วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2561


Confusion

Chapter 2

นางฟ้าหรือนางมาร


เมษาเดินเฉิดฉายสะบัดปลายผมหยักศกออกมาจากตึกออฟฟิศบอร์นทูสกาย บริษัทออแกไนซ์ขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของประเทศ หญิงสาวในชุดกระโปรงสูทสีแดงกร่ำหยิบกุญแจที่มีสัญลักษณ์วัวกระทิงขึ้นมากดสัญญาณเมื่อถึงที่จอดรถประธานบริษัท ประตูรถสปอร์ตคันแดงสดที่อยู่ต่อหน้าเธอค่อยๆยกเปิดขึ้นตามกลไกของมันทันที

เธอเดินก้าวขาเข้าไปนั่ง วางกระเป๋าสีแดงสดใส่ที่นั่งด้านข้างฉับ จากนั้นเมื่อประตูรถเคลื่อนลงมาปิดเธอก็เสียบกุญแจแล้วเหยียบคันเร่งขึ้นเพื่อฟังเสียงกระหึ่มของเครื่องยนต์ 6,500ซีซี...

อา..เป็นความสุขเล็กๆหลังจากเลิกงานมาเหนื่อยๆ เธอคิดเสมอว่าการได้นั่งรถคันงามท่องไปบนท้องถนน จะทำให้อารมณ์โมโหหงุดหงิดของเธอเบาบางลงได้

ใช่เธอเหนื่อยมาก และเธอจะหงุดหงิดมากหากยังนั่งอยู่ในห้องแคบๆอย่างนั้นเหมือนเดิมโดยไม่เดินออกไปไหนมาไหนเสียบ้าง..

นิ้วเรียวยาวเคาะพวงมาลัยเป็นจังหวะตามดนตรีเพลงสากลที่เธอเปิดขึ้นหลังจากนั้น เธอใช้มืออีกข้างค่อยๆลูบคลำสัญลักษณ์กระทิงที่อยู่ตรงกลางพวงมาลัยไปเมื่อเริ่มอารมณ์ดีขึ้นแล้ว..

ช่างเป็นรถที่เหมาะกับเธอยิ่งนัก เพราะดวงไฟหน้าสวยโฉบเฉี่ยวของมันช่างเหมือนกับตาเธอเหลือเกิน เมษายิ้มเแล้วชะโงกมองกระจกมองหลังเมื่อคิดถึงดวงตาไฟ ภาพเงาสะท้อนก็สะท้อนดวงตาสวยโฉบเฉี่ยวของเธอให้เห็นเช่นเดียวกัน..

ตาเธอร้าย ตาร้ายเหมือนรถลัมโบร์กีนีคันนี้ ฉันเห็นมัน ฉันเลยคิดถึงเธอ..”
แล้วไง ก็เลยซื้อมาให้ฉันอย่างนี้เนี่ยนะ..”
ใช่ไง..”

คำตอบสั้นๆง่ายๆของหญิงสาวบางคนทำให้เธอหัวเราะหึๆในใจทันที มีแต่คนบ้าเท่านั้นล่ะ ที่จะซื้อของฝากราคา40ล้านมาฝากกันง่ายๆแค่เพราะคำว่าคิดถึง

ใช่..ผู้หญิงบ้าๆบางคนที่เธอพยายามจะเอาเขาออกจากชีวิตเธอให้ได้..

ดวงตาเมษาแปรเปลี่ยนเป็นเศร้าทันทีที่นึกถึงเรื่องราวบางอย่าง เธอสะบัดหัวพยายามลบภาพเหล่านั้นออกก่อนจะพยายามออกรถไปที่ใดสักที่..

ที่ใดสักที่ ที่ทำให้เธอลืมเรื่องแย่ๆทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตเธอ..

ลัมโบร์กีนีคันแดงสดเคลื่อนออกจากที่จอดอย่างรวดเร็ว ประหนึ่งนกฟีนิกซ์ที่โบยบินได้อย่างอิสระ หารู้ไม่ว่าภายใต้การโบกปีกหลีกหนีที่เมษาคิดว่าไร้การควบคุมได้นั้นจะกลายเป็นตกอยู่ในสายตาของคนอื่นตลอดเวลาไปแล้ว..

ดวงตาโตสีน้ำตาลมองลัมโบร์กีนีคันแดงลอดผ่านม่านลีมูซีนสีขาวที่จอดดับเครื่องไว้ที่จอดรถลูกค้าของบริษัท รถหรูสวยเด่นแต่ไม่เป็นที่แตะตาอะไร เพราะในออฟฟิศนี้มักมีรถหรูหราประเภทลีมูซีน มัสแตง ปอร์เชร์มาจอดสลับสับเปลี่ยนเสมอๆตามลูกค้าสังคมชั้นสูงที่มักมาใช้บริการ รวมถึงผลัดเปลี่ยนกันมาหาประธานบริษัทเจ้าเสน่ห์คนเมื่อครู่นี้ด้วย...

คนนั้นหรือคะ คุณเมษาผู้หญิงในภาพที่คุณให้ทิดู”
ใช่..”
โห...สวยจังเลยค่ะ ดูสวย ดูเก๋ หุ่นดี เซ็กซี่ โฉบเฉี่ยวมากๆด้วย หน้าตาก็ยังดูเด็กๆอยู่เลยไม่น่าเชื่อว่าจะอายุ35แล้ว”
หญิงสาวในชุดดำที่นั่งที่นั่งข้างๆทิราหันไปจ้องทิราทันทีที่ได้ยินเธอพูดถึงอายุ..

จะว่าเขาแก่ใช่มั้ย ถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับว่าเธอว่าฉันด้วยนะทิรา..”
โอ๊ะ..ไม่ใช่ค่ะ เอ่อ..ขอโทษค่ะ ทิไม่ได้ตั้งใจว่า ทิลืมไปว่าเขาอายุเท่ากันกับคุณ เขาเป็นเพื่อนของคุณ คือๆ ทิไม่ได้จงใจพูดถึงเรื่องอายุนะคะ ทิแค่อยากอธิบายว่าคุณเมษาหน้าเด็กมากๆหน้าใสมากๆเท่านั้นเองค่ะ..”

มิสวายหัวเราะหึๆ นึกขำกับการแก้ตัวข้างๆคูๆของเด็กสาวที่อายุห่างจากเธอ1รอบปีนักษัตร เรื่องอายุเป็นสิ่งที่ไม่ควรพูดที่สุดสำหรับผู้หญิงที่ไม่สนิทและเป็นการเสียมารยาทอย่างมากหากได้ยินใครกระแนะกระแหนเรื่องนี้สำหรับเธอ แต่เอาเถอะ..เธอก็ไม่ได้คาดหวังว่าเด็กสาวกำพร้าพ่อคนนี้จะรู้จักมารยาทที่ดีในสังคมอะไรมากมายนักหรอก

..เธอแค่ชอบรูปร่างหน้าตาของทิรา และคิดว่าคนรักของเธอก็คงจะชอบเหมือนกัน..

