ..คนที่ไม่อยากคุยด้วยวันนั้นใช่มั้ยคะ
ฉันจำคุณได้..”
นั่น..เด็กสาวแอบปล่อยทีเด็ด..ก็มิสวายบอกว่ายังไงๆต้องทำให้เมษารู้ตัวให้ได้ว่าเธอก็แอบสนใจหล่อนอยู่นิดๆ
นี่ล่ะแผนจุดประกายห้วงความทรงจำ
ทำให้อีกฝ่ายหลงคิดว่า..เธอจำหล่อนได้เสมอนะไม่ว่าหล่อนจะอยู่ไหน..
เมษาหน้าแดงกร่ำ
ทั้งเขินทั้งอายที่เห็นว่าเด็กสาวตรงหน้าจำเธอได้ด้วย
แม้จะแอบแขวะเธอบ้างก็เถอะ
หญิงสาวในชุดสีแดงจึงรีบก้มลงเปิดหานามบัตรในกระเป๋ายื่นให้เด็กสาวที่รอโปรยยิ้มหวานให้เธอก่อนจะรีบเดินจากไปหลังจากนั้นทันที...
..เธอจำฉันได้ด้วย..
เมษายืนยิ้มค้างมองด้านหลังเด็กสาวคนที่เดินจากไปอย่างคนเพ้อไม่มีสติ..
////////////////////////////////////
“แล้วเธอก็กลับมาทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำอะไรอย่างนี้นี่นะ..ทิรา!!??”
มิสวายตบหน้าหมวกตัวเองดังแผละ
เธออยากจะเขวี้ยงหมวกดำทิ้งแล้วเอามือมากุมขมับจริงๆเลยถ้าไม่ติดว่าต้องอำพรางใบหน้าตัวเองไว้ว่าเป็นใครอย่างนี้
อยากจะบ้าตาย
นี่สูทตัวนี้มีความสำคัญกว่างานมูลค่า10ล้านของเธออย่างนั้นหรือนี่..
คิดอะไรอยู่นี่ทิรา...
มิสวายคิ้วขมวดจ้องมองเด็กสาวที่นั่งก้มหน้าก้มตาต่อหน้าในรถลีมูซีนคันเก่าอย่างหัวเสีย
และแม้กระทั่งตอนนี้หญิงสาวในชุดสูทสีน้ำเงินก็ยังพยายามเช็ดๆถูๆคราบสกปรกของมันด้วยความหวังที่ว่ากองทิชชูที่หล่อนหยิบจับขึ้นมาซับน้ำนั้นจะพอบรรเทาความสกปรกของสูทตัวนี้ไปได้บ้าง..
“ไม่ต้องไปเช็ดหรอก
สกปรกก็ช่างมัน ฉันให้เธอเลยแล้วกัน
ถือว่าฉันซื้อให้”หญิงสาวชุดดำโบกมือปัดไม่อยากให้เด็กสาวใส่ใจทำในสิ่งที่ตนเองเริ่มรำคาญตาแล้ว..
“จริงเหรอคะ..”
เด็กสาวตาโต
“ถ้าอย่างนั้นยิ่งต้องรีบเช็ดทำความสะอาดเลย
เสียดายอ่ะค่ะ ผ้าก็ดี
ทรงก็สวยทิไม่มีสูทอย่างนี้ใส่
ต้องรีบเอากลับไปซักแล้วถ้าอย่างนั้น
เผื่อทิได้ใส่ไปทำงาน..”
มิสวายหัวเราะหึ
“จะไปทำงาน ทำงานที่ไหนทิรา
งานของฉันก็ยังไม่สำเร็จเลย
วันนี้ก็กลับมามือเปล่าไม่มีความคืบหน้าอะไรกลับมาเลย”
“ไม่ได้มือเปล่านะคะ
มีติดมือกลับมาอยู่ค่ะ..”
ทิราเถียงนายจ้างสาวข้างๆคูๆ
ก่อนจะล้วงนามบัตรของเมษาขึ้นมาโชว์
“ทิได้นามบัตรของเขามาด้วย
คุณเมษาเขาถามทิว่าจะติดต่อทิอย่างไรได้บ้าง
เขาคงเป็นห่วงสูททิน่ะค่ะก็เลยออกตัวว่าจะจัดการให้
แต่ทิจำได้ว่าถ้าจะให้เบอร์เขาไปทิก็คงต้องรอเบอร์ใหม่จากมิสวายก่อนเพราะเขาจะรู้เบอร์จริงๆของทิ
ทิก็เลยขอนามบัตรเขาแทน”
“เป็นห่วงเรื่องสูทเธออย่างนั้นรึ??”
เสียงงงๆของมิสวายถามเด็กสาวกลับไปอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“..คนอย่างเมษานี่นะจะห่วงคนอื่น
อ๋อ..นี่เขาคงพยายามขอเบอร์โทรเธอมากกว่าละมั้งทิรา
คนหยิ่งอย่างเขาคงไม่แสดงความเป็นห่วงใครขนาดนั้นหรอก
อย่างมากก็แค่ขอโทษ..”