..มีอะไรบางอย่างบอกเธอว่าเด็กสาวที่เธอถูกชะตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอในเว็บนั้นจะทำให้ความรักของเธอสมหวังเสียที..หลังจากที่มันผิดหวังและจมปลักแต่กับความเศร้ามาเกินครึ่งค่อนชีวิตของเธอแล้ว...

เอ่อ..คนก็สวยรถก็ยังสวยอีก รถสวยโฉบเฉี่ยวเหมือนกับเจ้าของรถเลยค่ะ..” เด็กสาวผมสีน้ำตาลยังไม่ลดความพยายามป้อยอผู้หญิงในรถแดงคนนั้นด้วยหวังว่าจะพอลดความเก้อเขินที่เผลอทักเรื่องอายุของมิสวายลงได้บ้าง ซึ่งนั่นก็ทำให้หญิงสาวในชุดดำหัวเราะหึๆเพราะรู้ทันสาวน้อยไปก่อนหน้านั้นแล้ว..

หึ..ใช่มั้ย เธอก็ว่ารถคันนี้สวยเหมือนเขาเลยใช่มั้ย..ลัมโบร์กีนี อะเวนตาโดร์ ฉันซื้อให้เขาเอง..”
ทิราหุบยิ้ม เธอมีคำถามเกิดขึ้นให้หัวทันที“ซื้อให้..เท่าไหร่คะ คงจะแพงมากเลยใช่มั้ยคะ ทิพอจะรู้คร่าวๆว่ารถแบบนี้แพงมาก..”
อืม..ก็ไม่เท่าไหร่หรอก ก็มากกว่าเช็คใบสุดท้ายที่เธอจะได้รับตอนงานสำเร็จแล้ว4เท่าแค่นั้นเอง”

4เท่าของเช็ค..เช็ค10ล้านนั่นใช่มั้ย งั้นก็.. 40ล้านน่ะสิ.. ทิราตาโตทันทีที่เทียบบัญญัตไตรยางค์เสร็จ ตอนนี้หญิงสาวได้แต่นั่งอึ้งจ้องมองแว่นตาดำของคนตรงหน้าค้างไว้ด้วยความตกตะลึงพรึงเพริด ใช่สิ.. เกิดมาเธอยังไม่เคยได้ยินคนเอ่ยถึงเงิน40ล้านด้วยคำว่า “แค่” เลย

มิสวายอมยิ้มมองท่าทางไร้เดียงสาของเด็กสาวคนตรงหน้าอยู่นานก่อนจะพยายามเรียกสติเธออีกครั้ง
เอาล่ะคุยเรื่องงานกันได้แล้วทิรา เป็นไงบ้าง เห็นเขาตัวจริงแล้วพอจะทำให้เขาหลงรักเธอได้บ้างหรือเปล่าล่ะ”
เอ่อ..คือ..เอาจริงๆนะคะ ทิว่าเขาดูเพอร์เฟรคเกินกว่าจะมาชายตามองทิยังไงก็ไม่รู้ นี่เขาชอบผู้หญิงจริงๆหรือคะ แล้วมิสวายก็ชอบเขาไม่ใช่หรือคะ จะให้ทิไปทำให้เขารักทิจริงๆหรือคะ คุณจะไม่เสียใจหรือ”
เสียใจหรือ..มันเลยจุดนั้นมานานมากแล้ว คำว่าเสียใจสำหรับฉันมันก็เหมือนอากาศนั้นล่ะต้องอยู่กับมันให้ได้ เพราะถ้าไม่มีมัน ฉันก็ตาย...”

ทิราหน้าเสียทันทีที่ได้ฟังประโยคเศร้าๆให้ความรู้สึกเจ็บร้าวลึกแปลกๆจากมิสวาย

เอ่อ..คุณพูดเหมือนมีอะไรบางอย่างระหว่างคุณทั้งสองคน คุณบอกว่าเขาเป็นคนรักคุณแต่เขาไม่ใช่แฟนคุณ แต่ทำไมฟังๆดูเหมือนคุณอยู่กับเขามานานมากขาดไม่ได้...คุณสองคนคบกันหรือคะ..”

หึ..ทิรา..เธอยังไม่เคยมีความรัก คงไม่รู้จักความสัมพันธ์ที่มันซับซ้อนใช่มั้ย เอาไว้ทำงานให้ฉันไปเรื่อยๆเดี๋ยวเธอก็รู้เองว่าอะไรเป็นอะไร บางทีฉันก็สับสนในสถานะของฉันเหมือนกัน ฉันอาจจะอธิบายให้เธอเข้าใจไม่ได้เพราะฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน..”มิสวายเผยอปากสีแดงแกล้งยิ้มให้ทิรา ก่อนจะยื่นมือหยิบแฟ้มที่คอนโซลไม้ด้านหน้าขึ้นมายื่นโชว์เด็กสาว..

เอาล่ะทิราเวลาของแม่เธออาจจะมีไม่มากแล้ว และเงินสิบเอ็ดล้านของฉันก็กำลังรอเธออยู่ ฉันจะถามเธออีกเป็นครั้งสุดท้ายว่าเธอสนใจที่จะรับงานนี้มั้ย ถ้าเธอสนใจนี่คือสัญญาและรายละเอียดในสิ่งที่เธอจะต้องทำรวมทั้งรายละเอียดเกี่ยวกับเมษาที่ฉันพยายามรวบรวมมาให้เธอทั้งหมดจะได้ง่ายต่อการทำงานของเธอ..เธอพร้อมที่จะเซ็นหรือยัง..”
////////////////////////////

ทิรากึ่งเดินกึ่งวิ่งหอบถุงหูหิ้วพะรุงพะรังขึ้นบันไดโรงพยาบาลไปยังห้องวิกฤต ตอนนี้บ่ายโมงกว่าเป็นเวลาที่โรงพยาบาลรัฐทั่วไปอนุญาติให้ญาติผู้ป่วยเยี่ยมไข้ได้และเธอมาถึงหลังจากเวลาที่พยาบาลเปิดให้เข้าเยี่ยมแค่5นาทีเท่านั้น

จิตใจเธอจดจ่ออยู่กับแม่ ไม่แปลกหรอกที่เด็กสาวจะรีบวิ่งกระหืดกระหอบเข้าไปในห้องโดยไม่มองซ้ายมองขวาหาบุคคลใดๆเลย ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากเธอรู้ดีว่าไม่มีญาติคนไหนจะมาเยี่ยมแม่อีกแล้วนอกจากเธอ

แม่..ทิมาแล้วนะคะ..แม่เป็นยังไงบ้าง..”

เสียงหวีดของเครื่องช่วยหายใจดังขึ้นแทนคำตอบจากมารดา ภาพยุพินนอนหลับตาโดยที่มีผ้าพันแผลพันอยู่รอบๆหัวยังคงเป็นภาพเดิมที่ทิราได้เห็นก่อนจะออกจากห้องไปเมื่อวานนี้

ทิราหยิบถุงพลาสติกขึ้นวางไว้ที่หัวเตียง เธอเลือกหยิบส้มลูกเกลี้ยงๆหนึ่งลูกขึ้นมาวางไว้บนมือแม่ที่ไม่ได้สติ ก่อนจะพยายามประคับประครองมือแม่ขึ้นมาให้อยู่ข้างๆเธอ..

หนูซื้อส้มสายน้ำผึ้งมาฝากแม่ ของโปรดแม่ แม่ลุกขึ้นมากินสิคะ แม่..”พูดไม่จบประโยคน้ำตาหญิงสาวดันพรั่งพรูออกมาเสียก่อน ทิราไม่สามารถอดกลั้นความสะเทือนใจได้เลยเมื่อเผลอนึกว่าแม่อาจจะไม่ได้ตื่นขึ้นมากินส้มของโปรดท่านอีกแล้ว..

หญิงสาวก้มหน้าร้องไห้กับมือมารดาสะอึกสะอื้นอยู่นานกว่าจะสะดุ้งขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงทุ้มเสียงๆหนึ่งดังอยู่ข้างๆเธอ

แม่เป็นยังไงบ้าง ทิ..”
พี่ฤทธิ์..” ทิราเงยหน้าขึ้นมายิ้ม ใบหน้าเศร้าๆก่อนหน้านั้นฉายแววความดีใจขึ้นนิดหนึ่งเมื่อเห็นชายหนุ่มคนที่เธอไว้ใจและคุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็กๆ
พี่มารอเยี่ยมน้าพินนานแล้ว เมื่อกี้พี่คุยโทรศัพท์กับนายอยู่หน้าห้องเลยไม่ได้ทักทิตอนที่ทิเดินเข้ามาในห้องน่ะ”

ดวงตาอ่อนโยนของชายหนุ่มหรี่ตามรอยยิ้มที่เขาให้กำลังใจกับทิราในขณะที่พูด

คงฤทธิ์ ชายหนุ่มร่างกายกำยำสูงใหญ่แต่มีใบหน้าหวานดั่งสตรี เขาเป็นชายหนุ่มบุคลิกนุ่มๆ ท่าทางสุภาพอบอุ่น จนใครหลายคนอาจคิดว่าเขาเป็นหมอทันที หากไม่มีใครบอกเสียก่อนว่าเขาคือสารวัตรหนุ่มอนาคตไกลที่ทำคดีใหญ่ๆในท้องถิ่นและต่อสู้กับอาชญากรมานับไม่ถ้วนแล้ว..
เขาเป็นผู้ชายคนเดียวที่ทิรายอมคุยด้วยด้วยความไว้ใจและยอมให้เข้าใกล้ตัวเธอที่สุด ทิราคิดเสมอว่าหากเป็นไปได้เธอก็อยากมีพี่ชายอย่างคงฤทธิ์สักคน หากแต่ชายหนุ่มหาได้คิดกับทิราแค่พี่ชายน้องสาวอย่างนั้นไม่ เขาเป็นหนึ่งในชายหนุ่มที่แอบรักและหมายปองในตัวทิรามาตั้งแต่ทิราเริ่มแตกเนื้อสาวและย้ายมาตั้งถิ่นฐานในเขตรับผิดชอบของ สภ.เขาแล้ว..

ร่างสูงกำยำในชุดเครื่องแบบครึ่งท่อนค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ๆเตียงของยุพิน เขามองดูยุพินด้วยความห่วงใยก่อนจะเอื้อมมือมาจับไหล่ทิรา

ทำใจดีๆนะทิ พี่เชื่อว่าน้าพินคงไม่เป็นอะไรมากหรอก แล้วไม่ต้องห่วงเรื่องคดีนะพี่ตามเรื่องของคู่กรณีน้าพินให้อยู่ หลักฐานมัดแน่นมีทั้งกล้องวงจรปิดจับภาพได้ยังไงๆก็ดิ้นไม่หลุดหรอก”
ทิขอบคุณพี่ฤทธิ์ด้วยนะคะ ทิก็ลืมเรื่องคดีไปเลยมัวแต่ห่วงเรื่องของแม่ มัวแต่ห่วงเรื่องค่ารักษาแม่อยู่เลยไม่ได้ตามเรื่องนั้น” หญิงสาวทั้งพูดทั้งยกมือไหว้
เออ..แล้วเป็นยังไงบ้าง พวกค่าใช้จ่ายแม่เรามีสำรองจ่ายหรือเปล่าล่ะ มีมั้ย ไม่มีบอกพี่ได้นะ”

ทิราอึ้งเมื่อนึกอะไรขึ้นได้ เธอก้มหน้ามองกระเป๋าสะพายที่ตัวเองสะพายอยู่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมายิ้มพร้อมๆกับส่ายหัวให้สารวัตรหนุ่มวัยสามสิบที่อยู่ต่อหน้า

เอ่อ..ไม่เป็นไรค่ะพี่ฤทธิ์ เอ่อ..ทิพอมีเงินเก็บอยู่ ทิพอมีสำรองจ่ายอยู่ค่ะ”
อ้าวเหรอ พี่ก็นึกเป็นห่วงเราเห็นร้านก็ไม่ได้เปิดแล้วเห็นเรารอสมัครงานด้วย นี่พี่ถามอาการหมอคร่าวๆน้าพินน่าจะได้ผ่าตัดสมองด้วยใช่มั้ยคงต้องใช้เงินเยอะแน่ๆ แล้วเงินสำรองจ่ายของทิจะพออยู่เหรอ”

ทิรายิ้มแหยๆให้ชายหนุ่มก่อนจะพยักหน้าตอบรับเขาอีกครั้ง...
พอค่ะ..”

ใช่สิ..เงินหนึ่งล้านที่นอนรอในบัญชีเธอตอนนี้ ยังไงๆก็ต้องพอกับค่ารักษาของแม่เธออยู่แล้วนี่เธอยังต้องกังวลอะไรหรือรบกวนใครอีกล่ะ..

ทิราก้มหน้าลงมองกระเป๋าของเธอทั้งพยายามลูบๆคลำๆมันไว้เมื่อนึกถึงเงินสดอีกหนึ่งแสนในกระเป๋าเธอที่เธอพึ่งไปขึ้นเช็คมา ก่อนที่ภาพรอยยิ้มจากปากสีแดงกร่ำของสุภาพสตรีชุดดำเมื่อตอนเห็นเธอเซ็นสัญญาเมื่อวานจะปรากฏขึ้นในหัวของเธออีกครั้ง..

เฮ้อ..รับเงินเขามาแล้วก็ต้องทำงานเขาให้ได้สินะ ขึ้นหลังเสือแล้วจะลงก็คงจะยากแล้วใช่มั้ย..ทิราทั้งคิดเหม่อก่อนที่เสียงของคงฤทธิ์จะดังเรียกสติเธออีกครั้ง...