มิสวายหยิบนามบัตรของเมษาจากมือเด็กสาวขึ้นมาอ่านรายละเอียดก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้
แผนการล่าเหยื่อมิสวายกลับมาสว่างสไวเหมือนเดิมอีกครั้งหลังจากที่ถูกทิราดับฝันไปเมื่อครู่นี้
เธอยิ้มโชว์ปากแดงก่ำก่อนจะยื่นนามบัตรคืนให้ทิรา..
“แต่ก็ดีแล้วล่ะที่เธอได้นามบัตรเมษามา
เพราะมันจะยิ่งทำให้เขากระวนกระวายขึ้นอีกทันทีที่ได้รู้ว่าโอกาสที่จะติดต่อเธอได้นั้นมีแค่เธอยอมโทรไปหาเขาฝ่ายเดียวเท่านั้น
หึ..
ฉันมีแผนต่อไปแล้วล่ะทิรา”
“แผน??อะไร..ยังไงคะ”
“แผนรอเวลาทิรา
เราจะรอจนกว่าบางคนจะคลั่งจนทนไม่ได้แล้วเธอค่อยโทรไปหาเขา”
////////////////////////////////
รถแท๊กซี่จอดส่งทิราหน้าปากซอยบ้านราวๆหนึ่งทุ่ม
หญิงสาวเดินลัดเลาะกลับเข้าบ้านตามเส้นทางในซอยเก่า
เวลานี้ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว
และผู้คนที่มักจะนั่งคุยกันอยู่หน้าบ้านก็พากันเข้าไปพักผ่อนด้านในบ้านเกือบทุกหลังแล้ว
เด็กสาวเดินฮัมเพลงด้วยความอารมณ์ดี
นึกดีใจที่ได้เสื้อสูทสวย
ทำงานกับคนรวยมันดีอย่างนี้นี่เอง
ไม่อยากได้อะไรก็ยกให้คนอื่นดื้อๆ
ชีวิตหรูหราใช้จ่ายเงินได้อย่างไม่มีลิมิตนี่ดีจังเลยนะ
เธอเองก็อยากสัมผัสมันดูสักครั้ง
นี่ล่ะเหตุผลหนึ่งที่เธอยอมเซ็นสัญญากับมิสวายง่ายๆ
เงิน10ล้านมันมากพอที่เธอจะพาแม่ไปจากชีวิตที่ลำบากและเต็มไปด้วยอันตรายอย่างนี้เสียที...
ทิราทั้งคิดทั้งยิ้มไม่ทันได้สังเกตุสิ่งรอบกาย
กระทั่งเดินมาถึงหน้าบ้านแล้วเธอก้มลงไขกุญแจเข้าไป..
มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
ทิรารีบหันกลับมามองที่กระเป๋าสะพาย
แต่โชคร้ายที่หญิงสาวไม่มีโอกาสได้รู้ว่ามันเป็นสายโทรเข้าของมิสวายที่พยายามแจ้งให้เธอรู้ว่า..นักสืบของหล่อนรายงานว่าเห็นผู้ชายแปลกๆซุ่มดูอยู่ที่บ้านทิราตลอดช่วงเย็นและไม่แน่ใจว่าตอนนี้มันจะยังอยู่มั้ย...
ตุ๊บ!!!
หมัดปริศนากระทุ้งเข้าที่ท้องน้อยของทิราอย่างจังตอนที่เธอหันไป
หญิงสาวเข่าอ่อนทรุดลงกับพื้นทันที
เธอพยายามร้องขอความช่วยเหลือหลังจากนั้น
แต่ช้ากว่ามัน
ผู้ชายร่างใหญ่ในชุดเสื้อยืดกางเกงสแล็ครีบเอื้อมมือของมันไปปิดปากเธอไว้
มันลอคตัวพยายามดึงร่างอรชนอ้อนแอ้นที่กำลังใช้มือและเท้าตะเกียกตะกายหนีเข้าบ้านเธอไป
ก่อนจะรีบปิดบ้านล๊อคประตูไว้
แล้วลากหญิงสาวเข้าไปที่เตียงนอนในห้องของเธอ
ตอนนี้ร่างใหญ่กำยำนั่งค่อมเด็กสาวไว้ทั้งร่างแล้ว
มันชกเข้าที่ท้องน้อยของทิราอีกหมัด
ทิราจุก
เธอนอนแผ่หลาลงกับเตียงก่อนจะพยายามใช้แรงอันน้อยนิดของเธอขัดขืนไอ้โจรชั่วนั้นเข้า..
ไม่สิ..ไม่ใช่โจร
นี่มันอดีตนายก
อบจ.ที่เคยตามมาราวีเธอตอนนั้นนี่
ทิราจำหน้ามันได้ดี
ตอนนี้มันคงได้ข่าวว่าแม่เธอเข้าโรงพยาบาลและสะกดรอยตามเฝ้ารอโอกาสที่เธอจะกลับเข้าบ้าน
แล้วจู่โจมเธออย่างนี้
“ไอ้ชั่ว..”
พูดไม่จบ
มันเงื้อมมือสะบัดตบหน้าเธอก่อน
มันจัดการถอดเสื้อผ้าหญิงสาวออกจากเนื้อตัวจนหมดก่อนจะโถมร่างกายเปลือยเปล่าของมันกดทับลงไปที่ร่างทิราอีก
ทิราต่อสู้อีกครั้งและนั่นเลยทำให้มันโมโหจนต้องออกแรงหมัดชกเข้าที่ท้องน้อยทิราให้หนักกว่าเดิมหวังให้หญิงสาวสลบลงไป..
ได้ผล..ทิราเจ็บจุกกระทั่งหมดสติสมใจมัน
ตอนนี้ร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวนอนแน่นิ่งลงไปกับพื้นเตียงแล้ว
และมันก็พยายามแยกขาทิราออกจากกันเพื่อทำบางอย่าง
หากแต่ช้ากว่าร่างของผู้ชายชุดดำสองคนที่ถีบประตูวิ่งถือปืนเข้ามาจ่อที่หัวของมันบนเตียง...และร่างของผู้หญิงขุดดำที่เดินเข้ามาตบหน้ามันทันทีที่มันยกมือสองข้างขึ้นยอมแพ้แล้ว..
“แก..ทำอะไรคนของฉัน!!”
//////////////////////////////
“ทิรา..เป็นยังไงบ้าง..ทิรา..”
เสียงนุ่มก้องกังวาลดังเข้ามาเรียกสติทิราจากการหลับไหล
เด็กสาวสลึมสลือลืมตา
เมื่อเห็นเค้าลางๆของหมวกดำปีกกว้างและแว่นตาดำเธอก็รีบลุกโผกอดหล่อนทันที..
“มิสวาย..”
เสียงงอแงอย่างเด็กน้อยร้องเรียกชื่อหญิงสาวที่เธอคิดว่าเป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่
ทิราร้องไห้เสียงดังเพราะเข้าใจว่าก่อนหน้านั้นเธอโดนชายชั่วทำมิดีมิร้ายไปแล้ว
“มัน..มัน..”เธอทั้งพูดทั้งร้องต้องการจะบอกเรื่องราวก่อนหน้านั้นแต่ก็กลั้นสะอื้นไม่ได้..
“ไม่เป็นไรทิรา
เธอยังไม่เป็นอะไรนะ ไม่ต้องร้อง
มันยังไม่ทันทำอะไรเธอ
ฉันมาช่วยเธอได้ก่อน”
เสียงอ่อนโยนของมิสวายปลอบโยนเด็กสาว
สองมือของเธอก็พยายามลูบหัวทิราให้คลายความกลัวความกังวลใจลงก่อนจะพยายามประครองใบหน้าเด็กสาวออกมาจ่อมองใกล้ๆ..
“เธอปลอดภัยแล้วนะ
ฉันช่วยเธอไว้ได้ทันเวลาอยู่
มันโดนการ์ดของฉันจัดการสั่งสอนไปแล้ว
เธอเลิกร้องได้แล้วนะทิรา..”
“จริงเหรอคะ”
ทิรายิ้มออกนิดๆ
แต่ความเจ็บที่ริมฝีปากทำให้เธอพยายามเลื่อนมือขึ้นมาจับร่องรอยบอบช้ำที่ไอ้ชั่วนั้นมันตบเธอเข้าให้
เธอทำปากมุบมิบๆเพราะความแสบๆคันๆที่ปาก
ก่อนที่อาการเจ็บจุกที่ท้องจะเกิดขึ้นมาอีกครั้งจนเธอต้องก้มลงไปสำรวจดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง..
เฮ้ย!!??..ทิราสะดุ้งตกใจ
ตอนนี้เธอยังเปลือยอยู่นี่
มีเพียงผ้าห่มผืนเดียวที่ตอนนี้มันเลื่อนลงไปกองแถวๆขา
แล้วโผล่ส่วนที่เหนือจากนั้นขึ้นมาให้เห็นทั้งหมดเลย..
“คุณเห็น..เห็น..หมดแล้วใช่มั้ย”
ทิราระล่ำระลักตกใจ
รีบดึงผ้าขึ้นมาปิด
อยากจะคิดว่าเป็นผู้หญิงด้วยกันจะอายทำไมหากไม่รู้ซะก่อนว่าหญิงสาวที่นั่งมองร่างเธอต่อหน้านี้คือหญิงรักหญิง..
“อืม..ใช่..ขอโทษนะฉันไม่ได้ตั้งใจมองเธอหรอก
ฉันแค่พยายามดึงผ้ามาคลุมเธอให้เรียบร้อยเท่านั้น
ถ้าฉันไม่ทำให้ก็เหลือแต่บริการ์ดผู้ชายสองคนเท่านั้นล่ะที่จะทำให้เธอ”
ทิราหน้าแดงแจ๋มองมิสวายอย่างหวั่นๆ
ซึ่งสตรีในชุดดำคงรู้ว่าเด็กสาวอายที่หญิงรักหญิงอย่างเธอเห็นเรือนร่างทั้งหมดแล้ว
จึงบอกปัดให้หล่อนเลิกคิดมากไปว่า..
“นี่..ทิราฉันรักผู้หญิงก็จริง
แต่ฉันก็รักแค่คนเดียวซึ่งเธอก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นใคร
ผู้หญิงนอกเหนือจากนั้นฉันก็มองธรรมดาทั่วไปเหมือนเพื่อนเหมือนน้องสาวเท่านั้นล่ะ
ฉันไม่ได้พิศวาสอะไรเธอหรอกน่า
อย่าคิดว่าคนที่เป็นอย่างฉันนี่จะต้องเห็นผู้หญิงด้วยกันแล้วจะชอบไปซะหมดสิ..ฉันก็เลือกคนอยู่นะ..”