เอ่อ เยี่ยมน้าพินเสร็จแล้วทิจะกลับบ้านเลยมั้ย กลับกับพี่มั้ย เดี๋ยวพี่จะไปส่งทิที่บ้านเอง”
เอ่อ..ยังไม่กลับค่ะ ทิมีธุระ..เอ่อ..ทิต้องไปทำงานก่อนน่ะค่ะ..”ชายหนุ่มงุนงง เขาครุ่นคิดถึงสิ่งที่เขาได้รู้มาจากหญิงสาวที่เขาแอบรัก ก่อนจะรีบถามกลับไปว่า..
งาน??งานอะไร ทิได้งานทำแล้วเหรอ???”

//////////////////////////////

ทิราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คข้อความเมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนตอนที่เธอเดินลงมาจากตึกที่แม่เธออยู่ เป็นข้อความจากไลน์ที่มิสวายส่งมาบอกเธอสั้นๆง่ายๆว่า..

ขึ้นมาที่รถ”

หญิงสาวคิ้วขมวด เธอเงยขึ้นมาจากโทรศัพท์แล้วกลายเป็นผงะตกใจทันทีเมื่อเห็นรถลีมูซีนสีขาวคันเมื่อวานขับเข้ามาจอดอยู่ข้างๆเธอที่ฟุตบาธแล้ว

เร็วๆ” ข้อความจากมิสวายแสดงขึ้นอีกครั้ง ซึ่งนั้นก็ทำให้ทิรารีบเปิดประตูรถเข้าไปนั่งที่นั่งด้านหลังที่เธอเคยนั่งต่อหน้ากับมิสวายทันที

สวัสดีค่ะมิสวาย” หญิงสาวรีบยกมือไหว้สตรีชุดดำเมื่อนั่งลงกับรถได้ มิสวายพยักหน้ารับก่อนจะหันไปพยักหน้าส่งสัญญาณให้คนขับรถออกรถไป

แม่เธอเป็นอย่างไรบ้างทิรา ผ่าตัดหรือยัง”
ยังค่ะ รอคิวห้องผ่าตัดอยู่ค่ะ คิวน่าจะเป็นพรุ่งนี้เย็นค่ะ” ความกังวลใจทำให้เด็กสาวตอบรับมิสวายด้วยน้ำเสียงหงอยๆ การรอคอยกับโรงพยาบาลรัฐเป็นสิ่งที่คู่กันเสมอ แม้เธอจะห่วงแม่และรู้ว่าเวลาทุกๆวินาทีมีค่าไม่สามารถรอได้ แต่เธอก็เข้าใจว่ายังมีคนไข้คนอื่นๆที่มีอาการหนักหนาสาหัสไม่แพ้แม่เธอรอใช้ห้องผ่าตัดอยู่เช่นเดียวกัน..

มิสวายมองใบหน้าหน้าเศร้าๆซึมๆของเด็กสาวคนต่อหน้าอย่างเป็นห่วง และเหนือสิ่งอื่นใดนั้นเธอก็ห่วงว่างานที่เธอว่าจ้างทิราอาจจะออกมาไม่ดีก็ได้ถ้าหญิงสาวไม่มีสมาธิเพราะมัวแต่ห่วงแม่เธออยู่อย่างนี้ สุภาพสตรีในชุดดำจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาก่อนจะบอกบางอย่างกับทิราให้เธอเบาใจลง..

โรงพยาบาลรัฐก็อย่างนี้ล่ะ เอาล่ะทิรา ฉันจะจัดการย้ายแม่เธอไปโรงพยาบาลเอกชนให้ดีกว่า เดี๋ยวฉันจะหาหมอที่ดีที่สุดและเก่งที่สุดของโรงพยาบาลนั้นดูแลแม่เธอให้ เธอจะได้มีสมาธิทำงานให้กับฉันไง”

ทิราตาโต เธอรีบถามมิสวายกลับคืนไปอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

จะ..จริงเหรอคะ..เอ้ย..อันนี้รวมกับเงิน10ล้านนั่นด้วยหรือเปล่าคะ” ชั่ววินาทีที่ดีใจ...ความงกของทิราก็รีบวิ่งแทรกเข้าเตือนสติเธอทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธออาจจะโดนหักเงินส่วนนี้ไปก็ได้เมื่องานเสร็จแล้ว..

..โรงพยาบาลเอกชน โอ้ย..ค่าใช้จ่ายต้องบานปลายแน่ๆ.. ทิราคิ้วขมวดกลืนน้ำลายเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเงินหนึ่งล้านอาจจะไม่พอสำหรับค่ารักษาแล้ว..

มิสวายหัวเราะหึๆ นึกขำในความงกของเด็กสาวแสนสวยคนตรงหน้า จริงสินะเธอก็ลืมไปว่าชีวิตลำบากของทิราทำให้เธอเรียนรู้ที่จะประหยัดและเห็นค่าของเงินทุกบาท นี่ทิราคงคิดว่าเธอจะหักเงินที่หล่อนคิดว่าจะได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยเมื่อหล่อนตั้งใจทำงานให้เธอสำเร็จทุกอย่างแล้วอย่างนั้นล่ะสิ..

...เด็กหนอเด็ก...ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยว่าฉันเป็นใคร..มิสวายอมยิ้มมองทิราอย่างอารมณ์ดีก่อนจะบอกเธอไป

หึ..ไม่เกี่ยวกันหรอก ถือว่าเป็นสวัสดิการในฐานะพนักงานฉันคนหนึ่งก็แล้วกัน ฉันก็แค่สงสารเธอทิรา ใครทำงานให้ฉัน ฉันก็ให้สวัสดิการอย่างนี้ทุกคนนั่นล่ะ ไม่ต้องคิดมากหรอก ฉันไม่หักเงินเธอหรอก ขอให้เธอทำงานให้ฉันสำเร็จก็พอ”

จริงหรือคะ ขอบคุณมิสวายมากๆเลยนะคะ” ทิรายกมือขึ้นไหว้มิสวายประหลกๆ เธอนึกขอบคุณสุภาพสตรีในชุดดำที่เป็นเหมือนนางฟ้าลงมาช่วยชีวิตในยามยากลำบากของเธออย่างนี้เหลือเกิน ไม่รู้ว่าถ้าไม่บังเอิญเจอมิสวายแล้วชีวิตของเธอในตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง..

..เธอจะกำลังขายตัวให้กับใครบ้าง เพื่อให้พอกับค่ารักษาของแม่เธอ..