จึ๊ก..เป็นการเบรคความคิดที่แรงมาก..ทิราแทบจะหัวทิ่มทันทีที่คิดตามได้
คำว่า
“เลือกคน”
ของมิสวายทำให้ทิราเหล่ตามองแรงทันที
เชอะ..จะว่าฉันไม่ได้อยู่ในประเภทที่คุณเลือกใช่มั้ยล่ะ..ใช่สิ
ใครมันจะไปสวยเพอร์เฟรคเท่าคุณเมษาคนรักของคุณเล่า
เธอมองค้อนนึกงอนนายจ้างสาว
ก่อนจะควานหาชุดของตัวเองขึ้นมาใส่
ซึ่งนั่นก็ทำให้มิสวายรีบลุกขึ้นหันหลังทำทีเป็นเดินมองนั่นมองนี่ในห้องเพื่อกันไม่ให้เด็กสาวเก้อเขินว่าเธอนั่งมองหล่อนเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกแล้ว..
“..เธอตั้งใจเรียนกว่าที่คิดนะ
ฉันเห็นรูปรับทุนและใบประกาศติดเต็มบ้านเธอไปหมดเลย..”
มิสวายพูดขึ้นตอนที่เดินไปหยุดอยู่ที่กรอบรูปรับทุนหน้าโต๊ะทำงานของเด็กสาว
เธอหยิบมันขึ้นมาพินิจพิเคราะห์
ก่อนจะหันขึ้นไปมองกรอบรูปใบประกาศที่แขวนอยู่พนังรอบๆห้องนั้นอีก
“ถ้าเธอได้ทำงานที่ดี
มันก็คงจะดียิ่งกว่านี้อีก..ที่หลังอย่าคิดอะไรตื้นๆอย่างตอนนั้นอีกนะ
ถ้าไม่มีฉันมาช่วยไว้อีก
วันนั้นเธอจะเป็นยังไงบ้าง
เธอจะขายตัวให้ใครบ้าง
คิดบ้างมั้ย..ทิรา”
คำสั่งสอนประหนึ่งมารดาของมิสวายทำทิรานิ่งอึ้ง
เธอนั่งคอตกที่ปลายเตียงทันทีที่สวมเสื้อผ้าเสร็จ
สิ่งที่มิสวายสอน
เธอเองก็คิดได้ก่อนหน้านั้นแล้วเหมือนกัน..ตอนนี้เธออาจจะเป็นสาวไซด์ไลน์นั่งดื่มอยู่ข้างๆเสี่ยแก่ๆอยู่ก็ได้ถ้าไม่ได้มิสวายมาช่วยไว้..
เธอไม่เคยลืมบุญคุณของมิสวายเลย
และยังซาบซึ้งในน้ำใจของนายจ้างที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆตอนที่ช่วยเหลือเรื่องค่ารักษาแม่เธอหรือแม้กระทั่งตอนนี้ที่หล่อนช่วยชีวิตเธอจากโจรชั่วนี่อีก
นี่เธอเป็นหนี้บุญคุณผู้หญิงคนนี้เหลือเกิน..ถ้าไม่มีหล่อนแล้ว
ชีวิตเธอจะเป็นอย่างไรบ้างนะ..ผู้มีพระคุณของฉัน..
“เห็นทีที่นี่จะไม่ปลอดภัยสำหรับเธอแล้วล่ะทิรา..”
เสียงของสตรีในชุดดำดังเรียกสติทิรา
เด็กสาวขมวดคิ้วหันไปมอง
ตอนนี้มิสวายพยายามวางกรอบรูปรับทุนของเธอลงกับโต๊ะอย่างทะนุถนอมก่อนจะหันมาคุยด้วยน้ำเสียงสุขุมฟังดูเป็นห่วงเป็นใยเด็กสาวว่า..
“ฉันจะหาที่อยู่ใหม่ให้เธอ
คืนนี้เธอไปนอนที่คอนโดของฉันอีกที่ก่อน
เก็บเอาแต่ของจำเป็นไป
เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะให้คนพาเธอมาย้ายของอีกที...”
//////////////////////////////////
แสงสีทองจากโคมไฟระย้าหรูหราให้ความสว่างเรืองรองแก่ห้องนั่งเล่นโอ่โถงทันสมัย
ผนังของมันตกแต่งด้วยหินชั้นสีน้ำตาลไล่สีอ่อนเข้มสลับกัน
ตรงกลางห้องเป็นเคาน์เตอร์บาร์เครื่องดื่มขนาดใหญ่ที่มีขวดเครื่องดื่มและแก้วไวน์แขวนเรียงรายหลากสีเต็มไปหมด
ถัดเข้าไปเป็นชุดโซฟาหรูหราสีขาวบนพรมสีเทาสำหรับนั่งดูทีวีจอไวด์สกรีน..