..นางฟ้าในชุดดำ แม้ฉันจะไม่รู้ว่าคุณเป็นใครแต่ฉันก็รู้สึกดีกับคุณเหลือเกิน ฉันจะตอบแทนคุณและทำงานของคุณให้ดีที่สุด.. ทิราทั้งคิดทั้งยิ้มนั่งจ้องมองมิสวายหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครสักคนในเรื่องโรงพยาบาลของแม่ทิราอย่างที่หล่อนบอกเธอก่อนหน้านั้น...
///////////////////////////

ทิรากลับจากโรงพยาบาลเอกชนแห่งใหม่ที่มิสวายย้ายแม่ไปราวๆหกโมงเย็นของวัน ตอนนั้นมิสวายให้คนขับรถไปส่งเธอที่โรงพยาบาลและนัดแนะให้เธอรอดูแลแม่ที่อีกไม่นานหลังจากนั้นรถจากโรงพยาบาลรัฐก็ส่งตัวย้ายมาให้

ตอนนั้นสตรีในชุดดำบอกแต่เพียงว่าให้ทิราทำใจให้สบาย เพราะหล่อนได้ดำเนินการกำชับหมอรวมทั้งดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ทิราหมดแล้ว ทิรามีหน้าที่แค่ดูแลแม่และรีบไปตามนัดในเวลาทำงานสองทุ่มที่มิสวายนัดเธอไว้ก็พอแล้ว..

ทิราก้าวเท้าลงจากแท๊กซี่ที่จอดส่งเธอหน้าปากซอย เธอเดินลัดเลาะตามทางเดินชุมชนแออัดเข้าไปเกือบๆท้ายซอย เดินตัดหัวมุมร้านขายของชำผ่านบ้านคนทรงเจ้าที่แม่เธอมักจะเข้าไปใช้บริการก่อนจะถึงบ้านไม้ชั้นเดียวที่ทาสีฟ้าเคลือบแผ่นไม้เอาไว้และสีพวกนั้นก็เริ่มจะหลุดรุ่ยไปตามแรงลมแรงแดดตามระยะเวลาเกือบๆสิบปีที่ทิราและแม่อาศัยเช่าอยู่ที่นี่

บ้านเช่าไม้ชั้นเดียวราคาเช่าต่อเดือนไม่แพงแถมยังอยู่ใกล้กับตลาด และจากจุดนี้ทิราสามารถนั่งรถประจำทางไปโรงเรียนและมหาวิทยาลัยได้สบายในตอนที่เธอยังเรียนอยู่ แม้จะเป็นชุมชนแออัด แต่ทิราก็ชินที่จะอยู่และไปๆมาๆเข้าออกซอยได้สบายๆเพราะโชคดีที่ซอยนี้ไม่มีเด็กเกรกมะเหรกเกเรอะไรอาศัยอยู่ ภาพชายแก่หญิงชรานั่งคุยกันอยู่หน้าบ้านเป็นภาพที่ชินต่อสายตาทิรามาตั้งแต่สมัยย้ายมาอยู่ใหม่ๆ ซอยนี้คนหนุ่มคนสาวน้อยมีแต่คนแก่วัยทองอาศัยอยู่กิน ไม่แปลกเลยที่ทิราจะได้ยินคนเรียกซอยนี้ขำๆกันว่า “ซอยบ้านพักคนชรา”

ทิราหยุดยืนอยู่หน้าประตูก้มลงค้นกุญแจในกระเป๋าสะพาย แต่พอเธอเงยหน้าจะเอาดอกกุญแจไขบ้านเข้าไปความประหลาดใจก็เกิดขึ้นกับเธอทันที..

ประตูบ้านเธอแง้มออก กุญแจไม่ได้ใส่ไว้ มีคนดึงมันออกไป แสดงว่าข้างในต้องมีอะไรแน่นอน..

หญิงสาวรีบเปิดประตูบ้านพุ่งเข้าไป นึกเป็นห่วงข้าวของเครื่องใช้รวมทั้งเงินสดที่เธอแอบเก็บสำรองไว้ในบ้านนั้นด้วย มีโจรเข้ามางัดบ้านเธอแน่นอน..เธอคิดเช่นนั้น..

สำหรับทิราความงกมาก่อนความกลัว ความกล้าหาญที่จะเผชิญหน้าโจรเมื่อคิดว่ามันจะมาเอาเงินที่เธอกับแม่อุตสาห์เก็บเล็กผสมน้อยทำให้เธอรีบพุ่งพรวดเข้าไปในบ้านทันทีโดยลืมคิดไปว่า..หากมีโจรอยู่ในบ้านจริงๆสิ่งที่ดึงดูดใจโจรมากกว่าเงินเล็กๆน้อยๆพวกนั้น..น่าจะเป็นใบหน้าสะสวยโดดเด่นและเรือนร่างสะโอดสะองน่าหลงใหลของเธอในตอนนี้มากกว่า...

หญิงสาวรีบวิ่งเข้าไปโถงกลางบ้านพร้อมๆกับอาการตกอกตกใจเมื่อเจอเข้ากับใครบางคนในชุดดำทั้งตัว...

มิสวาย..” ทิราอุทานมือทาบอก เธอยืนอึ้งมองสตรีในชุดดำนั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาไม้หน้าทีวีของเธอโดยมีบอดิการ์ดสองนายยืนขนาบข้างซ้ายขวาระหว่างโซฟาไว้

หญิงสาวในชุดดำยิ้มโชว์ปากแดงกร่ำ เงาจากหมวกใบใหญ่ยังคงปกคลุมใบหน้าเกือบๆจะทั้งหน้าเอาไว้จนแทบจะไม่ต้องใส่แว่นตาดำทับลงไปอีกก็ได้ แต่มิสวายก็ยังคงรักษาภาพลักษณ์อึมครึมมิดชิดเอาไว้แม้จะอยู่ในบ้านที่เด็กสาวอยู่แค่คนเดียวก็ตาม..

ทิราคิ้วขมวดมองมิสวาย..นี่คุณเธอใส่ชุดสีดำทะมึนทึบทึบของเธอเดินฝ่าเข้ามากลางชุมชนอย่างนี้เนี่ยนะ ไหนว่าเป็นความลับ ไหนระบุในสัญญาชัดเจนว่าห้ามให้ใครรู้เรื่องของเธอกับมิสวายเด็ดขาดไง แล้วแต่งกายประหลาดประเจิดประเจ้อเป็นเป้าสายตาเดินฝ่าดงคนเข้ามา ไม่คิดว่าจะมีใครสงสัยอย่างนั้นเหรอ..เด็กสาวคิดถึงภาพสตรีในชุดดำในวันนี้เธอยื่นสัญญาให้อีกครั้ง..

“..อย่าพยายามสืบว่าฉันเป็นใคร จงคิดว่าฉันเป็นแค่ใครก็ได้ที่ไม่มีตัวตนในโลกใบนี้ อย่าให้ใครรู้เรื่องระหว่างฉันกับเธอและอย่าลืมว่าไม่ว่าเธอจะพยายามสืบเรื่องฉันยังไง..ฉันย่อมรู้ตัวไวกว่าเธอหนึ่งก้าวเสมอ จำไว้..”