นี่คือพื้นที่ของคอนโดชั้นที่หนึ่งที่มิสวายพยายามชี้ชวนให้ทิราดูโดยที่ยังไม่ทันเปิดระเบียงโชว์ส่วนของพื้นที่สระว่ายน้ำส่วนตัวด้านนอกนั่นเลย..
“เอาล่ะคืนนี้เธอนอนที่นี่แล้วกันนะ
คอนโดที่นี่ฉันซื้อเก็บไว้
ถือว่าสะอาดและใหม่มากเพราะฉันไม่เคยมาอยู่เสียที..”
มิสวายทั้งพูดทั้งพาทิราเดินเข้าไปแนะนำส่วนต่างๆต่อ
ทั้งพาเดินขึ้นบันไดไปชั้น2และชั้น3ของคอนโดแบบTriplex
Penthouseสุดหรูที่ตั้งอยู่ย่านธุรกิจใจกลางเมือง...
ทิรานั้นยืนอึ้งตั้งแต่มิสวายพาเปิดประตูเข้ามาในคอนโดแล้ว...ยิ่งพินิจพิจารณาถึงการตกแต่งหรูหราและส่วนประกอบไฮเอนด์ต่างๆก็ยิ่งอึ้งเข้าไปใหญ่..
...นี่มันคอนโดจริงๆหรือบ้านกันแน่..
..จริงๆ
แค่ชั้นเดียวเธอก็ไม่กล้าจะอยู่แล้ว
นี่ยังจะให้อยู่ในห้องชุดหรูหราที่มีพื้นที่ถึงสามชั้นอีก
เด็กสาวยิ่งกลัวหนักเข้าไปใหญ่
เธอถึงกับรีบดึงมือมิสวายไว้ตอนที่หล่อนทำท่าจะเดินหันหลังออกจากห้องนั่งเล่นหลังจากนั้น..
“มิสวายจะไปไหนคะ..”
“ฉันก็จะกลับบ้านฉันสิ..เผื่อ..คืนนี้เมษาเขามาหาฉันเหมือนเมื่อคืนอีก..”
“ห๊ะ..เมื่อคืนเขากลับมาหาคุณอีกหรือคะ”
“ใช่”
“กะ..กลับมาทำไม....กลับมานอนด้วยเฉยๆหรือคะ..”
มิสวายเหล่มองเด็กสาวผ่านแว่นดำ..นึกงงใจเจ้าหล่อน
ไม่รู้ว่าหล่อนต้องการปล่อยมุกฮาหรือถามด้วยความซื่อบื้อกันแน่..
“นี่ทิรา..เรื่องบางเรื่องก็ไม่น่าถามนะ
โตๆกันแล้วก็น่าจะรู้
เขาคงไม่บ้าถ่อสังขารขับรถกลางค่ำกลางคืนมานอนกอดฉันเฉยๆหรอกมั้ง..”
สตรีในชุดดำยื่นมือไปเคาะหัวเด็กสาวดังป๊อก
ทั้งเขินทั้งหมั่นไส้
นี่จะให้ฉันอธิบายอะไรอีกยัยเด็กบ๊อง
ทำยังกับตัวเองอินโนเซนส์ทั้งๆที่ก็ประกาศขายตัวอยู่โต้งๆขนาดนั้น
เธอแอบแขวะเด็กสาวในใจก่อนจะพยายามผละมือทิราออกจากมือตัวเอง
แต่เด็กสาวก็ไม่ยอมปล่อย
เอาแต่ทำหน้าหงอยๆเหมือนหล่อนกลัวมิสวายจะหนีจากหล่อนไปซะเต็มประดา..
“อะไร..กลัวเหรอ..”
เสียงอ่อนโยนของมิสวายถามเด็กสาวหลังจากนั้น
ซึ่งนั่นก็ทำให้ทิราผงกหัวงึกๆแทนคำตอบว่า..ใช่..เธอกลัวที่จะอยู่ที่นี่คนเดียวตอนนี้..
มิสวายอมยิ้ม
เธอยื่นมือไปลูบหัวเด็กสาวเบาๆ
“ไม่ต้องกลัวหรอก
ที่นี่ปลอดภัยไม่มีอะไรให้เธอต้องกลัวแล้ว
เดี๋ยวฉันจะให้บริการ์ดฉันมาดูแลเธออีก
โอเคมั้ย..”
สตรีในชุดดำยิ้มละมุน
ทั้งพูดทั้งลูบหัวทิรา
และสัมผัสอันนุ่มนวลนั้นก็ทำให้เด็กสาวรู้สึกดีจนเผลอจ้องหน้ามิสวายผ่านแว่นมืดๆอันนั้นไป
..โอ..ทิรา..รู้สึกดีเหลือเกิน..นอกจากแม่แล้ว..ก็ไม่เคยมีใครดีกับเธอขนาดนี้เลย....
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะแวะเข้ามาหาเธอแต่เช้านะ
กู๊ดไนท์..”
สัมผัสอันนุ่มนวลของริมฝีปากมาพร้อมๆกับคำว่า
กู๊ดไนท์ มิสวายบรรจงมอบจุมพิตกลางกระม่อมเด็กสาว
เธอเอ็นดูหล่อน อยากปลอบขวัญหล่อน
เพราะรู้ว่าหล่อนคงเสียขวัญอย่างหนักจากเหตุการณ์เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา..