โฮะ..นี่คงจะเหมือนที่เธอบอกกับฉันในตอนที่เซ็นสัญญาสินะ ไม่ว่ายังไงเธอย่อมรู้ตัวเร็วกว่าฉันเสมอหนึ่งก้าวนี่ก็คงจะหมายความว่าเธอรู้เรื่องฉันทุกอย่างอยู่แล้ว อย่างที่เธอมาหาฉันได้ถึงในบ้านอย่างนี้ใช่มั้ย... ทิราทั้งคิดทั้งขมวดคิ้ว ตอนนี้เด็กสาวแอบเคืองผู้หญิงในชุดดำขึ้นมานิดๆที่เห็นว่าหล่อนช่างไม่ให้เกียรติเธอเอาเสียเลย การสะกดรอยตาม การรุกร้ำชีวิตส่วนตัวเป็นสิ่งที่ทิราไม่พึงปรารถนาเอามากๆ เพราะเธอเป็นผู้หญิงและครอบครัวของเธอก็มีแต่แม่ที่เป็นผู้หญิงเท่านั้น การระแวดระวังภัยของพวกเธอทั้งสองนั้นคือการกันไม่ให้ใครละลาบละล้วงลุกล้ำเข้ามาในชีวิตโดยที่ไม่ได้อนุญาติอย่างที่เธอกำลังโดนกระทำคุกคามอย่างนี้..

..ตัวเองห้ามไม่ให้เราสืบ ทีอย่างนี้เข้ามาประชิดตัวถึงในบ้านเชียวนะ..เด็กสาวกัดฟันมองผู้หญิงในชุดสูทผ่าแขนสีดำด้วยความเคืองค้าง อารมณ์ช่างต่างจากความซาบซึ้งใจเมื่อตอนบ่ายที่เธอมีให้กับผู้หญิงคนเดียวกันนัก นางฟ้าในชุดดำอย่างนั้นเหรอ นี่เธอคงต้องทบทวนดูใหม่เสียแล้วว่าผู้หญิงปริศนาคนนี้จะเข้ามาทำอะไรกับชีวิตของเธอบ้าง..

เชิญนั่งทิรา..ไม่ต้องเกร็ง ทำตัวตามสบายเลยนะ”เสียงสุภาพสตรีในชุดดำเรียกสติทิราอีกครั้ง ซึ่งนั่นก็ทำให้ทิราเหวอผงะทันทีที่เห็นว่าแขกไม่ได้รับเชิญ..เชิญให้เธอนั่งในบ้านของตัวเธอเสียด้วย..

..ช่างกล้า.. หญิงสาวแอบบ่นในใจแต่ก็ไม่ได้แสดงออกอะไรเพราะสายตาเธอเหลือบไปเห็นบุรุษในชุดดำอีกสองคนยังคงยืนคุมเชิงและเฝ้ามองท่าทางการเคลื่อนไหวของทิราทุกระเบียบนิ้วอยู่

ทำไมเธอกลับบ้านช้านักล่ะ ฉันจำได้ว่าตารางนัดงานของเราวันนี้อยู่ที่สองทุ่มนี่นา อีกแค่หนึ่งชั่วโมงกว่าๆเธอจะเตรียมตัวทันได้อย่างไร” ผู้หญิงในชุดดำทั้งพูดทั้งยิ้ม เธอจ้องมองทิราที่นั่งลงที่นั่งด้านข้างเธอก่อนจะยกมือขึ้นดีดนิ้วให้สัญญาณกลางอากาศดังเป๊าะ จนทิราเองยังแอบสะดุ้งเมื่อเห็นบอดิการ์ดด้านซ้ายของมิสวายรีบหันขวับมาหาทิราก่อนจะก้มลงหอบเอากองถุงกระดาษใบใหญ่ๆพะรุงพะรังหลายๆถุง เดินเข้ามาวางให้ต่อหน้าโต๊ะรับแขกที่ทิรานั่ง
ฉันดูเสื้อผ้าจากตู้เธอ รู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ผู้หญิงในแบบที่เมษาชอบ ยังไงเธอรีบอาบน้ำแต่งตัวตามเสื้อผ้าที่ฉันซื้อมาให้เธอด้วยแล้วกันนะ”

ห๊ะ!! นี่คุณเข้าไปค้นดูเสื้อผ้าฉันด้วยอย่างนั้นเหรอ!!!” ทิราลุกขึ้นโวยวายมิสวายทันทีที่ได้ยินคำบอกกล่าว ตอนนี้เด็กสาวนัยตาสีน้ำตาลกำลังโกรธ เธอเริ่มคุมความโมโหที่เธออุตสาห์เก็บไว้ก่อนหน้านี้ไม่ได้เสียแล้ว

คุณถือวิสาสะเข้ามาบ้านฉันตอนที่ฉันไม่อยู่ หนำซ้ำยังเข้ามาค้นดูของส่วนตัวของฉันอีก นี่มันนอกเหนือจากสิ่งที่เราตกลงกันแล้วนะ”
นอกเหนือจากข้อตกลงอย่างนั้นเหรอ..ไม่นี่ เธอหมายถึงสัญญาใช่มั้ย ฉันว่าไม่นะ นี่เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาเลยล่ะ”

ทิราคิ้วขมวดทันทีที่ได้ยินคำว่า “ส่วนหนึ่ง” เธอยืนมองมิสวายยื่นมือขึ้นดีดนิ้วส่งสัญญาณบอดิการ์ดของเธออีกครั้ง ก่อนที่ชายชุดดำอีกฝั่งจะเปิดเสื้อสูทของเขาหยิบเอาซองเอกสารส่งมาให้หญิงสาวในชุดดำเบื้องหน้าด้วยอาการพินอบพิเทา

มิสวายหยิบเอกสารในซองขึ้นมา เธอฉีกยิ้มจากปากสีแดงของเธอช้าๆก่อนจะอ่านข้อความในกระดาษแผ่นนั้นชัดๆ....