มิสวายเอ็นดูทิรา
แต่ทิรากลับไม่ใช่
ตอนนี้ทิราใจสั่นระรัว
รู้สึกแปลกเหลือทน
ให้ตายเถอะ..ตอนนี้หัวใจของเด็กสาวเต้นแรงจนแทบจะเด้งหลุดออกมาจากหน้าอกเสียให้ได้
ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนจุมพิตเธออย่างนี้เลย
ไม่เลย..หญิงสาวยืนเหม่อทั้งคิดทั้งเคลิ้มค้างจนกระทั่งมิสวายเดินออกจากห้องไปแล้วเธอจึงรู้สึกตัว..
..เง้อ..ไปแล้วเหรอ...
..แล้วฉันจะอยู่ยังไงกับคอนโดยิ่งใหญ่อลังการอย่างนี้ล่ะนี่..ทิราเหงื่อตกทั้งร้อนทั้งหนาว
จ้องมองโคมไฟระย้าในห้องด้วยความวิเวกวังเวงก่อนจะรีบกระโดดโหยงขึ้นไปนอนขดบนโซฟาด้วยความกลัวของเธอต่อจากนั้น..
/////////////////////
เสียงประตูรังรักเปิดขึ้นพร้อมๆกับรอยยิ้มของหญิงสาวเจ้าของห้องคนเดิม
และเป็นกลางดึกเวลาเดิมที่หล่อนเข้ามาในห้องหลังจากดื่มเหล้ามาแล้ว
ร่างสาวเมามายเดินโอนเอนเข้ามาสวมกอดด้านหลังพร้อมๆกับสัมผัสจูบรุกเร้าที่พรมไปทั่วๆหลังตอนที่เธอยืนกอดอกรอหล่อนอยู่ระเบียง..
ปลายนิ้วยาวเรียวเล็กจิกไหล่เนียนนุ่ม
คนขี้เมาออกแรงกดนิ้วและแรงขบกัดต้นคอด้านหลังหล่อนก่อนจะพยายามหมุนร่างอรชนอ้อนแอ้นให้หันหลังมาหาเธอตอนนี้...
อา..นังผู้หญิงร่าน..จนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่หลับไม่นอน
ยังรอคอยการมาของฉันอย่างใจจดจ่อเหมือนเดิมนะ..อะไรจะคันขนาดนั้น..
เมษาทั้งคิดทั้งกระชากชุดนอนขาวเบาบางออกจากร่างระหงส์นั้นก่อนจะออกแรงกัดยอดถุมถันของหญิงสาวในเงามืดด้วยความแค้นของเธอไป..
ใช่..ความแค้น
แต่เป็นความแค้นที่มาพร้อมๆกับความโหยหา
และทุกๆครั้งที่เมษาโหยหาผู้หญิงคนนี้ขึ้นมา
อารมณ์โกรธเกลียดที่สุมในใจก็สั่งให้เธอบรรดาลโทสะใส่เพลงรักของเธอตลอด..
หญิงสาวอีกคนรู้..เธอรู้ว่าเมษาเกลียดเธอ
เธอรู้ทุกๆครั้งที่หล่อนออกแรงกัด
ออกแรงบิด
หรือแม้แต่การกระทุ้งรุนแรงเมื่อสอดใส่นิ้วมือลงไปในร่างกายเธอที่หล่อนกำลังทำตอนนี้..
อา..เป็นความรู้สึกดีที่มาพร้อมๆกับความเจ็บปวดทรมาน
เธอไม่ได้ต้องการเซ็กส์วิตถาร..แต่เธอต้องการหล่อน
อะไรก็ได้ที่หล่อนอยากทำกับร่างกายเธอ
เธอจะยอม..
ความรักในความแค้น
ความสัมพันธ์ซับซ้อนที่ผูกพันธ์เธอกับหล่อนมาตลอดชีวิต..
..เราสองคนจะไม่มีทางไปไหนจากกันไกล
ถึงเธอจะไม่รักฉันยังไง
เธอก็ต้องอยู่กับฉันไปตลอดชีวิตอย่างนี้..เข้าใจมั้ยเมษา..
หญิงสาวในความมืดยิ้มยกมุมปาก
เธอลูบไล้ผมนุ่มสลวยของเมษา
ก่อนจะหลับตาพริ้มพยามเก็บกดความเจ็บปวดทรมานที่อีกฝ่ายกำลังทำกับเธออย่างนั้นทั้งคืน...
///////////////////
กลิ่นหอมๆหวานๆอย่างดอกไม้นานาพรรณของน้ำหอมChanel
coco Mademoiselleลอยเข้ามาเตะจมูกทิรา
หญิงสาวทำจมูกย่น
พยายามดมหาที่มาของกลิ่นฟุดๆฟิดๆทั้งๆที่ยังไม่ลืมตาตื่น
หน้าเธอเลยลอยออกมาจากโซฟาแล้วไปสัมผัสเข้ากับอะไรบางอย่างนุ่มๆเข้า..
..อย่าบอกนะว่า..
ทิรารีบลืมตาขึ้นทันทีที่เริ่มคิดขึ้นได้ว่าอาจจะเป็นมิสวาย
และสิ่งที่ริมฝีปากกำลังสัมผัสอยู่นี่คือ..เนื้อแก้มนุ่มนิ่มของมิสวายนั่นเอง..
ฝันของทิราสลายเมื่อตื่น
ภาพมโนเนื้อแก้มกลายเป็นหน้าแข้งของมิสวายที่กำลังยืนกอดอกมองท่าทางประหลาดของเด็กสาวอย่างขำๆ...
“เป็นอะไรทิรา..เธอละเมออะไรมิทราบ”
สตรีในชุดดำยิ้มน้อยทั้งพูดทั้งขำ
ก่อนจะก้มลงเอามือแตะหัวเรียกสติทิราที่หน้าแดงก่ำเพราะเผลอมโนว่าตัวเองกำลังหอมแก้มมิสวายอย่างซีรีย์เกาหลีที่เธอดูทั่วไปเข้าให้...
..ขนาดหน้าแข้งยังนุ่มเลยอ่ะ..
หญิงสาวเผลอคิดในแว็บแรกที่มองแว่นตาดำภายใต้หมวกใบใหญ่
ก่อนจะพยายามยกตัวเองขึ้นจากโซฟาแล้วรีบเก็บผ้าห่มมาพับแก้อาการเก้อเขิน
มิสวายอมยิ้มมองท่าทางเหรอๆหราๆของเด็กสาวก่อนจะเดินหันหลังออกจากโซฟาสำรวจนั้นสำรวจนี้ไป
แต่ก็ยังไม่วายทิ้งคำถามที่เธอสงสัยตั้งแต่เปิดคอนโดแล้วเข้ามาเจอทิรานอนขดอยู่บนโซฟานี้
“ห้องนอนก็มี
ทำไมเธอถึงนอนที่นี่ทิรา
ไม่ปวดหลังแย่เหรอ
มานอนขดคุดคู้อยู่ตรงนี้ทำไมกัน..”
“เอ่อ..ทิ..กลัวน่ะค่ะ
ทิว่ามันกว้างไป ทิไม่กล้าอยู่คนเดียว
เห็นมิสวายบอกว่าจะให้การ์ดมาเฝ้าให้หน้าห้อง
ทิก็เลยนอนอยู่ข้างล่าง..เผื่อมีอะไรทิจะได้วิ่ง...ไปหาเขาได้”
“มีอะไรนี่คือ??..เธอคงไม่คิดว่าคนหรอกใช่มั้ย”
ทิราผงกหัวหงึกๆเมื่อเข้าใจสิ่งที่มิสวายเอ่ยเป็นนัยว่าสิ่งนั้นคือผี..
“บ้า..โตจนป่านนี้กลัวผีอีก
มีผีที่ไหนกัน
เพ้อเจ้อ”สตรีชุดดำคิ้วขมวดหันมาดุเด็กสาว
เธอจ้องมองทิราที่นั่งหน้าหงอยบนโซฟามองเธอก่อนจะสังเกตุเห็นอะไรบางอย่างจึงรีบเดินเข้ามาใกล้ๆ..
คนชุดดำนั่งยองๆต่อหน้าทิรา
ชะโงกหน้าเข้าไปจ่อใบหน้าเด็กสาวใกล้ๆ
ซึ่งมันใกล้ซะจนเด็กสาวหน้าแดงแจ๋ขึ้นทันทีที่อยู่ๆคนที่เธอแอบคิดว่าเธอหอมแก้มเมื่อเช้ากำลังโน้มหน้าเข้ามาอย่างที่เธอจินตนาการอีกแล้ว..
อึ้ยยย..เธอตัวแข็งทื่อหน้าตื่นทันทีที่เห็นอีกฝ่ายยื่นมือมาเชยคางไว้ด้วย...
“ทิรา..”มิสวายคิ้วขมวดย่น
เธออุทานออกมาทันทีที่เห็นบางอย่างในระยะใกล้ๆ..
“ทำไม..หน้าเธอ..”
//////////////////////////////////////
“โอเคเรียบร้อยแล้ว
ทายาแก้ช้ำให้แล้ว
เดี๋ยวรอยช้ำที่ปากก็จะค่อยๆหายแล้วล่ะ
ส่วนนี่ยาแก้ช้ำในเธอก็ดื่มบรรเทาอาการเจ็บจุกที่ท้องไปก่อนก็แล้วกันนะ
ถ้าไม่หายยังไงเดี๋ยวฉันจะพาเธอไปโรงพยาบาลอีกที”
มิสวายยื่นแก้วยาแก้ช้ำในวางที่โต๊ะต่อหน้าทิรา
ก่อนจะยื่นมือมาลูบๆคลำๆรอยช้ำที่ปากทิราที่หล่อนโดนโจรตบเมื่อวานให้
เด็กสาวยกมือไหว้ขอบคุณนายจ้างสาวด้วยความซึ้งใจ
ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองสตรีชุดดำที่ยังนั่งยองๆต่อหน้าเธอตั้งแต่ทำแผลให้เมื่อครู่นี้แล้วยังไม่ไปไหนเลย..