“...สัญญานี้เขียนขึ้นระหว่าง “มิสวาย”ซึ่งต่อไปนี้ในสัญญาจะเรียกว่า “ผู้ว่าจ้าง” และ “นางสาวทิรา บุญจันทร์” ซึ่งต่อไปนี้ในสัญญาจะเรียกว่า “ผู้รับจ้าง” อีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงทำสัญญาจ้างงานกันโดยมีข้อความดังต่อไปนี้
ผู้ว่าจ้างตกลงว่าจ้างผู้รับจ้างให้หน้าที่ทำให้ “นางสาวเมษา อิงตะวัน” หลงรักให้ได้ภายในระยะเวลาสามเดือน โดยผู้รับจ้างจะใช้วิธีใดก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอยู่ภายใต้ข้อตกลงดังต่อไปนี้
ข้อ1.ไม่ว่าผู้รับจ้างจะใช้แผนการหลอกล่อนางสาวเมษาอย่างไรก็ห้ามมีอะไรกับนางสาวเมษาเด็ดขาด
ข้อ2.ผู้รับจ้างต้องทำตามคำสั่งของผู้ว่าจ้างเสมอ ห้ามขัดคำสั่งเพราะผู้ว่าจ้างอาจจะเป็นผู้วางแผนทั้งหมดให้
ข้อ3.ห้ามให้นางสาวเมษาหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเมษารู้ตัวจริงของผู้รับจ้างเป็นใคร
ข้อ4.ห้ามไม่ให้ใครรู้เรื่องราวระหว่างผู้รับจ้างกับผู้ว่าจ้างเด็ดขาด
ข้อ5.ห้ามทำการสืบหาว่าตัวจริงของผู้ว่าจ้างเป็นใครเด็ดขาด
หากผู้รับจ้างละเมิดข้อตกลงข้อใดข้อหนึ่งถือว่าสัญญาณเป็นโมฆะ ผู้ว่าจ้างมีสิทธิยกเลิกสัญญาและยึดเอาเงินมัดจำหนึ่งล้านบาทที่ให้ไปก่อนหน้านั้นคืนทั้งหมดได้..” มิสวายเงยหน้าจากสัญญาขึ้นมายิ้มให้ทิราอีกครั้ง..

แต่นี้คุณก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของฉัน ซึ่งมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผู้หญิงที่ชื่อเมษาเลยนี่”
เกี่ยวสิ ก็ฉันบอกอยู่นี่ไงว่าถ้าเธอยังแต่งตัวอยู่อย่างนี้เมษาเขาไม่ชายตาแลเธอหรอก เธอจะต้องเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวเสียใหม่ แล้วในสัญญาก็บอกอยู่แล้วไงว่าให้ทำตามคำสั่งของฉันเพราะฉันก็มีหน้าที่วางแผนการให้เธอเช่นเดียวกัน คือ..เอางี้นะ ลำพังความคิดของเด็กกะโปโลอย่างเธอน่ะ ฉันไม่คิดว่ามันจะทำให้แผนการนี้สำเร็จได้หรอก”

ทิราคิ้วสั่นดิ๊กๆ คำว่าเด็กกะโปโลทำให้อารมณ์ฉุนเฉียวของเธอเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวแล้วตอนนี้


เด็กกะโปโลอย่างนั้นเหรอ ถ้าคุณคิดว่าฉันเป็นเด็กกะโปโลทำไมคุณไม่หาคนใหม่ที่ดีกว่าหรือไม่ก็จัดการด้วยตัวเองล่ะ ถ้าคุณคิดว่าฉันในตอนนี้มันแย่ขนาดนั้น คุณก็ทำให้เขารักคุณเองสิ!!

ปึง!!

มิสวายหวดกระดาษสัญญารวมทั้งซองน้ำตาลในมือลงบนพื้นโต๊ะทันทีที่ได้ยินเด็กสาวที่อายุอานามห่างจากเธอถึง12ปีกำลังโยกโย้ท้าทายอารมณ์เธออยู่ ซึ่งนั่นก็ทำให้บอดิการ์ดทั้งสองคนรีบเดินเข้าไปประชิดตัวทิราจนทิราสะดุ้งหน้าถอดสีทันทีที่เห็นเหมือนพวกเขากำลังจะทำอะไรเธอถ้าไม่โดนสตรีในชุดดำห้ามเสียก่อน..

หยุด!! อย่าพึ่งทำอะไรเธอ ปล่อยเธอไปก่อน”

มิสวายถอนหายใจใหญ่พยายามสงบสติอารมณ์ ซึ่งนั่นเลยทำให้ทิราเริ่มรู้ตัวว่าตนเองเผลอทำให้คนที่เธอรู้ว่าหล่อนมีอำนาจเงินตรา รวมทั้งความพิเศษเหนือชาวบ้านชาวช่องโกรธจัดเข้าแล้ว ตอนนี้หน้าของแม่เธอในห้องพิเศษโรงพยาบาลเอกชนลอยขึ้นในหัวทันทีที่นึกขึ้นได้ว่า..แม่เธอยังไม่ฟื้น..แม่เธอยังไม่ฟื้น..อดทนไว้ทิรา..อย่าทำให้เขาโกรธ เข้าใจมั้ย..

เด็กสาวคอตกรีบนั่งลงกับเก้าอี้ตัวเก่าก่อนจะยกมือไหว้ขอโทษมิสวายประหลกๆ

ขอโทษนะคะมิสวาย ทิไม่ได้ตั้งใจ ทิแค่..แค่ โมโหที่คุณเข้าไปค้นดูของของทิและว่าทิเป็นเด็กกะโปโลแค่นั้นเอง ทิไม่ตั้งใจกวนอารมณ์คุณหรอกค่ะ ถ้ามิสวายเห็นว่าอะไรดีสมควรทำทิก็จะทำให้ก็แล้วกันค่ะ..ทิขอโทษที่โยกโย้คุณนะคะ”
มิสวายนั่งนิ่งไม่ตอบอะไร เธอได้แต่เบือนหน้าหนีทิราไปใคร่ครวญครุ่นคิดถึงสิ่งที่เด็กสาวพูดด้วยความเจ็บใจอยู่เงียบๆ..

นั่นสินะ ทำไมฉันถึงทำให้เขารักฉันไม่ได้ ทั้งๆที่ฉันก็มีทุกอย่างพร้อมขนาดนี้ หึ..น่าสมเพทตัวเองเสียจริง..นี่ฉันต้องมาพึ่งพาเด็กสาวที่ไม่รู้ประสีประสาทั้งไร้เดียงสา ไม่รู้จักแม้กระทั่งว่าความรักจริงๆอาจะไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคนก็ได้ในการดึงเอาคนรักตัวเองกลับมาอย่างนั้นหรือนี่..สตรีในชุดดำนั่งเหม่อลอยอยู่นานก่อนจะพยายามปรับอารมณ์ เธอหันกลับมามองเด็กสาวใบหน้าหงอยๆนั่งคอตกมองสัญญาบนพื้นโต๊ะด้วยความรู้สึกผิดที่หล่อนเผลอพูดให้เธอโกรธก่อนหน้านี้ก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่เธอนั่งเดินเข้ามาอยู่ต่อหน้าเด็กสาวแล้วเชยคางหล่อนให้เงยหน้าขึ้นมามองเธอ

เอาล่ะทิรา ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว เธอรีบไปอาบน้ำเถอะ ฉันจะได้รีบช่วยเธอแต่งตัว...”