“ขอโทษด้วยนะที่ฉันไม่ได้ดูแผลให้เมื่อวาน
มัวแต่รีบ กลัวจะกลับบ้านไปไม่ทันเมษา
ฉันก็เลยไม่ทันสังเกตุอาการต่างๆของเธอให้น่ะ..”มิสวายยิ้มละมุน
เธอใช้มือข้างที่จับรอยช้ำที่ปากทิราเลื่อนขึ้นมาลูบหัวปลอบใจเด็กสาว
...รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก..ทิราก้มหน้าผงกหัวตอบรับความห่วงใยจากมิสวาย
ให้ตายเถอะตอนนี้เธอไม่กล้าเงยหน้าให้คนด้านหน้าเห็นเลยว่าเธอหน้าแดงขนาดไหน..
“ไม่เป็นไรคะ..”
เด็กสาวตอบกลับเสียงอายๆ
ก่อนจะพยายามชวนคุยแก้เขินต่อ..“เอ่อ..แล้วสรุปเมื่อคืนคุณเมษากลับไปหาคุณหรือเปล่าคะ..”
“กลับ..”
เสียงนุ่มตอบสั้นๆ
นั่นเลยทำให้ทิราชะงักหุบยิ้มทันที...
...ผู้หญิงคนนั้นกลับมาหานายจ้างของเธออีกแล้วเหรอ
ไหนว่ามีแฟนอยู่แล้วไง..จะแต่งกันแล้วไม่ใช่เหรอ..แล้วยังกล้าหนีแฟนตัวเองมาหามิสวายบ่อยๆอย่างนี้อีก..คนอย่างนี้นี่น่ะเหรอที่มิสวายรัก..
เธอขมวดคิ้วแอบโมโหแทนนายจ้างสาวในใจก่อนจะคิดขึ้นได้ว่า..แล้วไปโมโหเขาทำไม..เธอควรจะดีใจไม่ใช่เหรอทิรา..เงินนะเงิน
เงินสิบล้านรอเธออยู่..ถ้าเขากลับมาหากันได้แล้วน่ะ..
จริงสินะ..หญิงสาวแกล้งโปรยยิ้มแสดงท่าทางร่าเริงเมื่อคิดได้
ก่อนจะเสียงอ่อนเสียงหวานพูดกับนายจ้างของเธอต่อ..
“เหรอคะ..ทิดีใจด้วยนะคะ”
แน่นอน..เธอกัดฟันพูด
“..ดูคุณเมษาเขากลับมาหาคุณบ่อยจังนะคะช่วงนี้..”
“อืม..ก็คงจะเป็นเพราะเธอด้วยนั่นล่ะทิรา
และส่วนหนึ่งก็คงจะเป็นเพราะว่าแฟนเขาไปต่างประเทศช่วงนี้ด้วย”
ริมฝีปากแดงยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจเมื่อได้พูดถึงหญิงสาวที่ตนเองรัก
อารมณ์ประมาณได้เมาส์มอยเรื่องแฟนกับเพื่อน
เธอออกอาการขวยเขินเล็กๆเมื่อเห็นว่าทิราแสดงความยินดี..'จอมปลอม'
กับเธอด้วย
..ก็แหงล่ะ..เธอไม่รู้หรอกว่าเด็กสาวกำลังแอบหมั่นไส้ความรักของเธออยู่..
..เหม็นกลิ่นความรัก..
นั่นคือสิ่งที่ทิราคิด
ณ ขณะที่ใบหน้าเธอยิ้มแย้มแจ่มใสไร้เดียงสา...
“เอ..เวลาที่แฟนคุณเมษาไม่อยู่นี่
เขามาหาคุณตลอดเลยเหรอค่ะ”
“ก็..กับคนที่เขาคบปัจจุบันน่ะ..นี่พึ่งเป็นครั้งแรกที่เขากลับมาหาฉัน
แต่กับคนอื่นๆก่อนหน้านั้นเขาก็ไปๆมาๆกับฉันตลอดล่ะ..”
“คนอื่นๆ??
ไปๆมาๆตลอด??
หมายความว่าไงคะ
นอกจากแฟนคนปัจจุบันของเขาแล้วยังมีคนอื่นๆอีกหรือคะ
นี่ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้คบคุณหรอกหรือคะ..”
“เปล่า..”
มิสวายยิ้มหน้านิ่ง
“เขาไม่ได้คบกับฉัน
เราเลิกกันมาเกือบๆจะสิบปีแล้ว
แล้วเขาก็มีแฟนใหม่เป็นสิบแล้วด้วย
แต่เขาก็ยังกลับมาหาฉันตลอดทั้งๆที่คบกับคนอื่นนั่นล่ะ..”
หืมห์??!!!...ทิรางงหน้าเอ๋อ..
...คบกับคนอื่นมาเป็นสิบแล้ว
แต่ก็กลับมาตลอดทั้งๆที่คบกับคนอื่น...อะไรยังไงนี่..สับสนดีแท้..
เธอได้แค่คิด..เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่น่าถามหรอกสำหรับคำถามที่สื่อความหมายว่า..คุณไม่ได้มีสถานะเป็นคนรักหล่อนตั้งแต่แรกแล้วหรือ???
คุณเป็นแค่ชู้รักคุณเมษาอย่างนั้นหรอกหรือ???