//////////////////////

แสงแวววาวของต่างหูเพชรระย้าที่มิสวายบรรจงสวมใส่ให้กับหูทิราสะท้อนผ่านกระจกระยิบระยับ ใบหน้าของเด็กสาวไร้เดียงสาตอนนี้ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันเครื่องประทินโฉมที่เธอในชุดดำบรรจงจัดแต่งให้ หน้าเรียวสวยแบบสาวฝรั่งถูกแต่งเติมให้ดวงตาสีน้ำตาลดูเด่นและคมกริบแลดูน่าค้นหาเหมาะกับชุดเดรสสีดำประกายทองที่เปิดโชว์เนินหน้าอกขนาดใหญ่ด้านหน้านี้เหลือเกิน

มิสวายปล่อยมือจากต่างหูทิรา เธอยืนมองเด็กสาวที่กำลังยืนยิ้มเขินๆอยู่ด้านหน้าอย่างอารมณ์ดี..

สวยแล้ว ดูมีเสน่ห์ลึกลับน่าค้นหาอย่างที่เมษาชอบแล้ว” สตรีในชุดดำทั้งพูดทั้งยิ้ม มือของเธอก็ยื่นไปเชยคางเด็กสาวขึ้นมองริมผีปากสวยอวบอิ่มที่เธอทาแต้มลิปสติกสีแดงเลือดนกไว้ให้
เมาๆมองมาคงมีหลงจูบบ้างล่ะ ปากกระจับอวบอิ่มอย่างนี้น่ะ” มิสวายยิ้มกว้างปลื้มปริ่ม ประหนึ่งศิลปินกำลังชื่นชมผลงานของตัวเองอยู่

..อืม..ปากสวยเซ็กซี่อย่างนี้ต้องมีใครหลงเคลิ้มบ้างล่ะน่ะถ้าเผลอจ้องนานๆอย่างนี้น่ะ...แน่นอนเธอก็คิดเช่นเดียวกัน..

หือ..นี่เขาจะจูบทิด้วยหรือคะ” เด็กสาวหน้าตาเหรอหราขึ้นทันทีที่ได้ยินมิสวายพึมพัมก่อนหน้านั้น ซึ่งนั่นก็ทำให้มิสวายอมยิ้มเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตนเองเผลอพูดอะไรให้ลูกไก่เจี๊ยบน้อยตัวนี้ตื่นกลัวเข้าเสียแล้ว

ไม่หรอกน่า ฉันแค่พูดเล่น ถึงเขาจะเจ้าชู้คาสโนวี่ยังไง เขาก็คงไม่ถึงกับพาผู้หญิงที่พึ่งรู้จักกันได้แค่คืนเดียวไปนอนด้วยหรอก..มั้ง” เสียง “มั้ง” สูงๆแปล่งๆฟังดูไม่ค่อยมั่นใจของมิสวายทำให้ทิราคิ้วขมวดตื่นกลัวเข้าไปใหญ่
โฮย..ทิกลัวๆยังไงไม่รู้ค่ะมิสวาย ยิ่งมาอ่านว่านิสัยของคุณเมษาเจ้าชู้แล้ว..ทิก็ยิ่งกลัวว่า..เอ่อทิจะรักษาสัญญาข้อนั้นได้มั้ย..” มิสวายอมยิ้มหัวเราะหึๆ นึกขำเด็กน้อย

ข้อที่ว่าห้ามมีอะไรกับเขานั่นน่ะเหรอ”

ทิราหน้าแดงพยักหน้าหงึกๆ ทั้งอายทั้งขำ นี่เธอกำลังจะไปอ่อยผู้หญิงด้วยกันแต่ห้ามมีอะไรกับเขาอย่างนั้นเหรอ..แล้วมันจะสำเร็จไปได้ยังไง แต่งเซ็กซี่ไปยั่วเขาแต่ไม่ให้เขามีอะไรด้วยเนี่ยนะ เธอจะรอดไหม??

ยิ่งคิดยิ่งงง ยิ่งนึกทบทวนถึงข้อสัญญารวมทั้งรายละเอียดของผู้หญิงที่ชื่อเมษาแล้วเธอก็ยิ่งมีคำถามชวนสงสัย กระทั่งอดไม่ได้ต้องเรียบๆเคียงๆถามมิสวายไปด้วยทั้งความเกรงใจทั้งสงสัยเหลือคณา..

ขอถามอะไรหน่อยได้มั้ยคะ คืออย่างน้อยๆที่ทิไปทำงานให้คุณนี่ก็ให้ทิได้รู้ความเป็นไปเป็นมาหรือคอนเซ็ปต์ที่งานของเราต้องทำก่อนได้มั้ยว่าทำไปเพราะอะไร คือทิแค่สงสัยว่ามิสวายอยากให้ทิทำให้คุณเมษารักทิเฉยๆเท่านั้นหรือคะ แล้วถ้าเขารักทิได้แล้วทิต้องทำยังไงต่อ”
เธอก็ทิ้งเขาไง ถ้าเธอทิ้งเขาแล้วเดี๋ยวเขาก็กลับมาหาฉันเอง”
อ้าวแล้วตอนนี้เขาก็อยู่เฉยๆอยู่นี่ เขาไม่ไปหาคุณเหรอคือไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้ฉันไปทำให้เขารักก่อนล่ะค่ะ คุณก็ไปเอาเขากลับมาตอนนี้เลยไม่ดีกว่าเหรอ”
หึ..เขาไม่กลับมาหาฉันหรอกเพราะเขากำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น จริงๆแล้วหน้าที่ของเธอก็คือทำยังไงก็ได้ให้เขากับผู้หญิงคนนั้นเลิกกันให้ได้แค่นั้นล่ะ..”
อ๋อ ผู้หญิงคนนั้นเขาแย่งแฟนคุณใช่มั้ยคะ อ๋อ..ทิเข้าใจแล้ว แผนสะกัดมือที่สามด้วยมือที่สี่ใช่มั้ยคะ ถ้าเขาเลิกกันแล้วเดี๋ยวคุณเมษาก็จะกลับมาคบกับคุณใช่มั้ย”ทิราตบมือฉาด เธอเข้าใจเรื่องราวได้ทันทีที่มิสวายพูดมาถึงตอนนี้

แหม..ก็แค่ไปทำให้เขาเลิกกันแล้วดัดหลังทิ้งเขาอีกทีเพื่อที่คุณเมษาอะไรนั่นจะได้กลับมาคบกับมิสวายอย่างนั้นล่ะสิน่ะ เฮ้อ..รักสามเส้านี่เอง..ทิราทั้งคิดทั้งยิ้มจ้องมองไปที่ริมฝีปากแดงกร่ำที่หุบยิ้มก่อนหน้านั้นลง สตรีชุดดำเปล่งเสียงเศร้าๆให้ความรู้สึกปวดร้าวแปลกๆแต่ก็แฝงด้วยความหวังบอกทิราออกมาว่า..

ไม่หรอกทิรา..เขาไม่กลับมาคบกับฉันหรอก ไม่มีวันด้วย แต่เขาจะไม่เดินออกจากชีวิตฉันไปอย่างที่เขากำลังทำกับฉันอย่างนี้แน่นอน ถ้าแผนการของเราสำเร็จ..ทิรา..”